
“จตุพร” ดักคอ” ‘ปชน.’ ไม่เลือกใครเท่ากับโหวต”‘เพื่อไทย ชี้นายกฯจากเพื่อไทยปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา จะเหมือนภาคใต้
31 ส.ค.2568 – นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมวันนี้ว่า เป็นการแสดงจุดยืนไม่เอาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เพราะเห็นว่าเป็นการสืบทอดปัญหาระหว่างไทยกัมพูชาและความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาของชาติ ไม่สามารถปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนได้
” เห็นว่าถ้าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปสงครามไทยกัมพูชาจะไม่มีวันจบ สถานการณ์จะถูกลากเหมือนกับสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความเป็นจริงพรรคเพื่อไทยควรจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการไม่ส่งแคนดิเดตลงแข่งขัน แต่ความเป็นนักการเมืองที่ยังยึดติดกับอำนาจก็ไม่แสดงแบบนั้น ” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ส่วนมองว่าใครควรจะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เราจะควานหาสิ่งที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่แล้ว ในขณะนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ที่พรรคประชาชนได้ตั้งเงื่อนไข 3 ข้อ คือ ยุบสภาภายใน 4 เดือน ทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ และไม่เข้าร่วมรัฐบาล สิ่งที่เห็นคือพรรคประชาชนจะยกมือให้กับใครเป็นรัฐบาลก็เป็นสิทธิและเสรีภาพ เพียงแต่จะต้องอยู่บนพื้นฐาน และให้สัตยาบันกับประชาชน ว่าถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 พร้อมยกเลิก MOU 43 – 44 ทันที ยกเลิกกฎหมายที่เกี่ยวข้องการขายชาติขายแผ่นดิน ยกเลิก Entertainment Complex รวมถึงโครงการแลนด์บริชที่ซุกที่ไว้ และทบทวนวีซ่าสีเทาที่มาทำลายชาติอยู่ เป็นต้น
นายจตุพร ระบุว่า ไม่ว่าใครที่ขึ้นมาภายใต้ระยะเวลาที่จำกัดนี้ 4 เดือนไม่ไปสร้างความเลวร้ายให้กับบ้านเมืองเพิ่มเติมก็ถือว่าเพียงพอ ไม่ได้วาดหวังว่าจะแก้ไขปัญหาอะไรได้แต่ไม่สร้างความเสียหายเพิ่มเติมก็เพียงพอแล้ว ขณะนี้การเมืองรอบนี้เป็นการสอนเรื่องความไม่ละอาย ด้านได้อายอดสามารถทำได้ทุกเรื่องราว
“สิ่งที่น่าวิตกอย่างหนึ่ง คือ ที่พรรคประชาชนนัดประชุมบ่ายโมงในวันพรุ่งนี้ มีอยู่สองทาง ไม่ว่าจะโหวตให้นายชัยเกษม นิติสิริ ก็จะเจอคณะรวมพลังแผ่นดิน โหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่คณะรวมพลังแผ่นดินได้ประกาศเอาไว้”นายจตุพร กล่าว
” ข้อที่ 3 คือไม่โหวตใครเลยเป็นสิ่งที่น่ากังวลแปลว่าเป็นการสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เท่ากับให้พรรคเพื่อไทยรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป เป็นคำตอบเรียงกันมาตั้งแต่ดีลฮ่องกง จนกระทั่งที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มาเล่าให้ฟัง ความจริงคนโทรศัพท์ไปหาควรจะมีความอับอายที่ไปขอคะแนนเสียงพรรคประชาชนให้มาโหวตนายชัยเกษม และการที่ไม่โหวตให้ใครเท่ากับโหวตให้พรรคเพื่อไทย เป็นเส้นทางที่น่ากังวล ” นายจตุพร กล่าว
เมื่อถามว่ามองภาพที่นายภูมิธรรม เวชยชัยรักษาการนายกรัฐมนตรี ขนแกนนำรัฐบาลเดินทางไปพรรคประชาชนอย่างไรบ้าง นายจตุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องของคนความจำเสื่อมด้วยกันทั้งคู่ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมาการฉีก MOU ตระบัดสัตย์ ถ้าพรรคประชาชนเป็นพรรคที่มีความจำเสื่อมและไปสนับสนุนก็ต้องเจอกับประชาชน คนที่มีความคาดหวังว่าจะจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ด้วยการคุมเกมยุบสภาใน 4 เดือนถ้าคนที่มีความจำเสื่อมก็จะเจอกับคนที่มีความจำดีคือประชาชนที่ไม่สามารถยอมรับวิธีการแบบนั้นได้
ส่วนการที่นายภูมิธรรมเสนอ ให้นำรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาใช้ก่อนนั้น นายจตุพร มองว่า เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและเสียงเกินครึ่งของรัฐสภาแต่ต้องได้เสียง 1 ใน 3 ของวุฒิสภา ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่มีปัญญาอยู่แล้ว ย้ำว่าคณะรวมพลังแผ่นดินเราไม่ได้สนับสนุนใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่าหากสุดท้ายพรรคเพื่อไทยได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายจตุพร กล่าวว่า วันเสาร์หน้าก็เจอกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนจะมีการยกระดับหรือไม่เราจะปล่อยให้สถานการณ์ไทยกัมพูชามีสภาพเหมือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นสงครามที่ไม่มีวันจบไม่ได้ ไม่มีความเป็นเอกภาพระหว่างรัฐบาลและกองทัพ ขณะที่กองทัพกับประชาชนเป็นเนื้อเดียว รัฐบาลกลายเป็นคนละพวก นั่นคือภาพที่ปรากฏ
” เพราะฉะนั้นอย่างไรก็ตามพรรคประชาชนต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างที่บอกว่าถ้าเล่นบทละคร ไม่เลือกซ้ายไม่เลือกขวา เท่ากับคุณเลือกพรรคเพื่อไทย คุณจะไปจับมือกับใครก็ได้ที่ไม่ใช่ พรรคเพื่อไทย เราไม่สามารถรับแคดดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อไปของพรรคเพื่อไทยได้ ไม่ใช่คุณชัยเกษมจะดีหรือไม่ดีเป็นคนละเรื่อง แต่ในทางการเมืองกรณีไทยกัมพูชาเป็นความเสียหายสูงสุดแล้ว จะปล่อยให้สถานการณ์นี้ดำรงอยู่ เราก็เห็นอยู่แล้วว่าพรรคเพื่อไทยมาบริหารประเทศ ใครทำหน้าที่เสมียนประเทศใหญ่กว่าทุกองค์กรอยู่ในขณะนี้ พรรคไหนก็ได้ที่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ระบุว่า เราไม่ได้สนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่ง เพียงแต่เราเอาปัญหาของชาติ ซึ่งพิสูจน์มาแล้วว่าปัญหามาจากพรรคเพื่อไทย หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจะตั้งรัฐบาลเราไม่สามารถจบเรื่องกัมพูชาได้เลย และส่วนตัวไม่ได้มีธงในใจ ในส่วนของภาคประชาชนนั้น เราไม่ได้แข่งขันในเรื่องเชิงอำนาจ ไม่ใช่ว่าไม่เอาแคนดิเดตพรรคเพื่อไทย และประสงค์จะไปแข่งเชิงอำนาจกันเอง
“แต่เราเป็นภาคประชาชนที่จะมายับยั้งความเสียหาย และปัญหาที่เป็นฟางเส้นสุดท้าย คือไทยกัมพูชามาจากความสัมพันธ์ส่วนตัว 30 ปี ลามมาเป็นสงครามและไม่มีวันที่จะจบลงได้ ทางการไทยไม่กล้ายึดทรัพย์ผู้นำที่อยู่ในประเทศไทย เพราะเกรงว่าฝั่งนั้นจะยึดกลับ กองทัพและประชาชนอยู่ในสภาพที่อึดอัด เพียงแต่วันนี้ไม่มีใครเลือกเส้นทางให้เกิดการรัฐประหาร เพราะฉะนั้นจึงพูดดักเอาไว้ก่อน ว่าพรุ่งนี้พรรคประชาชนอย่างเล่นบทหล่อไม่เลือกใคร เพราะไม่เลือกใครคือเลือกพรรคเพื่อไทย ให้รักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป” นายจตุพร ระบุ
เมื่อถามว่าวันที่ 3-5 ก.ย. ซึ่งจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะนำมวลชนไปสังเกตหน้ารัฐสภาหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ยังไม่มีแนวความคิดเราพูดตรงไหนก็ได้ มองว่าเรื่องนี้อาจจะจบตั้งแต่วันที่ 3 เลยก็ได้ เพราะวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทุกอย่างต้องจบสัปดาห์นี้ หากนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าในวันที่ 9 กันยายนจะไม่เห็นตัวนายทักษิณ
นายจตุพร ย้ำว่าจุดยืนของคณะรวมพลังแผ่นดินไม่เอาการรัฐประหารเด็ดขาด ให้แก้ไขทุกอย่างตามรัฐธรรมนูญประเทศนี้จะไม่มีทางตัน ยกเว้นแต่ละฝ่ายจะเหลือเกินเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว สำหรับการมาของนายกรัฐมนตรีขณะนี้มาได้แค่ 2 ทางเท่านั้น คือไม่มาจากรัฐสภาก็มาจากการรัฐประหาร เมื่อเราไม่เอารัฐประหารก็มาจากสภาไม่มีทางอื่น
เมื่อถามว่าถ้าไม่ใช่นายชัยเกษม มีคนที่เหมาะสมหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เราไม่ใช่ผู้เลือกเป็นหน้าที่ของรัฐสภา แต่คนอื่นที่ไม่ใช่แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยและไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องในกัมพูชาปัญหาจะยุติ เชื่อว่าคนมาใหม่จะกล้ายกเลิก MOU 43 และ 44 และสนับสนุนกองทัพ
ส่วนสมการไหนจะเป็นไปได้มากที่สุดในขณะนี้ นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้เนื่องจากเป็นรัฐบาลในเวลาสั้นๆ ก็ย้ำว่าอย่าเอาแคนดิเดตนายกพรรคเพื่อไทยเข้ามา เพราะจะเป็นปัญหาและคนที่เข้ามาใหม่ต้องทำ MOU กับประชาชน คนไม่สนใจว่าหน้าไหนจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแค่ไม่มาจากพรรคเพื่อไทยเท่านั้นเอง
” ขณะนี้คนที่อยากเป็นรัฐบาลถ้าอยากอยู่นานกว่า 4 เดือนก็ถือว่าโง่บัดซบแล้ว เพราะในทางเศรษฐกิจก็แก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้อยู่แล้วเพียงแต่ไประงับ ยับยั้งไม่ให้สร้างความชั่วเพิ่มเติม และระงับความชั่วที่ปรากฏอยู่ เท่านั้นก็จบแล้วยกเว้นโง่รากจนประชาชนต้องขับไล่ หาเรื่องฆ่าตัวตาย 4 เดือนถือว่าโชคดีมากที่สุดแล้ว ” นายจตุพรกล่าว
สำหรับการยุบสภานั้นนายจตุพร ระบุว่า อย่างที่ทราบกันว่ามีความเห็นของนักวิชาการทางกฎหมาย 2 ฝั่ง มองว่ารัฐบาลรักษาการในขณะนี้ยุบได้หรือยุบไม่ได้ เพียงแต่ว่าในประวัติศาสตร์การเมืองไทยยังไม่เคยมี ตนจึงมองว่า ถ้าทำได้ก็ทำไป แต่อาจจะต้องเผชิญกับเรื่องร้องเรียนที่ตามเข้ามา รวมทั้ง กกต. ต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอย่างแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.สติธร ประเมินเลือกตั้ง “น้ำเงิน-ส้ม” สู้กันเดือด ก่อน ภูมิใจไทย โกย 150 ที่นั่ง นั่งแกนนำตั้งรัฐบาล สดใส
ดร.สติธร ธนานิธิโชติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเมินภาพรวมสนามเลือกตั้งครั้งใหม่ว่า แม้จะเห็นภาพ 3 สี 3 ขั้ว แต่ในทางปฏิบัติ คู่ชิงตัวจริงมีเพียง 2 พรรค คือ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย
มาถูกทาง! 'หมอสุภัทร' เปิดใจลงสมัคร สส. ในนามพรรคประชาชน
"หมอสุภัทร" เผยตัดสินใจสวมเสื้อพรรคส้ม ถึงเวลาที่ต้องก้าวออกจากเซฟโซน ลาออกราชการรับใช้บ้านเกิด มั่นใจหาดใหญ่ต้องดีกว่านี้
'วิโรจน์ ลักขณาอดิศร' วางมือ ตัดสินใจไม่ลงสมัครเลือกตั้ง 69
"วิโรจน์" ตัดสินใจ ไม่ลงสมัคร สส. อีก 1 ราย ต่อจาก "เท่าพิภพ" ด้าน "โตโต้" ที่ประกาศไม่ลงเขต ล่าสุดลงสมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์แทน
จี้ 'พรรคส้ม' ต้องขอโทษประชาชนด้วย บ้านเมืองมีภัยสงคราม อดีตส.ส.กลับหนีทหาร ดูถูกกองทัพ
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กรณีศาลอาญาอ่านคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ อดีตส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ในคดีปลอมใบสด.43 เพื่อหนีทหาร ว่า
โจทย์หิน3แคนดิเดตนายกฯพท. ลูกเจ๊แดงโปรไฟล์ดีแต่มีข้อกังขา!
หลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ลูกชายเจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ ชินวัตร และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา
อดีต สส.ปากน้ำ ฉะพรรคส้มเผด็จการ ถูกเขี่ยไม่ให้ลงสมัครเลือกตั้ง ทั้งที่ผ่านมติ กก.บห.แล้ว
ตีกันยับ! 'ตรัยวรรษ' อดีต สส.ปชน. เมืองปากน้ำ มอง ไม่ได้รับความเป็นธรรม ฉะพรรคส้มเผด็จการ 'เลขาพรรค' หักมติ เหตุ ตอนแรกได้ลงสมัครต่อแล้ว แต่ถูกต่อสายขอให้ถอนตัว งง แล้วจะมี กก.บห.เพื่อ ยัน 2 ปี 7 เดือนมุ่งมั่นทำงาน ขอทวงคืนความยุติธรรมให้ตัวเอง

