เปิดร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับภูมิใจไทย ลดเกณฑ์เสียง สว. ลงมติ ขีดเส้นห้ามแตะหมวด 1,2

เปิดร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับภูมิใจไทย ให้สิทธิ ‘รัฐสภา’ เลือก สสร. 100% ขีดเส้นทำฉบับใหม่แล้วเสร็จใน 360 วัน ตีกรอบห้ามแก้ระบอบการปกครอง หมวด 1-2

24 กันยายน 2568 - ผู้สื่อข่าวรายงานถึงประเด็นการยื่นญัตติเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่พรรคภูมิใจไทย พร้อมพรรคร่วมรัฐบาล ลงชื่อสนับสนุนญัตติ และยื่นต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา

โดยสาระสำคัญของร่างแก้ไขดังกล่าว กำหนดให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 ซึ่งได้ปรับสัดส่วนของจำนวนเสียง สว. จะร่วมลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระแรก และวาระสาม จากเดิมที่กำหนดให้ต้องเห็นชอบไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 จากจำนวน สว.ที่มีอยู่ของวุฒิสภา ไปเป็น ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสว.ที่มีอยู่ หากเทียบเกณฑ์ สว.ที่มีปัจจุบัน 200 คน เท่ากับว่า เสียงของ สว.ที่จะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะใช้น้อยลง จาก 67 เสียง เหลือเพียง 50 เสียงเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังเพิ่มหมวดใหม่ 15/1 ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่กำหนดให้รัฐสภาเป็นผู้เลือกผู้สมัครที่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ลงสมัครจากจังหวัดต่างๆ จังหวัดละ 1 คน รวม 77 คน และ 2.กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหรือผู้มีประสบการณ์ 22 คน แบ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน 7 คน ผู้เชี่ยวชาญสาขารัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์ จำนวน 7 คน และผู้มีประสบการรด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดินหรือการร่างรัฐธรรมนูญ ตามเกณฑ์ที่ประธานรัฐสภากำหนด 8 คน

ขณะที่คุณสมบัติของผู้รับเลือกเป็น สสร. จากจังหวัด กำหนดให้ต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี มีการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี เกิดในจังหวัดที่สมัคร มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครไม่น้อยกว่า 1 ปี เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งในจังหวัดที่จะสมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีการศึกษา เคยรับราชการหรือปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ หรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านจังหวัดที่สมัคร ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี

ส่วนลักษณะต้องห้ามของผู้จะลงสมัครเป็น สสร. พบว่าได้อิงคุณสมบัตของผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และมีประเด็นที่น่าสนใจ คือ ห้าม สส. สว. หรือข้าราชการการเมืองลงสมัคร ห้ามคนที่ถูกระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งชั่วคราว หรือถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งลงสมัคร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ร่างแก้ไขเพิ่มเติมของพรรคร่วมรัฐบาลฉบับดังกล่าว กำหนดให้ต้องมีการเลือก สสร. ภายใน 90 วันนับแต่มีเหตุให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะทำหน้าที่รับสมัครบุคคลที่มีคุณสมบัติ โดยไม่จำกัดจำนวน จากนั้นให้ส่งให้ประธานรัฐสภา นัดประชุมเพื่อโหวตเลือกภายใน 20 วันนับจากที่ได้รับรายชื่อครบถ้วน ส่วนเกณฑ์การโหวตของสมาชิกรัฐสภานั้นกำหนดให้เลือกผู้สมัครจากจังหวัดต่างๆ จังหวัดละ 1 คน โดยให้ผู้ได้คะแนนสูงสุดได้รับเลือก และยังกำหนดให้ทำบัญชีสำรองจากผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดเรียงกัน 3 คน

ขณะที่การเลือก สสร. ในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนั้น ให้สมาชิกรัฐสภาเลือกได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ สำหรับผู้ที่จะได้รับคัดเลือกให้นับเรียงลำดับจากผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด จนครบจำนวนที่กำหนดไว้ นอกจากนั้น ให้ทำบัญชีสำรองประเภทละ 3 คนไว้ด้วย

สำหรับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในร่างของพรรคร่วมรัฐบาล กำหนดให้ สสร. ตั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ​ จำนวน 45 คน โดยมาจากการเลือกกันเองของ สสร. จำนวน 30 คน และอีก 15 คนมาจากการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่ได้เป็น สสร. แต่ต้องคำนึงถึงความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญในการทำหน้าที่

สำหรับเงื่อนไขของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย สสร. กำหนดให้ต้องทำให้เสร็จภายใน 360 วัน นอกจากนั้นแล้ว ยังได้กำหนดเงื่อนไขสำหรับเนื้อหาของการร่างรัฐธรรมนูญ ห้ามเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ รวมถึงแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ของรัฐธรรมนูญ 2560

เมื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ให้นำเสนอต่อรัฐสภาพิจารณาเห็นชอบ ซึ่งออกแบบการพิจารณาของรัฐสภา เป็น 3 วาระ ซึ่งนำเงื่อนไขของการรับหลักการและเห็นชอบในมาตรา 256 ที่ต้องได้เสียงสนับสนุนจาก สว.​ ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 และ สส.ฝ่ายค้าน 20 เปอร์เซ็นต์มาบัญญัติไว้ด้วย

โดยเมื่อรัฐสภาเห็นชอบต้องนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปทำประชามติภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ได้กำหนดให้รัฐสภามีอำนาจตีตกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากพบเนื้อหาที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองหรือแก้ไขหมวด 1 หมวด 2 สำหรับกรณีร่างรัฐธรรมนูญที่ตกไป กำหนดให้อำนาจ ครม. หรือ สส. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสภาฯ หรือ สว. และสว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสองสภา เสนอญัตติต่อรัฐสภา ให้มีมติจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้อีก 1 ครั้ง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา

"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย

โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ

โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)

ปลด 'กัณวีร์ สืบแสง' พ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม แอบอ้างมติพรรคหนุน 'อนุทิน' นั่งนายกฯ

เพจเฟซบุ๊ก พรรคเป็นธรรม แจ้งว่ามีมติให้ปลด นายกัณวีร์ สืบแสง ออกจากตำแหน่ง “เลขาธิการพรรคเป็นธรรม” มีผลนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป

'อนุทิน' ยันไม่มีดีลเพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาล

"อนุทิน" ลั่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรอเลือกตั้ง ยังไม่บอกพร้อมจับมือหลังลต.กับพรรคใด ไม่กังวลกระแสตกห่วงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไม่ทันใจ