กิ่งมะกอกที่ถูกยกขึ้นโดยธนาธร ไม่ได้มีเพียงเงาของสันติภาพ หากยังทับซ้อนด้วยเงาของอดีตที่เขาเองมีส่วนในการจุดไฟไว้ การประนีประนอมใหญ่จึงไม่ใช่เพียงถ้อยคำสวยหรู แต่คือภาพฝันที่ยังแกว่งไหวอยู่กลางพายุการเมืองไทย
กิ่งมะกอกกลางพายุ อาจฟังดูสวยเกินจริงสำหรับการเมืองไทย แต่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เลือกจะหยิบมันขึ้นมาโบก พร้อมเรียกสิ่งนี้ว่า “การประนีประนอมใหญ่”
ธนาธรไม่ใช่ผู้มีอำนาจรัฐ ไม่มีตำแหน่งในสภา แต่ยังมีน้ำหนักทางการเมือง จากเส้นทางอนาคตใหม่ ก้าวไกล พรรคประชาชน ทำให้เขายังถูกมองว่าเป็น ผู้นำทางความคิด ของพรรคตระกูลส้ม และฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าก้าวหน้าในสังคมไทย
การที่คนซึ่งเคยผลักดันการเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน หันมาพูดเรื่อง “ประนีประนอม” ไม่ใช่สัญญาณเล็กๆ หากแต่เป็น การส่งสารใหม่ ที่สังคมไทยหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องตีความ
กิ่งมะกอก เป็นสัญลักษณ์สากลของ สันติภาพ ที่ถูกใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเวทีโลก ทุกครั้งที่ความขัดแย้งเดินถึงทางตัน มันมักถูกหยิบขึ้นเพื่อบอกว่าประตูเจรจายังไม่ถูกปิดตาย
ในห้วงเวลาที่ธนาธรพูดถึง “การประนีประนอมใหญ่” ภาพของกิ่งมะกอกจึงเสมือนถูกนำมาสวมทับบริบทไทย เพื่อชี้ให้เห็นว่าอย่างน้อยสังคมไทยก็ยังสามารถหาจุดร่วมบางอย่าง ที่จะทำให้ประเทศเดินต่อไปได้
ภาพของธนาธรในวันนี้คือการชวนให้ ลดแรงปะทะ คล้ายการหายใจเข้าลึก ๆ ของประเทศที่เหนื่อยล้ามายาวนาน ทำให้บางคนเริ่มเห็นแสงรำไร ว่าความแตกแยกอาจไม่จำเป็นต้องหมุนวนตลอดไป
แต่หากย้อนดูเส้นทางของ พรรคตระกูลส้ม ไม่ว่าจะเป็น อนาคตใหม่ ก้าวไกล พรรคประชาชน ก็ยังคงแบกหลักคิดเดียวกันไว้ชัดเจน คือการแตะ หมวดอ่อนไหวของรัฐธรรมนูญ และแนวคิดแก้ไข ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่พวกเขามองว่าเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย
ตรงกันข้าม อีกฝ่ายกลับเชื่อว่าทั้งรัฐธรรมนูญหมวดนั้นและมาตรา 112 คือ รากฐานสำคัญ เป็นจุดยึดเหนี่ยวของบ้านเมืองที่ไม่อาจถูกสั่นคลอน ความแตกต่างนี้ทำให้ “การประนีประนอมใหญ่” ที่ธนาธรโบกขึ้นมา ดูจะยังไกลเกินเอื้อม
ดังนั้น ภาพธนาธรจึงเต็มไปด้วยความย้อนแย้ง คนที่เคยมีส่วนในการ จุดไฟการเมืองและความแตกแยกในสังคม วันนี้กลับโบกกิ่งมะกอก แต่กิ่งนั้นยังล้อมรอบด้วยควันไฟที่ดับไม่สนิท
และควันไฟที่ยังคงคุกรุ่นนี้เอง ทำให้การประนีประนอมไทยๆ ไม่เคยง่ายที่จะเกิดขึ้นจริงพร้อมกันทุกฝ่าย บางกลุ่มยิ้มแต่ยังคิดบัญชีเก่า บางกลุ่มพูดถึงอนาคตแต่ในใจก็ไม่เคยปล่อยอดีต กองทัพ ยังคงหวงบทบาทด้านความมั่นคง พรรคการเมือง ยังพันธนาการอยู่กับผลประโยชน์
ขณะที่ฝ่ายก้าวหน้า ก็ยืนบน อุดมคติ สูงลิบ จนทำให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าไม่สอดคล้องกับความจริงของสังคม ส่วน อำนาจนอกระบบ ไม่ว่าจะเป็นกลไกที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งหรือเครือข่ายผลประโยชน์ ก็ยังขึงโครงสร้างไม่ยอมคลาย
ในบรรยากาศเช่นนี้ “การประนีประนอมใหญ่” จึงยังเป็นเพียง นามธรรม ที่ชูขึ้นกลางวงการเมือง มากกว่าข้อเสนอที่ลงดินได้จริง และแม้เจ้าตัวจะย้ำว่าอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย สองปี กว่าจะเห็นผล แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าคลื่นที่โยนออกไปจะขยายกว้างจริง หรือจางหายไปก่อนถึงฝั่ง
การที่ พรรคประชาชน ยกมือโหวตให้ อนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นเป็นนายกฯ กลายเป็นเหตุการณ์ที่ธนาธรหยิบมานิยามว่าเป็น “ก้าวแรกของการประนีประนอมใหญ่”
ในสายตาของเขา การตัดสินใจครั้งนั้นไม่ใช่เพียงการโหวตเชิงยุทธศาสตร์ แต่คือการประกาศต่อสังคมว่า การแก้รัฐธรรมนูญ คือเป้าหมายหลักที่ทุกฝ่ายต้องหันมาร่วมกัน หากไม่เริ่มต้นที่จุดนี้ ความขัดแย้งก็จะวนเวียนไม่รู้จบ
ธนาธรยังโยงกลับไปถึง รัฐประหาร 19 กันยา 2549 ที่เขามองว่าเป็น “บทแรก” ของความแตกแยกที่ลากยาวและฝังรากในสังคมไทยมานานเกือบสองทศวรรษ
เมื่อวางสองภาพนี้ไว้คู่กัน ปี 2549 จึงเป็นเสมือน บทเปิดของความแตกแยก ขณะที่ปี 2568 ถูกเสนอให้เป็น บทเปิดของความประนีประนอม เพียงแต่ยังไม่มีใครแน่ใจว่าบทใหม่นี้จะเขียนต่อได้จริง หรือเป็นเพียงหน้ากระดาษที่ยังว่างเปล่า
แต่ถึงจะมีทั้ง “ก้าวแรก” และ “บทแรก” ปัญหาก็ยังไม่คลี่คลาย เพราะการประนีประนอมยังไม่เกิดขึ้นจริง
สำหรับนักการเมือง การโบกกิ่งมะกอกอาจหมายถึงการจัดจังหวะให้สมดุล แต่สิ่งที่หายไปคือ พื้นที่ที่เสียงประชาชนจะถูกนับจริง ไม่ว่าชื่อใครจะขึ้นหรือลงบนเก้าอี้ การตัดสินใจก็ยังวนเวียนอยู่ในวงจำกัด
และเมื่อขยับออกจากวงถกเถียง มาสู่ถนนที่ผู้คนเดินจริง ภาพที่เห็นกลับตรงข้ามกับคำว่า “ประนีประนอม”
ค่าแรง ยังต่ำ ค่าครองชีพ ยังพุ่ง ร้านค้าขายของไม่ดีเหมือนเดิม เกษตรกร ยังติดอยู่กับ หนี้เก่า ที่ไม่มีวันหมด
ในโลกของประชาชน “การประนีประนอมใหญ่” ยังไม่เคยเกิดขึ้นจริง สิ่งที่มีอยู่คือ “ความเหนื่อยล้าใหญ่” ที่สะสมเพิ่มขึ้นทุกวัน หากแม้แต่ปัญหาปากท้องยังแก้ไม่ได้ จะไปหวังให้ข้อตกลงทางการเมืองกลายเป็นจริงได้อย่างไร
ทั้งหมดนี้ทำให้สิ่งที่ถูกเรียกว่า “การประนีประนอมใหญ่” ยังคงจำกัดอยู่ในวงเล็ก ไม่ว่าจะเป็น ผู้มีอำนาจรัฐ ผู้นำความคิด หรือผู้นำทางการเมืองสังคม มากกว่าจะเป็นกระบวนการที่ประชาชนส่วนใหญ่มีส่วนร่วมจริงๆ
ต่อให้กิ่งมะกอกถูกโบกสวยเพียงใด หากไม่เคยถูกยื่นไปถึงมือของคนส่วนใหญ่ มันก็ยังเป็นเพียง ท่าทางทางการเมือง มากกว่าคำตอบของสังคม
และเมื่อย้อนมองประวัติศาสตร์ไทยที่ผ่านมา เราไม่เคยมี “การประนีประนอม” ที่ฝังราก สิ่งที่เคยเกิดขึ้นมีเพียงความพยายามสร้าง “ปรองดอง สมานฉันท์” ที่มักจบลงด้วยรายงานหนาๆ แต่ไม่เคยเปลี่ยนชีวิตจริงของผู้คน
ประเทศไทยในวันนี้ไม่ต่างจาก ขบวนเรือกลางพายุ ลำหนึ่งมุ่งหน้า อีกลำหันหลัง และอีกหลายลำเล็กๆ ต้องลอยตามคลื่นที่เรือใหญ่สร้าง
กิ่งมะกอกที่ธนาธรโบกอาจเป็น สัญญาณความหวัง ว่าเรือทั้งหลายจะหันหัวเข้าหากัน แต่ไม่มีใครรู้ว่าใครจะยอมเปลี่ยนทิศจริง หรือสุดท้ายต่างก็ยังพายเพื่อให้เรือของตนรอด
นั่นเองที่ทำให้ “การประนีประนอมใหญ่” ถูกตั้งคำถามว่า จะเป็น กิ่งมะกอก ที่หยิบยื่นจริงๆ หรือเป็นเพียง ภาพฝันกลางพายุ ที่สักวันก็เลือนหายไปพร้อมกับคลื่นลมการเมืองไทย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
สส.ปชน. เรียกร้องรัฐบาลเยียวยาน้ำท่วมภาคกลางให้มีมาตรฐานเดียวกับภาคใต้
"เต้ ทวิวงศ์" จี้รัฐบาลอย่า 2 มาตรฐาน ช่วยน้ำท่วมใต้แล้ว หันมาช่วยน้ำท่วมภาคกลางด้วย บอก "ภราดร" ลองกลับมาถามคนอ่างทอง หากรอการเยียวยาเป็นลำดับถัดไปไหวหรือไม่ เหตุอยุธยาจมน้ำมา 4-5 เดือนแล้ว คนเสียชีวิตไปกว่า 20 ราย ชี้ ชาวบ้านต้องทำมาหากิน ควรมีมาตรการชดเชย-ช่วยเหลือเต็มรูปแบบเหมือนกัน
บก.ลายจุด อวยว่าที่นายกฯ ฝึกงานล้างบ้าน เก็บขยะ มีพัฒนาการที่ดี ลงท้ายแขวะ 'อภิสิทธิ์'
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด โพสต์ภาพนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กำลังล้างบ้านน้ำท่วมที่หาดใหญ่ พร้อมข้อความระบุว่า ใครทนอ่านเรื่องส้มไม่ได้ให้ข้ามไปก่อน
มีคำตอบ! รัฐบาลอนุทินมี ‘ศุภจี‘ เป็นจุดเด่น ทำไมปล่อยให้มี ’ธรรมนัส’ เป็นจุดอ่อน
คุณศุภจีคือตัวแทนของ "ภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ" ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ดึงดูดชนชั้นกลางและคนเมือง และเป็นเกราะป้องกันทางการเมือง เมื่อฝ่า
อึ้ง! คลิปผู้ช่วยสส.พท. สร้างจากเอไอ ยืนแช่น้ำท่วมที่หาดใหญ่ เรียกร้อง ปชน.ตรวจสอบรัฐบาล
เพจเฟซบุ๊ก Cofact โคแฟค โพสต์ข้อความ เรื่อง เนื้อหาที่ตรวจสอบ : คลิปผู้ช่วย สส. ยืนแช่น้ำท่วมที่หาดใหญ่เรียกร้องพรรคประชาชนตรวจสอบรัฐบาลอนุทิน ระบุว่า
ตาสว่างกันได้หรือยัง ’รักชนก‘ ประจานเพื่อไทยโหนเสื้อแดงหากินไปวัน ๆ
นางสาวรักชนก ศรีนอก หรือ “ไอซ์” สส.กรุงเทพฯ พรรค ประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ตาสว่างกันได้หรือยัง ว่าใครที่ตั้งใจอยากคืนความยุติธรรมให้คนเสื้อแดง ใครแค่


