
2 ต.ค.2568-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) มีหนังสือคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ เนื้อหาระบุว่า ด้วย คณะกรรมการแพทยสภา ในการประชุมครั้งที่ 5/2568 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 มีมติลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมของ พลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ8) เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 และหากกระทำการฝ่าฝืนโดยยังประกอบวิชาชีพเวชกรรมจะถือเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่ง ที่ 371/2568 ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
เนื่องจากคำสั่งแพทยสภาให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นมาตรการระงับใช้ใบอนุญาตเป็นการชั่วคราวและให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทางต้านการแพทย์ ประกอบกับปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง จึงเป็นเหตุอันเป็นที่สงสัยว่ามีข้าราชการตำรวจประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่ หากให้ปฏิบัติบัติหน้าที่ในหน่วยงานเติม อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส เกิดความเป็นธรรม และมีให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 และมาตรา 105 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสังให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายใน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566 จึงสั่งการให้ พลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) ช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ทั้งนี้ ให้ยกเว้นหลักเกณฑ์กรณีการไปช่วยราชการสิ้นสุดลงตามข้อ 11 ของระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566 และให้ พลตำรวจโท ไพบูลย์ เจียมอนุกลูกิจ นายแพทย์(สบ 8)โรงพยาบาลตำรวจ รักษาราชการแทน นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โดยให้ชาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2569
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โจ๊ก' ซัด 'บิ๊กต่าย' ไม่ปราบสแกมเมอร์-เว็บพนัน ชี้แจงสังคมไม่ได้ ก็เอาองค์กรตำรวจมาบังหน้า
"โจ๊ก" ซัด "บิ๊กต่าย" เลือกปฏิบัติ ลงโทษทางวินัยไม่เป็นธรรม เเฉเส้นเงินเว็บพนันเอี่ยวนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ โยง “สส.ช.” ยันรักองค์กรไม่อยากให้เสียหายเพราะตำรวจบางคน เหน็บ ผบ.ตร.หากรับองค์กรจริงต้องปกป้อง
'บิ๊กต่าย' โต้กลับนิ่มๆ ให้สำนึกบุญคุณอย่าเผาบ้านตัวเอง!
'บิ๊กต่าย' ไม่ขอเอ่ยชื่อคนนอกโจมตีองค์กรตำรวจ ขอก้มหน้าก้มตาทำงาน แต่ฝากถึงอดีตคนกรมปทุมวัน อย่าทำร้ายบ้านตัวเอง พูดอะไรต้องรับผิดชอบ
รู้ตัวแล้ว! โจรบึ้มป้อมตร.ปัตตานี เคยก่อคดีมั่นคงเพียบ
พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
ป่วนปัตตานี! บึ้มป้อมตำรวจ เจ็บ 1 ราย เร่งล่าตัวโจรใต้
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ต่อลาภ เล็งฮะผกก.สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งจากกำนันตำบลลางาว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณแยกชลประทาน
ผบ.ตร. น้อมรับเสียงวิจารณ์ตำรวจปราบสแกมเมอร์แค่ละครปาหี่ ยันทุ่มเททำงานไม่ต้องประกาศให้รู้
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ออกมาวิจารณ์การปราบปรามสแกมเมอร์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการเล่นปาหี่
คุก 3 ปี! นำสิทธิ 'คนละครึ่งพลัส' ไปแลกเงินสด
สตช.เตือน นำสิทธิ 'คนละครึ่งพลัส' ไปแลกเงินสด โดยไม่มีการซื้อขายจริง เข้าข่ายฉ้อโกง มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท

