
นายกฯ ลั่นการเมืองมีเสถียรภาพ เหลือแก้นิดเดียว เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ไม่ให้กลุ่มทุนชี้นำ ชมรัฐบาลเก่า "2 พิชัย" สู้กำแพงภาษีทรัมป์ พร้อมทำตามสหรัฐฯ ช่วยไกล่เกลี่ย ข้อพิพาท2ประเทศ หากยอมลดภาษี โว ไทยมีอนาคต อาจชะงักงันบ้าง เหตุติดหล่มการเมือง ปลุก ปชช.รักสามัคคี ไม่ขัดแย้ง นักการเมืองก็ไม่กล้าขัดแย้ง
3 ต.ค.2568 - เมื่อเวลา 08.30 น. ที่เพลนารีฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในเวทีสัมมนา Sustainability Expo 2025 A Call for Adaptation The Sustainability in Trade & Industry หัวข้อ “ยกระดับอุตสาหกรรม-การค้า-การลงทุนสู่ความยั่งยืน” ว่า วันนี้เราอยู่ในยุคที่ได้ยินคำว่าความยั่งยืนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเราจะต้องมอง ดำเนินการ และคิดให้เกิดความยั่งยืน คิดเป็นแบบ Quick Win ซึ่งรัฐบาลมีเวลา 4 เดือน ก็ต้องทำงานแบบ Quick Win และต้องวางรากฐานให้รัฐบาลต่อไปนำไปต่อยอด โดยไม่ต้องมาล้มเลิกและนำแนวคิดเรื่องใหม่ๆเข้ามา แต่หากรัฐบาลต่อไปล้มเลิกอีก จะทำให้คำว่า Sustainability ไม่มีความหมายใดๆ
นายกฯ กล่าวว่า มีหลายอย่างบีบให้สังคมไทยต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้เราเกิดความอยู่รอด แต่อยู่รอดด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี ถ้ามีคุณภาพชีวิตที่ดี เราอาจอยู่ได้ถึง 90 ปี และวันหนึ่งอาจต้องมีการปรับเกษียณอายุเป็น 65 ปี เพราะถ้าคนไม่ Active อาจกลายเป็นภาระได้ แต่ช่วงอายุ 60-90 ปี ต้องดูแลตัวเองได้ เราต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การใช้ชีวิตของเราเช่นกัน ต้องไม่มีช้อยส์ที่ไปเป็นภาระให้ลูกหลาน รัฐบาลก็ต้องดูแลพวกท่าน เตรียมเงินดูแลเรื่องสุขภาพ เรื่องบัตรทอง 30 บาท ต้องมีจำนวนเงินสำรองไว้ในการดูแลรักษาสุขภาพของคนไทยเพิ่มมากขึ้น เงินเหล่านี้มาจากไหน รัฐบาลต้องหามา จะหามาอย่างไร ก็คือจากการสนับสนุนให้พวกท่านได้ประกอบธุรกิจ อำนวยความสะดวกให้ทำการค้า เสริมสร้างรายได้เข้าประเทศเยอะๆเพื่อเก็บภาษีจากพวกท่าน เพราะเงินเหล่านี้ต้องเอามาใช้ในการดูแลคุณภาพชีวิตของประชากรประเทศ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่รัฐบาลจากนี้ไปจะต้องทำ ตนจึงใช้คำว่าเป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือก ไม่มีทางเลือกหรอกครับ เราต้องมีการพัฒนาที่ยั่งยืนและเหมาะสมกับสภาพสังคม สภาพประเทศของเรา
"ถามว่าโอกาสมีไหม ผมเคยมาจากภาคธุรกิจมาก่อน มองหลายๆอย่าง มองประเทศไทยอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องมองเป็นภูมิภาคคืออาเซียน ซึ่งเราเป็นไข่แดงอยู่ตรงกลางมีภูเขา ทะเล มีทางออกทั้งทางบกทางน้ำ เชื่อมตะวันตก ตะวันออก ทุกที่ต้องผ่านประเทศไทย จะผ่านเก็บค่าผ่านทางเฉยๆไม่ได้ ต้องให้คนทุกคนที่ผ่านประเทศไทยแวะ ต้องใช้ ต้องผลิต ต้องลงทุนนี่ คือสิ่งที่ประเทศไทยเรามีศักยภาพที่สุดในภูมิภาคอาเซียน"
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการเมืองที่จริงแล้วมีความเป็นเสถียรภาพ ต่อให้ไม่มีความเป็นเสถียรภาพ นักการเมืองรู้ดีว่าอย่าไปแตะกับผู้ประกอบการที่เขากำลังสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ เราผ่านวิกฤตการณ์มาเท่าไหร่ก็ตาม แต่ว่าความมั่นคงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจเราไม่เคยลดน้อยถอยลง สิ่งที่เราต้องแก้อีกนิดเดียวคือทำให้รัฐบาลมีความเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ช่วยเหลือและสนับสนุนกลุ่มทุนซัพพอร์ตทุกอย่าง ออกมาตรการทุกอย่างให้กลุ่มทุนได้ แต่ต้องไม่ให้กลุ่มทุนมาชี้นำรัฐบาลเท่านั้นเอง และประเทศของเราสามารถที่จะมีการแข่งขันได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่ว่าทำอะไรไม่ได้ ติดคนนี้ ติดคนนั้น และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่เกิดการแข่งขัน จะกลายเป็นเสือนอนกินไม่พัฒนา ตนเชื่อว่าสังคมการเมืองจะเปลี่ยนไปและประเทศไทยของเราจะเริ่มปรับความเป็นสากลความเป็นธรรมาภิบาลเพิ่มมากขึ้น เพราะเราจะถูกบีบจากสังคมทั้งภายในและภายนอก
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรามีสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ ในช่วงนี้สถานการณ์ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ทำให้กฎทางการค้าซับซ้อนขึ้น ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับความผันผวน รัฐบาลทุกประเทศต่างคิดมาตรการที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศของเขาและในหลายครั้งอาจจะเป็นโทษกับประเทศผู้ค้าอื่น เราต้องมีความพร้อม โลกเป็นอย่างไรต้องปรับเปลี่ยน วันนี้สหรัฐฯขึ้นภาษีของเรา สิ่งแรกที่เราต้องคิดแล้วตลาดอื่นอยู่ไหนต้องไปให้ได้ เขาเพิ่มมา 19% จะไปแข่งกับใคร ตลาดอื่นที่จะมารองรับมีไหม และเราต้องมองฐานการผลิตของเรา ตนเคยคิดว่าการขึ้นภาษีมากๆไม่ว่าประเทศไหนก็ตาม เช่น อยากกินกุ้งอร่อย กรอบๆสดๆ ถูกๆหรือไม่ คุณจะหากุ้งถูกกว่าประเทศไทยที่ไหน อยากกินเบียร์ดีๆ ที่ราคามาตรฐาน คนกินได้ทุกระดับจะซื้อที่ไหนถ้าไม่ใช่ประเทศไทย ซึ่งหากขึ้นภาษีไปคนในประเทศนั้นก็เดือดร้อน
"ขอชื่นชมรัฐบาลที่แล้วทั้งกระทรวงการคลัง โดยนายพิชัย ชุณหวชิร อดีต รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พาณิชย์ ทั้งสองพิชัยเลย รวมถึงปลัดกระทรวง ต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากในการดำเนินการเรื่องภาษีประเทศไทยจนสุดท้ายแล้วได้มา 19% เราไม่ได้เสียอะไร ซึ่งเท่าที่ตัวเองทราบมาท่านได้ใช้ทุกกลไกทุกอย่างเท่าที่ได้มา และถ้าเขาสูญเสียคนที่เดือดร้อนคือประเทศของเขา ตอนนี้ด้วยปัญหาความขัดแย้งที่เรามีกับประเทศเพื่อนบ้าน สหรัฐฯพยายามอยากจะให้เราได้มีข้อตกลงที่ดีต่อกันเพื่ออะไรก็แล้วแต่ เพื่อประโยชน์ของประเทศของเขาด้วย ในเรื่องการค้า ความมั่นคงในภูมิภาค สิ่งแรกที่ตนคิดถ้าอยากจะได้เงื่อนไขแบบนี้ต้องคุยได้ จะทำไม่ทำอีกเรื่องหนึ่ง รับฟังได้ และปากต้องพูดด้วยภาษีลดลงอีกได้หรือไม่ ถ้าลดลงได้อีกก็จะทำให้เราตัดสินใจในการทำตามคำแนะนำของเขาได้มากขึ้น ประเทศไทยไม่เสียอะไร คุณลดภาษีด้วย เพื่อความสงบสุขของโลกใบนี้ต้องช่วยกัน"
นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนสังคมสีเขียว พลังงานสะอาด ภาคอุตสาหกรรมต่างๆต้องดูเรื่องภาคการผลิต เรื่องคาร์บอนด้วย ไม่เช่นนั้นเขาจะเสียเปรียบในแทบทุกอุตสาหกรรม รัฐบาลชุดนี้จะวางรากฐานให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้นในพลังงานสะอาด เรากำลังคิดเรื่องโซล่าเซลล์ชุมชน
หมู่บ้านใช้น้อยถ้าเหลือก็รวมแล้วเอาไปขายนำเงินมาพัฒนาชุมชน วันนี้ที่ตนกลับมามีสถานะเป็นนายกรัฐมนตรี ตนคิดว่าจะเร่งให้นโยบายนี้เกิดโดยเร็ว ตนจะใช้เวลานี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
รวมถึงอีกอุตสาหกรรมเรื่องสุขภาพ ตนขอยกโมเดลโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
ใครก็อยากเข้าทั้งนั้น เพราะได้รับการดูแลสุขภาพและการปฎิบัติที่ดี ซึ่งกำไรจากโรงพยาบาลก็เอาไปใช้ในศิริราช ซึ่งเป็นโมเดลที่ดีมาก
"การที่เรารักษาสุขภาพให้ดีคือเราได้ทำบุญเหมือนกัน ถ้าเราเข้าใจเรื่องพวกนี้อย่างดี ถ้าเราแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง สังคมดี และเศรษฐกิจก็ดีขึ้นด้วย สิ่งเหล่านี้อยากฝากไว้ว่าประเทศไทยของเราไม่ใช่ไม่มีอนาคต อาจจะมีการชะงักงันไปบ้างในเรื่องการเมือง แต่ถ้าเราดูจริงๆแล้วปล่อยให้การเมืองก็ว่ากันไป คนในชาติต้องรักต้องสามัคคีกัน การเมืองก็จะมาดูแลท่านเอง ในเมื่อคนในชาติไม่ต้องการความขัดแย้ง นักการเมืองก็ไม่กล้าขัดแย้ง อย่าให้นักการเมืองมา Lead (ชักนำ ชักจูง) ท่าน ท่านต้องLead (ชักนำ ชักจูง ) นักการเมือง ตนจะใช้โอกาสที่มีบุญวาสนามาตรงนี้ได้ ทำให้ดีที่สุด ไม่ทำอะไรเยอะ ทำแบบพอเพียง แบบยั่งยืนและยืดยาว พร้อมปรับปรุง รับฟัง และสนับสนุนให้ท่านทั้งหลายดำเนินกิจการด้วยความมั่นคงในทุกๆมิติ รัฐบาลชุดนี้พร้อมที่จะให้การสนับสนุนพวกท่านในทุกมิติ เพื่อให้มีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพเกิดขึ้นในประเทศของเรา"นายอนุทิน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ลั่นหากกัมพูชาใช้สติ ต้องยอมได้แล้ว ย้ำคำ 'บิ๊กเล็ก' ขอเวลาอีกไม่นาน
นายกฯ ชี้ หากกัมพูชามีสติควรเจรจา ลั่นต้องได้เนิน 350 มอบกองทัพแจงยุทธการช่องอานม้า ย้ำคำ "บิ๊กเล็ก" ขอเวลาอีกไม่นาน เคลียร์สถานการณ์
'อนุทิน' บอกยึดฤกษ์สะดวก เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ภูมิใจไทย
"อนุทิน" ยังอุบแคนดิเดตนายกฯ ภูมิใจไทย ตอบแค่ "ใกล้แล้ว" ขึ้นอยู่กับฤกษ์สะดวก ส่วน "สีหศักดิ์" ชัดแล้วเข้าพรรค หลังถูกถามสมัคร สส. หรือไม่ เมินเสียเปรียบพรรคอื่นเปิดก่อน
‘เฟส2’รออนุทินคัมแบ็ก คลังพับแผนกระตุ้นศก.
เอวัง “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” นายกฯ บอกชัดรอคัมแบ็กเป็นรัฐบาลปกติค่อยเดินหน้าต่อ
ยึด‘ช่องอานม้า’ 2.4พันล.สู้เขมร
“ครม.” อนุมัติงบกลาง 2.4 พันล้าน ให้กองทัพสู้ศึกชายแดน
หนูเหน็บทรัมป์ฟังรายงานมั่ว
"อนุทิน" ลั่น! "ทรัมป์-อันวาร์" เป็นบุคคลที่สาม ไม่ได้อยู่หน้างาน
ยึด‘ตาควาย’ได้100%
“นายกฯ” นัดถก สมช. 16 ธ.ค. ย้ำต้องปะทะเพื่อหยุดปะทะ ลั่นพื้นที่ที่เราสถาปนาชัดเจนอยู่แล้วว่าตรงไหนต้องเป็นของเรา

