4 ตุลาคม 2568 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยระบุว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีต รมว.ยุติธรรม มีความเห็นยกคำร้องถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษครั้งสองของทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เป็นการโยนเผือกร้อนให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ เพราะปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบพระราชประเพณีปฏิบัตินายจตุพรกล่าวว่า เมื่อทักษิณ ยื่นขออภัยโทษครั้งสองหลังศาลฎีกานักการเมืองออกคำสั่งให้กลับจำคุก 1 ปี ตั้งแต่ 9 ก.ย. 68 แต่ 10 ก.ย. 68 ได้ยื่นขออภัยโทษ ส่วนสังคมมารับรู้และวิพากษ์วิจารณ์กันเมื่อ พ.ต.อ.ทวี พ้นจากตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม แล้ว
พ.ต.อ.ทวี ลงนามความเห็นในฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของทักษิณ เมื่อ 23 ก.ย. 68 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายอยู่ในตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม และขณะนั้นทักษิณ เป็นนักโทษเด็ดขาดอยู่ภายใต้การควบคุมของเรือนจำคลองเปรมแล้ว 14 วัน
"ความเห็นของ พ.ต.อ.ทวี จำนวน 11 หน้า สาระสำคัญอยู่ที่หน้า 11 มีความว่า ศาลฎีกานักการเมืองมีคำสั่งเมื่อ 9 ก.ย. 68 ให้จำคุก 1 ปี จึงมีความเห็นว่า ให้ยกฎีกา หมายความว่าให้ยกคำร้อง ซึ่งเป็นความเห็นส่งต่อนายกฯ จะได้นำทูลเกล้าฯ ประกอบพระราชวินิจฉัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ควรยกฎีกา ดังนั้น พ.ต.อ.ทวี ไม่ได้ช่วยทักษิณ ตามความวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม"
นายจตุพร กล่าวว่า หลังรัฐบาลนายอนุทิน ถวายสัตย์และแถลงนโยบายเสร็จ ได้ปฏิบัติหน้าที่แล้ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่งเรื่องกลับให้ พล.ต.ต. รุทธพล เนาวรัตน์ รมต.ยุติธรรมคนใหม่ทำความเห็นเสนอต่อนายกฯ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ
สิ่งที่จะเป็นปัญหาของการยื่นถวายฎีกาครั้งสองนั้น คือ การยื่นถวายฎีกาฯ ครั้งแรก โดยขณะที่ยื่น นายวิษณุ เครืองาม รักษา รมว.ยุติธรรม สมัยนั้น ยืนยันว่า ฎีกาไม่ได้ผ่านกระทรวงยุติธรรม และไม่ได้ถวายความเห็นประกอบพระบรมราชวินิจฉัยด้วย
นอกจากนี้ ตามคำสั่งของศาลฎีกานักการเมืองให้จำคุกทักษิณ 1 ปี แปลความว่า ทักษิณ ยังไม่ได้จำคุกเลยสักวันจึงไม่ได้เป็นนักโทษเด็ดขาด ย่อมสงสัยว่า มีสิทธิ์ตามกฎหมายให้ยื่นถวายฎีกาฯ (ในครั้งแรก) หรือไม่ ดังนั้น การยื่นฎีกาครั้งสอง เชื่อว่า รมว.ยุติธรรมคนใหม่ คงมีความเห็นไม่แตกต่างจาก พ.ต.อ.ทวี (รมว.ยุติธรรมคนเก่า) คือให้ยกคำร้องถวายฎีกา ซึ่งเป็นความเห็นเดียวกับกรมราชทัณฑ์
"ทักษิณ ถวายฎีกาครั้งสองขณะนี้เป็นเพียงการพิจารณาตามขั้นตอน แต่ความน่ากลัวกว่าคือการยื่นครั้งแรก เพราะการยื่นถวายฎีกาครั้งแรกเป็นกระบวนการมิชอบ และที่สำคัญตามคำวินิจฉัยของศาลฎีกานักการเมือง แสดงว่าทักษิณยังไม่ได้รับโทษสักวัน จึงไม่ได้เป็นนักโทษเด็ดขาด แล้วมีสิทธิ์ยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษได้หรือไม่”
อย่างไรก็ตาม สิ่งน่าสนใจกับการยื่นฎีกาครั้งสองนั้น กระทรวงยุติธรรมต้องตอบคำถามว่า การยื่นฎีกาครั้งแรกทำได้หรือไม่ และจะเป็นโมฆะหรือเปล่า ดังนั้น เรื่องนี้ย่อมจบกันง่ายๆ ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องใหม่ต้องพิจารณา
นายจตุพร เชื่อว่า การยื่นฎีกาครั้งสองของทักษิณ ไม่ได้เป็นโยนเผือกร้อนให้รัฐบาลนายอนุทิน แต่อย่างใด เพราะถ้าพิจารณาตามข้อเท็จจริงกฎหมายและราชประเพณีปฎิบัติมาพิจารณาประกอบแล้ว ย่อมทำให้เผือกร้อนกลายเป็นเผือกเย็นไปทันที
อีกทั้งย้ำแนะนำทักษิณว่า อยู่ในคุกควรทำสมาธิ นึกถึงคนที่รักจำนวนมากไปต่อสู้ ยอมตาย บาดเจ็บ ติดคุกให้ อีกอย่างสิ่งสำคัญคนติดคุกต้องทำจิตปล่อยวางให้เร็ว ต้องไม่คิดมาก และไม่ควรคิดว่าตัวเองเป็นใคร หรือคิดว้าวุ่นจะออกจากคุกแล้วจะเป็นอะไร หรือจะไปทำอะไร ถ้าทำได้เช่นนี้ย่อมได้อิสรภาพทางจิตใจ แม้ไม่ใช่อิสรภาพทางร่างกายก็ตาม
ส่วนสภาจะพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนนั้น นายจตุพร กล่าวว่า การนิรโทษกรรมโดยสภาเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ที่ผ่านมาทั้งเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 หรือ พฤษภา 2535 รัฐบาลจะนิรโทษกรรมโดยการออกพระราชกำหนด ซึ่งอำนาจของฝ่ายบริหารและทำสำเร็จ
นอกจากนี้ คณะยึดอำนาจสำเร็จก็นิรโทษกรรมให้ตัวเอง หรือเหตุการณ์ทหารกบฎเมื่อปี 24 และปี 28 ในยุคพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกฯ รวมทั้งการทำสงครามระหว่างคอมมิวนิตส์กับรัฐบาลก็ได้ออกพระราชกำหนดนิรโทษกรรมเช่นกัน จนทำให้บ้านเมืองมีความร่มเย็น
"ผมมีความเห็นว่า สังคมอยู่กับการอาฆาตกันมายาวนาน และปัจจุบันบริบทสังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่เรายังย่ำอยู่กับคดีเดิมๆ อีก ซึ่งการนิรโทษกรรมครั้งนี้ควรให้ได้ผลกันทุกฝ่าย เพื่อวันข้างหน้าจะได้เข้าใจและป้องกันไม่ให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมาได้อีก จึงต้องคิดอ่านกัน"
พร้อมกล่าวว่า สังคมไทยควรตระหนัก เพราะการนิรโทษกรรมทุกฝ่ายไม่ได้อยู่ในสถานการณ์สุดซอยอะไร แต่เป็นการต่อสู้ทางการเมืองที่แตกต่างกันในช่วงกว่า 20 ปี ดังนั้น บรรดาเยาวชน คนรุ่นใหม่ก็จะได้รับการนิรโทษกรรมกันจำนวนมากในคดีอื่น ที่ไม่ใช่คดี 112
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE คิด - วิเคราะห์ - แยกแยะ!! ภาพร่วมเฟรม 'เจ้าพ่อสแกม' | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ :วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้
🛑LIVE ละครการเมือง คว่ำน้ำเงิน!? | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : พุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
🛑LIVE เปิดโฉม..'ตัวซีเครท-บิ๊กเนม' พรรคไหนเข้าวิน !? | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568


