9 ตุลาคม 2568 - กรมอุตุนิยมวิทยา เผยแพร่ประกาศการคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยปีนี้ คาดว่า บริเวณประเทศไทยตอนบน จะเริ่มต้นฤดูหนาวประมาณปลายเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งจะช้ากว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 2 สัปดาห์และจะสิ้นสุดประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2569
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยบริเวณประเทศไทยตอนบนประมาณ 21 องศาเซลเซียส ซึ่งจะสูงกว่าค่าปกติประมาณ 1 องศาเซลเซียส (ค่าปกติ 19.9 องศาเซลเซียส) และจะมีอากาศหนาวเย็นน้อยกว่าปีที่ผ่านมา (อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยปีที่ผ่านมา 20.7 องศาเซลเซียส)
สำหรับอุณหภูมิต่ำที่สุด ประมาณ 7 – 8 องศาเซลเซียส ส่วนมากจะอยู่ตอนบนของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนอุณหภูมิต่ำที่สุดบริเวณกรุงเทพมหานคร 18 – 20 องศาเซลเซียส และปริมณฑล 16 – 18 องศาเซลเซียส
ช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุด ประมาณกลางเดือนธันวาคม 2568 ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์2569
สำหรับยอดดอยและยอดภูรวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง
ส่วนภาคใต้จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางช่วงส่วนมากตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากรวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ ในบางช่วงมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำ และมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาตัวเป็นพายุหมุนเขตร้อน แล้วเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งคลื่นลมจะมีกำลังแรง และอาจมีคลื่นพายุซัดฝั่ง ความสูงของคลื่นประมาณ 4 - 5 เมตร
ลักษณะอากาศทั่วไป
ประเทศไทยตอนบน (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก)
ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนธันวาคม ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไปกับมีอากาศหนาวบางแห่งในบางวันทางตอนบนของภาค ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีอากาศเย็นบางแห่งทางตอนบนของภาค โดยจะมีฝนเล็กน้อยร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ และอาจลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะๆ โดยจะมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดปกคลุมประเทศไทย
และตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์จะมีอากาศหนาวเย็นมากขึ้น โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไปและมีอากาศหนาวจัดบริเวณตอนบนของภาค สำหรับบริเวณยอดดอย ยอดภู รวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางช่วง ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีอากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป
ส่วนมากทางตอนบนของภาค ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย โดยจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ และต่อเนื่อง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมประเทศไทย และมีกำลังแรงเป็นระยะๆ
จากนั้น ลักษณะอากาศอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น และเริ่มมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน กับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ส่วนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง
ภาคใต้
ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมกราคม มีฝนตกชุกหนาแน่นเกือบทั่วไป โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ซึ่งจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่งก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในบางแห่ง สำหรับคลื่นลมทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ ในบางช่วงจะมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร
ส่วนทะเลอันดามัน จะมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร เนื่องจากมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้และมีกำลังแรงเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ประกอบกับในบางช่วงจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้นอกจากนี้ ในบางช่วงมักจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงหรือพายุหมุนเขตร้อน เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านภาคใต้จากนั้นจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ฝนจะลดลงเนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง และเริ่มเปลี่ยนเป็นลมตะวันออกหรือลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมแทน
รายละเอียดตามภาคต่างๆ
ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนธันวาคม จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป กับมีอากาศหนาวบางแห่งในบางวันทางตอนบนของภาค และมีหมอกในตอนเช้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ และอาจมีลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน
ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นมากขึ้น โดยมีอากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณตอนของภาค สำหรับบริเวณยอดดอย ยอดภูรวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และเกิดน้ำค้างแข็งขึ้นได้ในบางช่วง จากนั้น ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นและมีฝนบางแห่งในบางวัน กับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ โดยยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า และจะมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน
ภาคกลางและภาคตะวันออก
ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนธันวาคม จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางวันทางตอนบนของภาค กับมีหมอกในตอนเช้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ และอาจมีลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน
ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะมีอากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป โดยเฉพาะตอนบนของภาคและบริเวณเทือกเขา กับจะมีหมอกหนาหลายพื้นที่ในบางช่วง จากนั้น ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น และมีฝนบางแห่งในบางวัน โดยมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน กับมีหมอกหนาหลายพื้นที่ แต่สำหรับทางตอนบนของภาคและบริเวณเทือกเขายังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก (ฝั่งอ่าวไทย)
ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมกราคม จะมีฝนตกชุกหนาแน่นตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และฝนหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ในบางแห่ง ส่วนคลื่นลมจะมีกำลังแรง และจะมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตรในบางช่วง จากนั้น ฝนจะลดลง เว้นแต่ทางตอนล่างของภาคยังคงมีฝนร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งในบางวัน
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ฝั่งทะเลอันดามัน)
ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมกราคม จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร จากนั้น ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง โดยมีฝนร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนธันวาคม จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางวัน กับมีหมอกในตอนเช้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ และอาจมีลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน
ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป กับจะมีหมอกหนาหลายพื้นที่ในบางช่วง จากนั้น ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น และมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่งในบางวัน
ข้อควรระวัง
1. เดือนตุลาคม บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบนจะยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับจะมีน้ำเหนือไหลบ่าลงมา และในบางช่วงจะมีน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่งได้ในบางพื้นที่
2. เดือนธันวาคมและมกราคม บริเวณยอดดอยและยอดภูมักจะเกิดน้ำค้างแข็งขึ้นได้ กับจะมีหมอกหนาเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้นผู้ใช้ยวดยานพาหนะควรเพิ่มความระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
3. เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ อาจมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนตัวจากประเทศเมียนมาผ่านประเทศไทยตอนบน ซึ่งจะทำให้ช่วงดังกล่าวเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่
4. เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม มักมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนและเคลื่อนเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งคลื่นลมจะมีกำลังแรงและอาจเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง โดยมีความสูงของคลื่นประมาณ 4 – 5 เมตร






ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาไวกว่าที่คาด! 'พายุคัลแมกี' เข้าไทยแล้ว ความเร็ว 30 กม./ชม.
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตเส้นทางพายุ "คัลแมกีว่า เมื่อเวลา 07.00 น. "คัลแมกี" อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชันอยู่ที่เมืองจำปาสักตอนล่าง ประเทศลาว คาดจะเข้า อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี
ประกาศฉบับ 12 ไต้ฝุ่น 'คัลแมกี' อ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนแล้ว
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “คัลแมกี” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 12 โดยมีใจความว่า
อุตุฯ เตือนฝนตกหนัก 40 จังหวัด รับมือน้ำท่วม ทะเลคลื่นสูง 2-3 เมตร
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เนื่องจากอิทธิพลของ พายุไต้ฝุ่น“คัลแมกี”
กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัด รับมือฝนตกหนักมากกว่า 90 มม. จากอิทธิพลพายุคัลแมกี
กรมอุตุนิยมวิทยา เผยแพร่ประกาศเรื่อง พายุ “คัลแมกี” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 6 ระบุว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (6 พ.ย. 68) พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” (KALMAEGI)
พกร่มกันต่อไป! ทั่วไปยังเจอฝนโดยเฉพาะภาคใต้ถล่มหนัก 60%
กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าในลักษณะทั่วไป
กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุ 'คัลแมกี' เตือนฝนถล่มอีสาน 7 พ.ย.
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตเส้นทางพายุเวลา 16.00 น. วันนี้ (5/11/68) พายุไต้ฝุ่น“คัลแมกี” มีศูนย์กลาง อยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีความเร็วลมสูงสุด 139 กม./ชม.เคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 14 กม./ชม.กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก

