'โรม' แถลงโรดแมป 3 ข้อเสนอจัดการเครือข่ายฟอกเงิน ทุนเทายึดประเทศ จี้ 'นายกฯ' อย่าเงียบ

'โรม' แถลงโรดแมปเปิด 3 ข้อเสนอ จัดการแก๊งสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์-เครือข่ายฟอกเงิน ทุนเทายึดโครงสร้างสำคัญของประเทศ รับ ซับซ้อนยิ่งขึ้น เตรียมเชิญ 'รมช.คลัง' แจงความสัมพันธ์ หลังพบเชื่อมโยง BIC กรุ๊ปของกัมพูชา 30 ต.ค. นี้ ซัด 'นายกฯ' อย่าเงียบ ปล่อย รมต. ปิดปากสื่อ จี้ให้รักษาหลักนิติธรรมตามที่แถลงนโยบาย

10ต.ค. 2568 - นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน(ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคง กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงโรดแมปการติดตามเปิดโปงกลุ่มทุนเทายึดประเทศ ว่า เรื่องสแกมเมอร์สถานการณ์วันนี้ เราต้องยอมรับ ว่าเป็นประโยชน์ว่าเป็นปัญหาใหญ่ และมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในอดีตไม่เคยเจอความซับซ้อนขนาดนี้ อย่างที่เมียวดีมีการตั้งสถานบันเทิงครบวงจรอย่างชัดเจน ซึ่งเบื้องหลังอาจมีกระบวนการไว้หลอกลวงคนจำนวนมาก

"ที่ผ่านมา จะมีเครือข่ายบัญชีม้าที่มีเงินโอนต่อ ๆ กันไปปลายทางไปสู่คริปโตทำให้เจ้าหน้าที่รับติดตามลำบาก และแม้จะติดตามได้ ถ้าไม่สามารถตรวจสอบเส้นเงินได้ทั้งหมดก็ไม่สามารถเป็นไปได้เลย ที่จะระดมเงินคืนกลับมา แล้วกระจายต่อเหยื่อที่ถูกหลอก นี่คือความซับซ้อนแต่ความซับซ้อนในวันนี้มากกว่านั้น โดยมีกลุ่มเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินอย่างเป็นระบบ ซึ่งยากมากที่กฎหมายหรือแนวปฏิบัติ จะสามารถทะลายเครือข่ายการฟอกเงินได้ ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐยังคงดำเนินการแบบนี้"

นายรังสิมันต์ ยกตัวอย่างว่า เงินทั้งหมดที่ไหลไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านต้องการที่จะฟอกให้ขาวสะอาดเพื่อนำกลับมาใช้ได้ ธุรกิจในประเทศนั้น ๆ อาจจะรองรับเงินสีเทาในการฟอกขาวในระดับหนึ่ง หลบเลี่ยงการติดตามจากหน่วยงานภาครัฐ แต่เมื่อทำไปเรื่อย ๆ ชื่อเสียงของประเทศนั้น ๆ ก็จะแย่ลง แล้วทำให้ประเทศมหาอำนาจทางการเงินที่มีประสิทธิภาพติดตามการฟอกเงินก็จะยากขึ้น เช่น "บริษัทฮุยวัน" (Huione) ที่เชื่อมโยงกับตระกูลฮุน ที่หน่วยงานของสหรัฐฯติดตามเฝ้าระวังในเรื่องการฟอกเงิน ซึ่งเงินไหลเวียนเพียงบริษัทเดียวมากกว่างานงบประมาณ ของเราทั้งปี นี่เป็นเพียงแค่ปฐมบทของอาณาจักรการฟอกเงิน เพราะความจริงพบว่าเครือข่ายสแกมเมอร์ เครือข่ายการฟอกเงินได้มีการขยายปีกและอาณาจักรไปที่อื่น ๆ อีก จึงอยากให้ประชาชนทุกคนตื่นตัวกับเรื่องนี

"วันนี้พวกเขาพยายามที่จะเข้าสู่ประเทศไทยใช้เงินสีเทาสีดำทั้งหลายมายึดโครงสร้างสำคัญของประเทศเราบางบริษัทเกี่ยวข้องกับ กลต. บางบริษัทเกี่ยวข้องกับบริษัทพลังงาน เวลาที่เขาเอาเงินเหล่านี้มาซื้อหุ้น จะมายึดบริษัทสำคัญ ๆ ไม่ได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมามีวิธีการซ่อนตัวตนของผู้ที่ได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง ผ่านบริษัทหรือกองทุนที่อยู่ในประเทศอื่นเช่นสิงคโปร์ ใช้วิธีหลายรูปแบบจนสุดท้ายเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถที่จะติดตามตัวตนที่แท้จริงของคนที่ได้รับผลประโยชน์เหล่านี้ได้ และใช้เงินจำนวนมากเทคโอเวอร์เพื่อทำให้บริษัทเหล่านั้นอยู่ภายใต้อาณัติ เครือข่ายอำนาจทุนสีเทา" นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ ระบุว่า ที่ตนได้อภิปรายในสภาเป็นเพียงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ถ้าหากกระบวนการเหล่านี้ทำได้สำเร็จไม่ใช่แค่พวกเขาสามารถฟอกเงินได้หรือมีเครือข่ายที่ฟอกเงินได้เท่านั้น แต่ยังทำให้บริษัทเหล่านั้นกลายเป็นเครื่องจักรผลิตเงินให้กับแก๊งทุนสีเทามากยิ่งขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์เป็นฮับของทุนสีเทาดำ และมีความเสี่ยงที่จะทำให้ คนที่ทำมาหากินสุจริต หรือซื้อหุ้นในบริษัทเหล่านั้น ด้วยวิธีคิดที่สุจริต อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการทางการเงิน และมาตรการใด ๆ ก็ตาม จากประเทศที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันการฟอกเงิน

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าทุนสีเทากำลังจะยึดประเทศไทยของเรา และทุนสีเทานี้เกี่ยวพันกับผู้มีอำนาจ กับนักการเมืองมีสายสัมพันธ์หลายอย่าง เราคงไม่สามารถเอาใบเสร็จเส้นทางการเงินมาได้ ไม่สามารถที่จะยืนยันว่ามีหลักฐานการพูดคุยหรือแบ่งผลประโยชน์กัน แต่สิ่งที่พรรคประชาชนกำลังทำ คือต้องการที่จะเห็นรัฐบาลจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง จากวันที่ 30 ก.ย. ที่มีการเปิดโปงเรื่องนี้ จนถึง 10 ต.ค. ผ่านไปมากกว่าหนึ่งสัปดาห์ยังเรายังไม่เห็นความคืบว่าน่าหรือความเคลื่อนไหวอย่างจริงจังในการจัดการ ต้องรอให้มีการร้องเรียนถึงจะขยับ ถ้าจะอยู่กันแบบนี้ประเทศของเราจะเป็นอย่างไร

นายรังสิมันต์ ยังนำเสนอแนวทางสิ่งที่พรรคประชาชนจะทำต่อ เพื่อที่จะทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ แต่ลำพังพรรคประชาชนอย่างเดียว ไม่สามารถจัดการกับอภิมหาทุนสีเทาที่กำลังยึดประเทศของเราได้ จำเป็นจะต้องอาศัยทุกช่องทาง ทั้งความร่วมมือกับรัฐบาลความร่วมมือระหว่างประเทศในการที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และย้ำว่าปัญหาสแกมเมอร์ที่จะนำเงินไปฟอกในประเทศอื่น รวมไปถึงซื้อโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ไม่ใช่สิ่งที่ประเทศไทยประเทศเดียวจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ทั้งหมดต้องอาศัยพันธมิตร อีกหลายประเทศมาช่วยกัน

โดยมี 3 แนวทาง คือ 1. จากข้อมูลที่มีอยู่ในมือจะดำเนินการเอาผิด เช่น บางบริษัทได้ใช้วิธีการเก็บข้อมูลด้วยการสแกนม่านตา โดยอ้างว่าเป็นการยืนยันตัวตนของบุคคลในอนาคตด้วยเทคโนโลยี ซึ่งข้อเท็จจริงจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งพบว่า มีการสแกนม่านตาประชาชนจำนวนมากวันนี้มีเกือบ 2 ล้านคนแล้ว คนที่มาสแกนม่านตาเหล่านี้ไม่รู้ว่าเงินหรือคริปโตที่ได้มา กับสิ่งที่เสียไปมันคืออะไร ซึ่งคือการเก็บข้อมูลเหล่านี้บางจุดไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจน

ทำให้เกิดความกังวลว่าการเก็บข้อมูลแบบนี้ แล้วจะส่งผลเสียกับประชาชนมากขนาดไหน ซึ่งอาจนำไปสู่การปลอมแปลงตัวบุคคลในโลกออนไลน์ด้วยเทคโนโลยี หากการปลอมแปลงทำได้สำเร็จ จะทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมอีกมาก การเก็บข้อมูลชีวมิติแบบนี้ยังผิดกฎหมายเบื้องต้นทางกรรมาธิการ ได้ให้ข้อแนะนำต่อ กลต. , สำนักงานคณะกรรมการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) , ตำรวจไซเบอร์ เพื่อทำงานร่วมกัน

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ได้มาเรื่องเกี่ยวกับสแกนม่านตาและได้คริปโต เชื่อมโยงกับบางบริษัท ที่เกี่ยวกับกลุ่มทุนในกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และแสวงหาผู้ที่ได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริงและคาดหวังว่าหน่วยงานจะทำงานเชิงรุก

2. การสอบสวนแก๊งสแกมเมอร์ที่เกี่ยวพันกับ นายยิมเลียก และนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ นายเบน สมิธ ซึ่งมีสื่อต่างชาติออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ทำให้เป็นโอกาสดีที่ไทยกับ สหรัฐฯจะได้ร่วมมือกัน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และควรมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการฟองเงินของบริษัทฮุนวัน เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ต่อไป

"ข้อมูลต่างๆที่มีชัดเจนว่า เครือข่ายฟอกเงิน เครือข่ายสแกมเมอร์ใช้ประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่ 2 ของพวกเขาถ้าเราได้รับข้อมูลที่เพียงพอ ได้รับการประสานงานร่วมมือที่เพียงพอ กับนานาชาติ เราเชื่อว่าจะใช้โอกาสนี้ ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งสแกมเมอร์ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน" นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่ประเทศไทยสามารถดำเนินการได้ วันนี้มีบริษัทที่ช่วยปกปิดตัวตนคนที่ได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง หรือกองทุนที่มาลงทุนในไทย มีความเชื่อมโยงกับกัมพูชาพบว่ามี 6-7 บริษัท หรือกองทุนที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ ถ้าหากจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง กลต. ต้องทำงานร่วมกันกับหน่วยงานในประเทศสิงคโปร์ ซึ่ง กลต. รับปากยืนยันที่จะประสานงานให้

และ 3. ออกกฎหมายและเร่งรัดหน่วยงานให้ทำเรื่องนี้อย่างเป็นระบบอย่าง ป.ป.ง. ซึ่งขณะนี้ได้มี การขอแก้ไขกฎหมายอยู่คือ (Travel Rule) หากแก้ไขสำเร็จจะสามารถตรวจสอบคริปโตได้ทุกรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ แม้กฎหมายฉบับนี้ จะยังไม่แล้วเสร็จ กลต. สามารถทำเรื่องนี้ได้ ด้วยการแก้กฎกระทรวงหรือออกระเบียบ ซึ่งหวังว่ากฎหมาย (Travel Rule) จะใช้ได้อย่างรวดเร็ว

นายรังสิมันต์ ยังเรียกร้องไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยตรวจสอบเส้นทางการเงินและ ทรัพย์สินที่อยู่ในไทย ของนายลี ยงพัด นักธุรกิจและนักการเมืองของกัมพูชา ว่ามีมากน้อยแค่ไหน ดังนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นรัฐบาล จำเป็นจะต้องทำให้คนที่แจ้งเบาะแส การติดตามตัวบุคคลมีความปลอดภัย วันนี้ ประเทศไทยควรให้สัตยาบันกับ UNCC 2024 รวมไปถึงอนุสัญญาบูดาเปสต์ที่ว่าด้วยอาชญากรรมไซเบอร์และการฟอกเงิน ซึ่งการใช้กฎหมายและความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา อาชญากรรมทางไซเบอร์

"อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้กรรมาธิการจะเชิญนายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้ข้อมูล เพราะนายวรภัทรเกี่ยวข้องกับธนาคาร BIC ของนายยิม เลียก การเข้าไปเกี่ยวข้องแบบนี้โดยที่ธนาคาร BIC ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวพันเชื่อมโยงแก๊งสแกมเมอร์ ผมเชื่อว่านายวรภัคจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการที่เราจะเข้าไปปราบปรามจัดการฟอกเงินอย่างเป็นระบบ" นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีเงียบไปจริง ๆ ควรมีท่าทีออกมาได้แล้วว่ารองนายกฯที่ไปเกี่ยวข้องกับนายเบน สมิธ ที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปกป้อง นายกรัฐมนตรีจะไม่ดำเนินการอะไรเลยใช่หรือไม่ จะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นต่อไปใช่หรือไม่

"อีกอย่างร้อยเอกธรรมนัสยังมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับสื่อมวลชนถึง 270 ราย ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากเห็น ถ้ารัฐบาลนี้ต้องการทำตามที่แถลงนโยบายไว้ ว่าจะทำงานตามหลักนิติธรรม สิ่งที่ควรจะเป็นและสิ่งที่ควรจะได้รับการแก้ไขทันทีคือรองนายกรัฐมนตรีที่ใช้กฎหมายเพื่อปิดปากสื่อไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะนี่คือสิ่งที่ละเมิดตอนหลักนิติธรรมที่เป็นแนวนโยบายของรัฐบาล แล้วหวังว่าจะได้รับการแก้ไขเรื่องนี้และอยากเห็นนายอนุทินออกมาพูดเรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมถึงใช้โอกาสนี้ในการประกาศให้ประเทศไทยคนไทย รู้ว่าต้องการทำลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ แล้วจะไม่ปล่อยให้กลุ่มทุนสีเทาทั้งหลายมายึดประเทศไทย รวมถึงนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายวรภัค ที่ถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับทุนสีเทา วันนี้ 3 รัฐมนตรีในรัฐบาลนายอนุทินที่นายอนุทินยังคงเงียบ ผมจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้จบลงด้วยความเงียบ"นายรังสิมันต์ กล่าว

 

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทั่นโรม' ชี้รัฐบาลหลงเหลี่ยมเขมรใช้กับดักระเบิดเบี่ยงสแกมเมอร์!

'โรม' ชี้ 'กัมพูชา' วางกับดักระเบิดเบี่ยงประเด็นปราบสแกมเมอร์ ติงนายกฯแช่แข็งข้อตกลงสันติภาพ แผนปราบสแกมเมอร์หยุดชะงัก ถามรบ.ยึดประโยชน์ชาติ หรือปูทางเลือกตั้ง 69

'รังสิมันต์' ตามขยี้ 'ธรรมนัส' บอกไม่ใช่จบแค่ 'ชนนพัฒฐ์'

'โรม' ลั่นวันนี้ต้องไม่ใช่แค่ 'ชนนพัฒฐ์' แต่ต้อง 'ธรรมนัส' ย้อนถามปลดคนนี้แล้วประเทศเสียอะไร หวั่นช่วงเลือกตั้งใช้ทุนเทามหาศาล สุดท้ายทุนเทาก็เข้ามามีอำนาจรัฐ แล้วอย่างนี้ 'อนุทิน' จะมาเป็นนายกฯทำไม

นายกฯ ย้ำชัดดำเนินการเด็ดขาด ไม่ดูชื่อดูแซ่ หลัง ปปง.ยึดทรัพย์ 'สส.ชนนพัฒฐ์'

นายกฯ ย้ำชัด ดำเนินการเด็ดขาด ไม่ดูชื่อ ดูแซ่ หลัง ปปง.ยึดทรัพย์ “ชนนพัฒฐ์” สส.กล้าธรรม 159 ล้าน ปัดคุย ”ธรรมนัส“ ลั่น ไม่มีเรียกร้องอะไรทั้งสิ้น เพราะสั่งทุกหน่วยงานจัดการไม่เว้น หากตัวเองโดนก็ต้องถูกดำเนินคดี

นายกฯ ดันเมกะโปรเจกต์ คลองระบายน้ำ 'ป่าสัก-อ่าวไทย' เร่งอนุมัติก่อนยุบสภา

"อนุทิน" ลั่นไม่ใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน เดินหน้าเข็นเมกะโปรเจกต์โครงการป่าสักอ่าวไทย ผันน้ำขนาดเจ้าพระยา ออกแก้น้ำท่วมซ้ำซาก เร่ง อนุมัติก่อนยุบสภา

'โรม' เตือนอย่าหลงเหลี่ยมเรื่องทุ่นระเบิดต้องเดินหน้าทุบหม้อข้าวเขมร

'รังสิมันต์' เตือนรัฐบาลอย่าติดกับดักกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิด เบี่ยงประเด็นจัดการสแกมเมอร์ จี้ต้องทุบหม้อข้าวตัวนี้ ชี้ 'สีหศักดิ์' ต้องบอกทั่วโลกเร็วกว่านี้ อย่าปล่อยให้เขมรใช้ความเป็นเหยื่อว่าเรารังแกเขา

รังสิมันต์บอกยึดทรัพย์ 'ชนนพัฒฐ์' 159 ล้านน้อยเกินไป!

'กมธ.มั่นคงฯ'​ เชิญ 'ชนนพัฒฐ์' แจงพรุ่งนี้ 'โรม' มองยึดทรัพย์ 159 ล้านบาทน้อยเกินไป เชื่อมีมากกว่านี้ ถาม 'อนุทิน' เหตุใดยังอุ้ม 'ธรรมนัส' ซัดมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ซักฟอก 1 ปีมี 1 ครั้ง จะยื่นต้องเอาให้สำเร็จ