'ชวน' ร่ายยาวแก้รัฐธรรมนูญ เหตุเป็นผู้ใช้รธน.ตั้งแต่ปี 2511 ชี้ที่ปัญหาเพราะผู้ใช้ไม่เคารพ ทำให้รธน.สะดุดหกล้ม ยัน กม.ที่ดีต้องไปกับคนที่ดีตลอดเวลา จึงจะสามารถพัฒนาประเทศได้
15 ต.ค.2568 - นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในฐานะที่เป็นผู้ใช้รัฐธรรมนูญ น่าจะเป็นคนหนึ่งที่ใช้รัฐธรรมนูญมากกว่าหลายท่านในที่นี้ ใช้รัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2511 ซึ่งสมาชิกในสภาฯส่วนใหญ่น่าจะยังไม่เกิด แต่เพื่อนร่วมรุ่นที่ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนั้นก็คงไม่มีแล้วในห้องนี้ รัฐธรรมนูญฉบับนั้นเป็นฉบับที่ ใช้เวลาร่างอยู่ 10 ปี แต่ใช้ได้เพียง2 ปี 9 เดือนก็มีอันเป็นไปและความมีอันเป็นไปครั้งนั้นต่อมาก็ก่อให้เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 16 ซึ่งทั้งหมดก็เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ 2 ปี 9 เดือนของรัฐธรรมนูญฉบับนั้น ทำให้ประชาชนได้เปิดหูเปิดตา สื่อมวลชน นักศึกษา ก็รู้ว่าความเป็นประชาธิปไตยทำให้เขาได้รับรู้ความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองไม่มากก็น้อย หลังจากนั้นก็มีรัฐธรรมนูญ ปี 2517 ในห้องนี้ก็น่าจะมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กับตน ที่ได้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนั้น ถือว่าเป็นฉบับที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุดฉบับหนึ่ง แต่ใช้ได้ 2 ปี ก็เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 19 ในที่สุดรัฐธรรมนูญฉบับนั้นก็ล้มไป และเป็นที่มาของรัฐธรรมนูญฉบับ2521 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ตนได้เป็น สส.ครั้งที่3 น่าแปลกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้อยู่ได้นานกว่าฉบับอื่น ซึ่งมีคำตอบอยู่ในตัว
นายชวน กล่าวว่า ประสบการณ์ที่ใช้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวเหล่านี้มาทำให้ตนได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตัวเองว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่เราจะเขียนให้ดีอย่างไรก็ตามแต่เวลาปฏิบัตินั้นอาจจะเป็นเรื่องหนึ่ง ตนจึงขอนำประสบการณ์มาเป็นประโยชน์ เป็นข้อคิด ซึ่งสมาชิกในห้องนี้คงทราบดี แต่ตนหวังผลว่าประชาชนที่ไม่ได้ติดตามใกล้ชิดอาจจะมีความกังวลว่าทำไมมาสนใจเรื่องนี้ทำไมไม่พูดเรื่องปากท้อง ซึ่งตนขอบอกว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นหลักของบ้านเมืองเป็นหลักที่จะบอกให้เรารู้ว่าอำนาจแต่ละฝ่ายมีมากน้อยเพียงใด เมื่อไหร่ก็ตามถ้ามีการละเมิดอำนาจที่กำหนดไว้บ้านเมืองจะมีปัญหา เราจึงย้ำเรื่องนี้ว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญคือโครงสร้างที่แท้จริงที่จะให้รู้ว่าขอบเขตอำนาจแต่ละฝ่ายเป็นอย่างไร
“ผมได้ใช้รัฐธรรมนูญ จนถึงฉบับปี 2540 ที่เราพูดว่าเป็นฉบับที่ดีที่สุดฉบับหนึ่งซึ่งอยู่ได้ 10 ปี และล้มไปในปี 2549 ผมเป็นคนใช้รัฐธรรมนูญฉบับ 40 เป็นคนแรก ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเราเคารพกฎเกณฑ์บ้านเมืองแต่หลังจากนั้นก็มีปัญหาติดตามมาจนในที่สุดเกิดเหตุเมื่อปี 2549 มีการยึดอำนาจด้วยเหตุผล 4 ข้อ1.มีพฤติกรรมทุจริตโกงกินอย่างรุนแรง 2. มีพฤติกรรมแตกแยกสามัคคี 3.มีพฤติกรรมแทรกแซงองค์กรอิสระจนปฎิบัติหน้าที่ไม่ได้ 4.มีพฤติกรรมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จึงเป็นที่มาของรัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งปี 50 เป็นปีแรกที่เริ่มมีมาตรา 2 วรรค 2 ในมาตรา 3 กฎหมายรัฐธรรมนูญทุกฉบับมาตรา 3 คล้ายกันคือ”อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนิติบัญญัติผ่านทางรัฐสภาอำนาจบริหารผ่านทางคณะรัฐมนตรีอำนาจตุลาการผ่านทางศาล” เท่านี้เอง”นายชวนกล่าว
นายชวน กล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญปี 50 ได้เขียนวรรคสองให้อำนาจเหล่านั้นปฏิบัติภารกิจโดยยึดหลักนิติธรรม ประธานฯก็ทราบดีว่าไม่ต้องเขียน ทุกฝ่ายก็ต้องยึดหลักนิติธรรมอยู่แล้วแต่ทำไมถึงมาเขียนวรรคสองในรัฐธรรมนูญปี 50 รวมมาถึงปี60 ด้วย ไหนถ้อยคำที่เป็นการบังคับให้ยึดหลักนิติธรรมคำตอบก็คือในระหว่างที่ใช้รัฐธรรมนูญปี 40 ที่เราคิดว่าเป็นฉบับที่ดีที่สุดได้เกิดเหตุการณ์ในการละเมิดหลักนิติธรรม ทั้งเรื่องยาเสพติด มีการฆ่าตัดตอนในภาคใต้ จนเป็นเหตุให้รุนแรงมาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับหลังจากนั้นจึงเขียนข้อความเปลืองกระดาษไปอีก3-4 บรรทัดว่าทุกฝ่ายต้องเคารพหลักนิติธรรม ทั้งที่ความจริงไม่ต้องเขียนก็ต้องยึดอยู่แล้ว แต่สะท้อนให้เห็นการใช้รัฐธรรมนูญที่ผ่านมา
นายชวนกล่าวว่า ขอฝากข้อคิดสำหรับประชาชนว่า หลักที่ว่าถ้าเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยหลักนิติธรรมหลักกฏหมายเป็นหลักที่สำคัญที่สุดหลักหนึ่งเมื่อไหร่เราละเมิดปัญหาจะติดตามมา ซึ่งถือเป็นข้อคิดที่ผมฝากข้อสังเกตไว้กับรัฐบาลปัจจุบันในวันแถลงนโยบายรัฐบาล โดยริเริ่มวางรากฐานของประเทศเพื่อให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้าซึ่งตนเห็นด้วยอย่างยิ่งและเชิญชวนว่าเมื่อเรายุบสภาหลังจากครบสี่เดือนแล้วเลือกตั้งใหม่เราเริ่มตั้งแต่วันนี้คือรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวในเรื่องการเลือกตั้งที่สุจริตเพราะทั้งหมดมีที่มาว่าทำไมจึงได้มีการกระทำที่ผิดหลักนิธรรมเกิดขึ้น คำตอบคือมีพฤติกรรมที่ผู้บริหารขาดความเข้าใจหลักนี้ และไม่เชื่อกฎหมาย ประโยชน์เป็นที่ตั้ง ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ถูกยกย่องว่าฉบับปราบโกง ซึ่งผมเห็นด้วยว่าจริงๆแล้วโกงเพราะปราบรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะไปทางไหนก็มีปัญหาทุจริตโกงกินทุกหย่อมหญ้า พูดได้เลยว่าบ่อนการพนันกระจายไปทั่วประเทศเพื่อหาประโยชน์ส่งสวยให้กับนักการเมือง เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าเกิดจากคุณภาพคน ผมจึงคิดว่าถ้าเรากลั่นกรองคนที่จะเข้ามาสู่กระบวนการประชาธิปไตยในฝ่ายไหนก็ตามรวมทั้งฝ่ายนิติบัญญัติได้คนที่มีความสุจริตเที่ยงตรงปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชันก็อาจจะเกิดขึ้นน้อย
“แก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคต ถ้าเรามองข้ามความสำคัญของผู้ใช้รัฐธรรมนูญ เราจะพลาดและเราจะมีปัญหา ผมจึงถ้ากฎหมายที่ดีที่จะมีต่อไปในอนาคตกับคนที่ดีต้องไปด้วยกัน ที่ผ่านมาทั้งหมดผมพูดในฐานะเป็นประจักษ์พยานที่เห็นรัฐธรรมนูญมาทุกฉบับ แม้ทั้งหมดเราจะเขียนมาไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ทำไมถึงมีปัญหา คำตอบคือผู้ใช้รัฐธรรมนูญ ต้องคำนึงว่ากฎหมายที่ดีกับคนที่ดีและจะต้องไปด้วยกันตลอดเวลาบ้านเมืองเราจึงจะสามารถพัฒนาไปได้มีความเจริญรุ่งเรืองระบบการปกครองของเราไม่ใช่ระบบล้มเหลว ที่เรามีปัญหาสะดุดหลายครั้งหกล้มหลายครั้ง เพราะผู้ใช้กฎหมายของเราไม่เคารพกฎเกณฑ์กติกาเลือกปฏิบัติทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกอย่างที่ไม่ควรเกิดก็ต้องเกิด ดังนั้นขอให้เราให้ความสำคัญกับคนที่จะมาทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายนิติบัญญัติก็เป็นผู้จัดตั้งฝ่ายบริหาร องค์กรเหล่านี้มาจากเส้นทางที่ดีตั้งแต่ต้นเราจะได้เราจะได้องค์กรที่ดีและพัฒนาบ้านเมืองได้ไกลตามที่ประชาชนทั้งประเทศที่เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงคาดหวังไว้”นายชวน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จี้ 'พรรคส้ม' ต้องขอโทษประชาชนด้วย บ้านเมืองมีภัยสงคราม อดีตส.ส.กลับหนีทหาร ดูถูกกองทัพ
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กรณีศาลอาญาอ่านคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ อดีตส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ในคดีปลอมใบสด.43 เพื่อหนีทหาร ว่า
'เพื่อไทย' ซัดรัฐบาลยุบสภาหนีตรวจสอบ ล้มเหลวบริหารประเทศ 16ธ.ค.เปิด 3 แคนดิเดตนายกฯ
'เพื่อไทย' ออกแถลงการณ์ หลังรัฐบาลยุบสภาหนีตรวจสอบ สะท้อนความล้มเหลวบริหารประเทศ ‘จุลพันธ์’ ประกาศพร้อมเลือกตั้ง 16 ธ.ค.เปิด 3 แคนดิเดตนายกฯ พร้อมนโนบายชุดแรก
'จตุพร' ฉะการเมืองตีโง่ ยุบสภากลางศึกสงคราม ส่อทหารใช้กฎอัยการศึกเลื่อนเลือกตั้งอีกยาว
'จตุพร' ฟาดนักการเมืองเอาแต่ใจ ตีโง่บีบยุบสภากลางศึกสงคราม ส่อประเคนอำนาจให้ทหารใช้กฎอัยการศึกเลื่อนเลือกตั้ง เผลอๆ อาจไม่มีสภาอีกยาวไกล
'ภราดร' ปัด ภท. หักหลัง ปชน. ไม่ผิดเงื่อนไข MOA
'ภราดร' ยัน ภท.จริงใจแก้รธน.ที่สุด ปัดหักหลัง ปชน. ไม่ได้ผิดเงื่อนไข MOA ระบุ รบ.รักษาการยังทำหน้าที่เรื่องชายแดน-ภัยพิบัติได้ รับต้องพับคนละครึ่งเฟส 2 ไปก่อน อ้าง 'เอกนิติ ' จ่อนำเข้าครม.แล้ว แต่ยุบสภาก่อน
เกมแห่งพันธมิตรที่จบลงไม่ไกลเกินคาด 'ส้ม' ถูก 'น้ำเงิน' ต้มจนเปื่อย กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้
นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ การเมืองสารขัณฑ์: เกมแห่งพันธมิตรที่จบลงไม่ไกลเกินคาด มีเนื้อหาดังนี้
โปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา 'อนุทิน' อ้างการเมืองรุมเร้า ต้องคืออำนาจให้ประชาชน
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีใจความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ ให้ประกาศ

