นายกฯไทย-กัมพูชา หารือทวิภาคี เดินหน้าตามถ้อยแถลง ย้ำ 4 ประเด็นสำคัญ เพื่อสันติภาพ

28 ต.ค. 2568- เวลา 10.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 1 ชม.) ณ ห้อง 7M ชั้น 3 ศูนย์ประชุม KLCC นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หารือทวิภาคีกับนาย ฮุน มาแนด นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มีหนังสือแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าการลงนามถ้อยแถลง (Joint Declaration) เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นพื้นฐานสำหรับสองประเทศที่จะเดินหน้า แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องมีการปฏิบัติตามอย่างจริงจังและจริงใจ การหารือในวันนี้จึงมุ่งเน้นความจำเป็นที่สองประเทศจะต้องร่วมมือกันเพื่อเดินหน้านำข้อตกลงไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำความสำคัญใน 4 ประเด็นที่ได้ตกลงกัน เพื่อการลดความตึงเครียดตามแนวชายแดน ได้แก่ 1.การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ 2.การเก็บกู้ทุ่นระเบิด 3.การปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะสแกมเมอร์ และ4.การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ กระบวนการถอนอาวุธหนักได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ไทยต้องการเห็นคือ การเดินหน้าถอนอาวุธหนักอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนบริเวณชายแดน รวมถึงต้องการเพิ่มความเข้มข้นในการประสานงานเพื่อการปฏิบัติตามในเรื่องอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะการประสานงานประเด็นปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การลงพื้นที่เก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่าย ยังได้หารือ ถึงแนวทางเพิ่มการสื่อสารทางการทูต โดยจะมอบหมายให้รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายพบหารือกันโดยเร็ว

นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่าย ยังเห็นพ้องว่า ในช่วง 2-3 วันหลังจากการลงนามในถ้อยแถลงฯ มีความสำคัญยิ่ง สำหรับประเทศไทย ประชาชนและสื่อมวลชน ของทั้งสองประเทศ ที่จะติดตามความคืบหน้าของการปฏิบัติตามถ้อยแถลงดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่ายที่ต้องแสดงให้เห็นถึงการเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในการปฏิบัติตามที่ตกลงกันไว้ด้วยความจริงใจและด้วยความสุจริตใจ เพื่อสร้างความมั่นคงและปลอดภัยให้แก่ประชาชนของเรา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภูมิใจไทยปลุกพลังผู้สมัครสส. ชูสโลแกน 'พูดแล้วทำพลัส' ตั้งเป้าเกิน 200 ที่นั่ง!

แกนนำภูมิใจไทยกำชับว่าที่ผู้สมัคร สส.เดินเกมเลือกตั้งตามกติกา กกต. ชูผลงานรัฐบาลเป็นจุดขาย พร้อมปลุกใจหากทุ่มเทเต็มที่ มีลุ้นกวาดเกิน 200 ที่นั่ง มองสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชามีแนวโน้มคลี่คลายก่อนปีใหม่

ขี่ม้าโปโลทีมชาติไทยฟอร์มดี เฉือนเอาชนะมาเลเซีย กีฬาซีเกมส์ครั้งที่33

สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย รายงานผลการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโล ประเภท Handicap 4-6 Goals ในซีเกมส์ ครั้งที่ 33 การแข่งขันเป็นการพบกันระหว่างทีมชาติไทยพบทีมชาติมาเลเซีย โดยทีมชาติไทยยังคงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม เอาชนะทีมชาติมาเลซีย ไปด้วยสกอร์ 9.5:7 ประตู และแมตซ์ถัดไปทีมชาติไทยจะลงสนามพบกับทีมชาติอินโดนีเซีย ในวันที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 18:00 น. ณ สนามวีเอส สปอร์ตคลับ แอนด์ สยามโปโลปาร์ค (VSSC) รับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง YouTube Official : Thailand Polo Association

ปตท.สผ. ผนึก TTEลงทุนแปลงเอสเค408 ขยายฐานในมาเลเซีย

ปตท.สผ. เดินหน้าขยายการดำเนินงานในมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง จับมือพันธมิตร TotalEnergiesลงทุน ในแปลงเอสเค408 ขยายฐานการเติบโตให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

นายกฯ ถก สมช. รถขนน้ำมันช่องเม็กไปลาว ไม่เลี้ยวขวาเข้าเขมร โต้ใช้อาวุธหนักไล่ไปดูคลิปใครรุนแรงกว่า

ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมสภ