ปชป.ภาคใต้สะเทือน 'มาร์ค' รั้งไม่อยู่ 'โกหนอ บ้านใหญ่ตรัง' พาลูกสาวตบเท้ายกทีมออก รอเปิดตัวเข้าพรรค ภท.เปิดใจ ออกทั้งน้ำตา ลั่นพาพรรคสีน้ำเงินชนะยกจังหวัด ปูด 'กลุ่มสงขลาเดชอิศม์' จ่อซบผู้กองธรรมนัส
30 ต.ค.2568 - นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ หรือโกหนอ อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สี่สมัยแห่งบ้านใหญ่จังหวัดตรัง บิดา น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรังสองสมัย และประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎรจากพรรคปชป. ให้สัมภาษณ์กับไทยโพสต์ยืนยันการตัดสินใจทางการเมืองของกลุ่มตัวเองที่จังหวัดตรังว่า ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายออกจากพรรค ปชป.เพื่อไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น หลังก่อนหน้าการประชุมใหญ่พรรค ปชป.เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค ปชป.และกรรมการบริหารพรรค ปชป.ชุดใหม่เมื่อ 18 ต.ค. ตอนนั้นได้เคยประกาศไว้แล้วว่าหากผลการประชุมพรรคปชป.ออกมาว่ามีชื่อนายสาทิตย์(สาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ก็ไม่มีสมชายตัวผม เมื่อผลการประชุมพรรคปชป.ออกมาว่านายสาทิตย์กลับเข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรคปชป. ผมจึงต้องยืนยันคำพูดที่เคยบอกไว้จะไม่มีนายสมชาย วันนี้ยืนยันแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่วันประชุมใหญ่พรรค ปชป. ลูกสาวผม สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ก็ไปโหวตเลือกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์เลือกนายสาทิตย์ เป็นรองหัวหน้าพรรค วันนี้ก็ต้องไม่มีนายสมชาย
เมื่อถามว่า มีการเจรจาเกลี้ยกล่อมขอให้กลุ่มโกหนอยังอยู่กับพรรค ปชป.ต่อไปหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า จริงๆ ก็เห็นใจนายอภิสิทธิ์ ที่ผ่านมาหลังเข้าไปเป็นหัวหน้าพรรค ปชป.ก็มีการโทรศัพท์ติดต่อมาหาผม 4-5 ครั้ง ขอให้ผมอยู่กับพรรค ปชป. ต่อ รวมถึงโทรศัพท์หาพี่ชายผม นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายกฯอบจ.จังหวัดตรัง เพื่อขอให้ช่วยไกล่เกลี่ยช่วยประสานกับผม ซึ่งผมก็เห็นใจนายอภิสิทธิ์ แต่เมื่อผมพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว (มีสาทิตย์ ไม่มีสมชาย) คำพูดมันเป็นนายเรา เพราะเราก็แตกกันมากในพื้นที่ วันนั้นถ้าเหมือนวันนี้ ที่จริงไม่แตก วันนั้นที่แข่งเลือกตั้งนายกฯอบจ.จังหวัดตรัง ผมกับลูกสาว ก็เข้าไปคุยกับเขา(นายสาทิตย์) ถึงสองรอบ ซึ่งวันนั้นหากนายอภิสิทธิ์มาพูดคุย มาไกล่เกลี่ยแบบนี้ก็ไม่แตกกัน วันนั้นไม่มีใครเลย ปล่อยให้เราแข่งกันมโหฬาร จนเป็นที่สงสัยของคนจังหวัดตรัง ที่แข่งนายกฯอบจ.ตรังกันระหว่าง น้องชายนายสาทิตย์ (สาธร วงศ์หนองเตย) กับพี่ชายผม นายบุ่นเล้ง ถ้าวันนั้นมีการไกล่เกลี่ยกับแบบตอนนี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรก็คงจบ ซึ่งผมเชื่อว่าหากวันนั้นที่ไม่มีการแข่งขันกันเองในการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ตรัง วันนี้ตัวนายสาทิตย์ก็ยังเป็นส.ส.ตรังอยู่ เพราะร่องรอยของความแตกแยกในครั้งนั้นได้นำไปสู่ที่เรียกว่า สาทิตย์ก็พังไปเลยบนเส้นทางการเมืองของการเป็นส.ส. เพราะวันนั้นหากน้องชายเขา มาเป็นรองนายกฯอบจ.ตรังกับพี่ชายผม ตามที่ผมกับลูกสาวไปเชิญชวนเขา ผมไปหาเขาถึงสองครั้ง แต่เขาไม่มา บอกว่าจะลงสมัครแข่งนายกฯอบจ.ตรังกับพี่ชายผม ถ้าวันนั้นเขามา แล้วผมจะไปยุ่งทำไมในเขตเลือกตั้งเขา เพราะเราพรรคเดียวกัน พวกเดียวกัน ต้องช่วยกัน แต่ฝ่ายเขายืนยันจะแข่งอย่างเดียว จนสุดท้ายฝ่ายเขาแพ้พวกผมไป 46,000 คะแนนในการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ตรังเมื่อปี 2563 ตอนนั้นคือร่องรอยของความแตกแยกจนนำมาสู่วันนี้
“ผมอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มานาน ช่วยประชาธิปัตย์มาสามสิบกว่าปีแล้ว แต่วันนี้เราก็ต้องก้มหน้าเดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์ที่เราผูกพัน ที่เราหวง แต่วันนี้เราต้องเดินจากไป”
ถามต่อไปว่าหากนายสาทิตย์จะมาขอโทษ จะเป็นอย่างไร โกหนอ เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เคยนัดหมายกับผมแล้ว จะนัดทานข้าวกันสามคน จะมาเคลียร์กัน ผมก็บอกไปว่าแล้วเมื่อก่อนไม่เห็นมีใครมาช่วยเคลียร์ให้ตอนเราแตกแยกกัน ผมบอกไปว่า ผมไปทานข้าวด้วยไม่ได้ บอกไปว่าผมเหม็นขี้หน้า ไม่อยากเห็นหน้ากัน ผมก็เป็นคนพูดตรงๆ เพราะตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว มันแตกมานานแล้วตั้งแต่ตอนเลือกตั้งนายกฯอบจ.ตรัง ตอนนั้นไม่มีใครมาประสานงาน ประชาธิปัตย์ก็เป็นแบบนี้ แทนที่จะมีการลงมาไกล่เกลี่ยมาดูแลแก้ไขก็ไม่มีเลย ปล่อยให้รบกันสุดท้ายมันก็แตกแยก
ถามย้ำว่าถึงตอนนี้มีเงื่อนไขอะไรที่จะให้โกหนออยู่ประชาธิปัตย์ต่อไป นายสมชายกล่าวว่า ตอนนี้มันยอมไม่ได้แล้วต้องไปแล้ว ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะให้นายสาทิตย์ ที่กลับมาพรรค ปชป. จะแค่มาเป็นสมาชิกพรรค ปชป.ธรรมดา ผมก็รอดูผลประชุมวันที่ 18 ต.ค. คือหากเป็นสมาชิกพรรคธรรมดา ก็อาจคุยกันได้
“สุดท้าย นายอภิสิทธิ์ก็ตั้งเขาเป็นรองหัวหน้าพรรค ปชป.มันก็เลยไปด้วยกันไม่ได้ เราต้องยอมเดินออกจากพรรคปชป. บอกตรงๆ ว่าออกทั้งน้ำตา เป็นการตัดสินใจหลังประชุมใหญ่พรรคป ชป. 18 ต.ค. โดยช่วงก่อนหน้านั้น ก็มีการคุยมีดีลอะไรกันอยู่ แต่พอมีรายชื่อรองหัวหน้าพรรค ปชป.ออกมาเราก็ตัดสินใจว่าเมื่อมีสาทิตย์ก็ต้องไม่มีสมชาย คำไหนคำนั้น”โกหนอระบุ
นายสมชาย เปิดเผยว่า กลุ่มของตนจะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย โดยอยู่ระหว่างรอการเปิดตัวผู้สมัคร สส.ตรัง ที่จะลงสมัครกับพรรคภูมิใจไทย ทั้งสี่เขตเลือกตั้งที่น่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ คิดว่านายเนวิน ชิดชอบ น่าจะเดินทางมาร่วมเปิดตัวด้วยตัวเอง ครูใหญ่มา เพราะวันก่อนก็เคยเดินทางมาเชิญ (22 กรกฎาคม 2568 นายเนวิน ชิดชอบกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯและรมว.คมนาคมแกนนำพรรคภูมิใจไทยภาคใต้ เดินทางไปบ้านพักนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ) โดยผู้สมัคร สส.เขตจังหวัดตรังที่จะเปิดตัวลงสมัครกับภูมิใจไทย ก็มี เขต 1 นายจำนงค์ นาวาแก้ว หรือ กำนันนงค์ จะส่งหลานชายตัวเองที่เป็นนายกฯอบต.ลงสมัคร เขต 2 นายทวี สุระบาล ส.ส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ ที่ตอนนี้ชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว(เข้าภูมิใจไทย) ส่วนเขต3 ก็เป็น สุณัฐชา ลูกสาว สำหรับเขต 4 มีการเปลี่ยนตัวจาก นายกาญจน์ ตั้งปอง สส.ประชาธิปัตย์ เขต 4 เป็น นายพิชัย เจริญศิริสุนทร หรือ สจ. ล้านที่เป็นญาติกับนายพิพัฒน์ รองนายกฯ แต่การพิจารณาไม่ใช่ว่าส่งสจ.ล้าน เพราะเป็นหลานนายพิพัฒน์ ทั้งหมดจะไปเปิดตัวลงกับพรรคภูมิใจไทยล้านเปอร์เซ็นต์ ที่น่าจะเปิดตัวช่วงเดือนพ.ย. ซึ่งก็มั่นใจว่า จะชนะยกทีมได้ อย่างเขตสอง ได้ข่าวว่าน้องชายนายสาทิตย์จะมาลงสมัครแข่งกับนายทวี แต่ผมว่าน่าจะสู้ยาก ตอนเลือกตั้งปี 2566 นายทวีได้มาหกหมื่นกว่าคะแนน ตอนนั้นนายสาทิตย์ได้มาหนึ่งหมื่นห้าพันคะแนน ก็น่าจะสู้ยาก ที่อื่นอาจไม่แน่ แต่ที่ตรัง มันต้องแน่นอน เพราะตอนนี้กระแสของภูมิใจไทยที่ตรังดี แล้วสจ.ตรัง30 คน หนุนพวกเราหมดทุกเขต ไม่มีแตกแถวแม้แต่คนเดียว รอดูวันเปิดตัวจะมากันหมดทั้งจังหวัด แต่ยอมรับว่า การที่นายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. ก็ทำให้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ประชาธิปัตย์ที่ตรังน่าจะดีขึ้น จากเดิมตอนเลือกตั้งปี 2566 ที่ตรังประชาธิปัตย์ได้ 90,000 คะแนน ส่วนก้าวไกลได้ 140,000 คะแนน พรรคลุงตู่ รวมไทยสร้างชาติได้ 120,000 คะแนน
เมื่อถามว่าแล้วแกนนำพรรค ปชป.ภาคใต้คนอื่นๆเช่นนายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีตเลขาธิการพรรคปชป. -ส.ส.สงขลา จะย้ายไปอยู่พรรคการเมืองใด นายสมชาย เปิดเผยว่า เมื่อสักครู่ เพิ่งวางสายโทรศัพท์หลังคุยกับนายเดชอิศม์ ดูแล้ว นายเดชอิศม์หากไม่ไปพรรคกล้าธรรม ก็คงไปพรรคโอกาสใหม่ ก็มีอยู่สองพรรค เพิ่งวางสายเมื่อกี้นี้ แต่ผมว่าน่าจะหนักไปทางพรรคกล้าธรรมมากกว่า เพราะพรรคโอกาสใหม่ยังไม่ชัดเจนว่า สปอนเซอร์(นายทุน) จะยังเข้าไปดูแลพรรคเหมือนเดิมหรือไม่ ในส่วนกล้าธรรม มีปัญหาแค่ตรงที่มี สส.กล้าธรรม สงขลา ที่มีปัญหากับนายเดชอิศม์ ซึ่งหาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เคลียร์ได้ก็น่าจะจบ ตอนที่คุยกันเมื่อกี้ เขาไม่ได้บอกว่าทำไมถึงจะออกจากพรรคปชป.บอกแต่ว่ามีสองพรรคที่จะเลือกคือโอกาสใหม่กับกล้าธรรม
“ผมรักษาคำพูดตัวเอง ก่อนหน้านี้ผมก็เคยบอกไว้ว่าขอรอดูผลการประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ว่าจะเอาอย่างไรระหว่างผมกับนายสาทิตย์ เมื่อเลือกนายสาทิตย์มาเป็นรองหัวหน้าพรรค ผมก็ต้องเดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์ด้วยน้ำตา เราก็ต้องไป เราต้องหาที่อยู่ใหม่ หาบ้านหลังใหม่อยู่ ทั้งที่ตระกูลผม ผูกพันกับประชาธิปัตย์มานาน”โกหนอ บ้านใหญ่จังหวัดตรัง เปิดใจตอนท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การชุมนุมปี 53 มีอาวุธ 'แม่ยกปชป.' ขู่ ใครที่ยังใส่ร้าย 'อภิสิทธิ์' ระวังจะถูกฟ้อง
'ติ๊งต่าง' ย้ำความจริงม็อบปี 53 ศาลฎีกาฯ -คอป. -ปปช. ได้ชี้แล้วว่าการชุมนุมไม่สงบ มีอาวุธ และมีเหตุรุนแรง ขู่ ใครที่ยังใส่ร้าย 'อภิสิทธิ์' ระวังจะถูกฟ้องหมิ่นประมาท
'คุณหญิงกัลยา' กราบลาพระแม่ธรณี เดินตามฝันซบ 'พรรคไทยก้าวใหม่' กับ 'ดร.เอ้'
'คุณหญิงกัลยา' กราบลาพระแม่ธรณี ยื่นลาออก 'ปชป.' เผย ย้ายซบ 'พรรคไทยก้าวใหม่' ไปอยู่กับ 'ดร.เอ้' ยังอุบรายละเอียดไว้ก่อน บอก ยังรักเคารพทุกคนเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ทุกอย่างถดถอยลงไปมากแล้ว จึงขอเดินไปตามฝัน หวังใช้ 'การศึกษา-จัดการน้ำ' พาประเทศพ้นวิกฤต
จากผู้ถูกตัดสิทธิ์…ถึงผู้ถูกเสนอชื่อ: เส้นทาง 'อนุทิน' สู่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32
จากวันที่ต้องถอยออกจากสนาม จนถึงวันที่ถูกเสนอชื่อบนเก้าอี้สูงสุด เส้นทางของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ทำให้เห็นว่าอำนาจการเมืองไทยหมุนเวียนไม่รู้จบ 5 กันยายน อาจเปิดทางสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32
ปชป.เลือดไหลอีก! เด็กรุ่นใหม่ไขก๊อกรับไม่ได้อุดมการณ์เปลี่ยน
ปชป.เลือดไหลไม่หยุด ชานน รุ่นใหม่พรรคสีฟ้าลาออก ลั่นไม่ร่วมทางพรรคที่หลุดอุดมการณ์
'ดร.สามารถ' ปลุก ปชป.อย่าอยู่เป็นหุ้นส่วนเงียบถึงเวลาต้องถอนตัว!
ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

