จบแล้วละครฉากใหญ่ 'พิธา-สุทิน' เพ้อส่งท้าย ก่อนกลับบ้านมือเปล่า


19 ก.พ.2565 - การอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เมื่อเวลา 21.30 น. วานนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ผู้นำในศตวรรษ21 เราต้องการผู้นำทันสมัย ทันโลก กล้าหาญ เชี่ยวชาญโรคระบาด เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ เข้าใจประชาชน เข้าใจความเดือดร้อน และมีหัวใจเป็นประชาธิปไตย ไม่คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีลักษณะแบบนั้น ไม่มีภาวะผู้นำไปศตวรรษ21 พล.อ.ประยุทธ์ มองอะไรมุมเดียว พูดอะไรก็เป็นลักษณะพูดคนเดียว ไม่ต้องการให้คนอื่นตอบโต้ ที่บอกว่าส่งออกดีมาก2564 ดีมาก เพราะไปเอาตัวเลขที่ฐานต่ำปี63 มาเป็นตัวตั้ง เกาไม่ถูกที่คัน นายกฯบอกจะมีคนมาลงทุน เมื่อพูดถึงอุตสาหกรรมอนาคต ไม่ได้หมายความว่าคนมาลงทุน จะเท่ากับการลงทุนในเรื่องเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือลงทุนกับอนาคตมากแค่ไหน ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ เห็นใจประชาชน เหมาะจะเป็นผู้นำในศตวรรษ21จริงๆ ขอเพียงให้ทำตามเมื่อตอนหาเสียงปี62 ก็พอ ทั้งเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท ให้เบี้ยคนชราถ้วนหน้า 1000 บาท เงินเดือนเด็กจบใหม่ 1.8-2 หมื่นบาท เป็นต้น ขอซักถามนายกฯ เมื่อไหร่ จะทำตามที่ได้หาเสียงไว้เมื่อปี 2562

นายพิธากล่าวว่า ถ้าเหตุการณ์ การเมืองโลก รัสเซีย ยูเครน ปะทุขึ้น ราคาดีเซลจะไปเท่าไหร่ นายกฯจะใช้มาตรการอะไรดูแลพี่น้องประชาชน ถ้านายกฯมีวิสัยทัศน์ งบประมาณจะไม่ออกมาแบบนี้ 2ปีที่ผ่านมา ใช้ภาษีประชาชนไป 7.5 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันเกิดความเหลื่อมล้ำระบบสาธารณสุขในเมืองไทย ที่หมอหนึ่งคนต่อคนไข้ในกทม. กับจ.บึงกาฬ ตัวเลขที่ดูแลต่างกันมาก ถ้าคิดถึงอนาคต การลงทุนในอนาคต กองทุนบีโอไอ จะไม่ต่ำขนาดนี้ และถ้าพล.อ.ประยุทธ์ กล้าหาญ ต้องกล้าชนอำนาจมืด ปัญหายาเสพติด โดย7ปีที่ผ่านมา ยาเสพติดโตกว่าเดิมถึง7เท่า แต่ราคายาเสพติดกลับถูกลงมาก และต้องไม่ยอมให้มีการค้ามนุษย์ในประเทศไทยเป็นคำถามที่ฝากไปถึงประยุทธ์ และความกล้าหาญ ในเรื่องที่ควรต่อสู้ อยากฟังคำตอบพล.อ.ประยุทธ์

ขอเสนอแนะไปยังรัฐบาลที่ทำได้ทันทีใน 100วัน ทำให้ประเทศเปลี่ยนทิศทาง ทำให้คนมีความสุขแน่นอน 1.ต้องลดค่าใช้จ่าย เฉพาะหน้า โดยปิดเกมโควิดให้ดี เปลี่ยนจากเชิงรับเป็นเชิงรุก โดยแจก เอทีเค ให้ประชาชน ไปโรงเรียน 2.ฉีกวัคซีน ต้องดูแลคนป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ คนพิการ ต้องไปฉีดให้ที่บ้านเลย สุดท้าย เทคโนโลยี ต้องนำหน้าโควิด บางประเทศตรวจโควิด ได้เพียงแค่ใช้ลมหายใจ ถ้าทำตามนี้ โควิดจะทุเลา เราต้องพลิกจากเชิงรับเป็นเชิงรุก

ในเรื่องเศรษฐกิจต้องเปลี่ยนเงินชี้วัด ตัวเลขทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเงินเฟ้อ ต้องมีตะกร้าคนจนเมือง คนจนต่างจังหวัด เจอปัญหาตรงไหน จะได้แก้ให้ตรงจุด สินค้าโภคภัณฑ์ก็ต้องมี สินค้าคงคลังร่วมกัน เมื่อประเทศนี้หมดไปใช้อีกประเทศร่วมกันมาได้ ที่เสนอไม่ได้คิดนอกกรอบอะไรเลย หลายประเทศเริ่มทำแล้ว ทำให้สต็อกในมือเราขยายใหญ่ขึ้น มีธนาคารอาหารอาเซียน จะบริหารราคาอาหารได้ เรื่องหนี้ ธปท.ของเราเป็นอิสระจากรัฐบาล แต่เรามีหนี้ทั้งบัตรเครดิต ลิสซิ่ง และหนี้อื่นๆ จึงต้องมีหน่วยงานมาดูแลเรื่องนี้เฉพาะ ส่วนเรื่องรายได้ สุราก้าวหน้า แค่แก้บรรทัดเดียว รมว.พาณิขย์ ช่วยส่งเสริม รมว.อุตสาหกรรม ทำให้การพัฒนาดีขึ้น รมว.วัฒนธรรม หาเรื่องราวประวัติศาสตร์ดื่มเหล้า รมว.ท่องเที่ยว ช่วยให้เรื่องกินดื่มเป็นเรื่องการท่องเที่ยว แก้บรรทัดเดียว ลุกทั้งแผ่นดิน

ต่อมาเวลา 21.50 น. นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย สรุปการอภิปรายว่า ประชาชนอยู่ในกองทุกข์ จากการบริหารงานของครม.ทั้งชุดนี้และชุดเก่า 6-7 ปี วันนี้ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกตัว สินค้ากว่า 8 พันรายการ รัฐมนตรี เลือกเอาสินค้าที่ราคาไม่ตก มาบอก เมื่อไปดูพบว่า อาหารขึ้น 30-35 เปอร์เซ็นต์ การเดินทาง ทางด่วนรถเมล์ก็ขึ้น เมื่อราคาขึ้นแล้ว รายได้ตก คนทำมาหากินไม่ได้ เกิดภาวะของแพง ไม่มีเงินใช้จ่าย ปัจจัยการผลิตราคาปุ๋ยพุ่ง 178-200 เปอร์เซ็นต์ อาหารสัตว์ขึ้นเกือบ 200เปอร์เซ็นต์ เมื่อขึ้น เกษตรกรตาย ไปดึงรายได้อื่นให้ตก ค่าไฟฟ้าปรับอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ ต้นทุนการผลิตทำนา พุ่งขึ้นทันที คนที่มาทำงานโรงงาน ตกงาน หนี้ครัวเรือนพุ่งขึ้น หนี้สาธารณะพุ่งขึ้น แม้โควิดออกไป แต่ไทยก็ไม่ฟื้น เพราะปัจจัยพื้นฐานเราล้มก่อนโควิด แม้โควิดต่างคนต่างโดน ของเขาแค่เซ แต่เราหัวคะมำ นายกฯบอกว่า เงินเฟ้อ ที่กลัวที่สุดคือ วินิจฉัยผิด ไปอ้างว่าทั้งสหรัฐ อังกฤษ ทั่วโลกก็เฟ้อ ก็จริง แต่เขาฟื้นตัวแล้ว เลยอัดฉีดเงินเข้าระบบเยอะ ของเราไม่ใช่ ต้องเป็น เงินฝืด เขาฟื้นแล้ว เรายังไม่ฟื้น ขยายตัวก็จริง แต่ขยายตัวในแดนลบ คือยังไม่พ้นจากเหวง่ายๆ เป็นเงินเฟ้อในราคาสินค้า แต่รายได้เราไม่มี รวมทั้งน้ำมันก็แพง เมื่อปัญหาเศรษฐกิจเป็นแบบนี้ ยาเสพติดระบาด มีอาชญากรรมจากไซเบอร์ สแกรมเมอร์

นายสุทิน กล่าวว่า ทางด้านการเมือง เป็นการเมืองที่ใช้เงินมาก เลือกตั้งท้องถิ่น เลือกตั้งซ่อมเห็นแล้วเศร้า โดยใช้เงินเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยที่ท่านทำ กรรมมาตกที่ท่าน เคยบอก การเมืองแตกแยก ไม่มีเสถียรภาพแล้วในพรรคท่านเป็นอย่างไร แตกหรือไม่ ก็มาส่งผลให้ทำงานไม่ได้ ประเทศไม่ได้ปฏิรูปการเมือง ระบบราชการ มาโผล่ในสภาฯ สภาล่ม นับองค์ไม่พอ ฝ่ายค้าน รัฐบาลแย่ พวกสันหลังยาว หากทำการเมืองปฏิรูป เหตุการณ์วันนี้ ไม่เกิด การนับองค์ประชุม เป็นวิถีของฝ่ายค้าน ตรวจสอบ เห็นรัฐบาลมาน้อย แต่เมื่อก่อนนับแล้ว รัฐบาลยังอยู่เยอะ ฝ่ายค้านก็แป๊ก ในอดีตนับกันไม่มีปัญหา นานๆทีอาจจะล่มบ้าง แต่สมัยนี้ไม่ใช่ นับเมื่อไหร่ก็ล่มทุกที เหตุที่ล่ม เพราะพวกท่านบริหารไม่ได้ ไม่มาเอง ไปคุมพวกท่านซะ ไม่ใช่มาด่าพวกผม การเมืองวันนี้ กลับไปสู่ยุคน่าเป็นห่วง

เรื่องเหมืองทองอัครา เป็นห่วงว่าเมื่อไหร่จะจบ และจบแบบใด สุดท้ายได้ข่าวว่า เขาได้สัมปทานเพิ่ม ความเป็นส.ส.เป็นห่วงจึงเอามาถาม เมื่อถามแล้วก็ลุกเป็นฟื้นเป็นไฟ แต่ฟังไปฟังมาก็มีพิรุธ และบริษัทคิงส์เกต ไปบอกผู้ถือหุ้นว่าเราจะได้สัมปทานเพิ่มแล้ว จากการตรวจสอบก็พบพิรุธ ไม่ได้บอกว่าการปิดผิด เพราะชาวบ้านก็เดือดร้อน แต่ผิดที่ไปใช้มาตรา 44 เท่านั้น ควรใช้วิธีที่ฉลาดและกฎหมายที่โลกไม่ยอมรับ พลาดตรงไม่เอาเรื่องสิ่งแวดล้อมไปบอกเขา ถ้าแพ้นายกฯก็จ่าย จะเอาเงินแผ่นดินไปจ่ายไม่ได้ เสียค่าปรับยังเสียหายน้อยกว่าเอาสัมปทานใหม่ให้เขาเพิ่ม

ส.ส.คนนนี้ กล่าวว่า เรื่องหมูแพง หมูตาย เป็นเรื่องสะเทือนใจมาก ข้อสงสัยกล่าวหามาตลอด คือ มีโรคอหิวาต์เกิดขึ้น แต่ท่านไม่ได้บอกกับสังคม คนเลี้ยงหมูให้ทันเวลา หมูตายเยอะ ราคาหมูแพงขึ้น พวกเลี้ยงรายย่อยจะสูญพันธ์ ตายไปหมด แต่ฟาร์มใหญ่อยู่สบาย ทำไมไม่บอกข้อมูล ไม่รู้กรมปศุสัตว์กลัวต้องจ่ายค่าชดเชยใช่หรือไม่ ทุกข์จากปัญหาปากท้อง ปัญหาสังคมซ้ำเติม ทุกข์การเมือง และปัญหาการทุจริต

"ฝ่ายค้านมีข้อเสนอแนะรัฐบาล อยากให้ยอมรับความจริง รับฟังคนอื่นมากขึ้น ไม่ใช่เป็นเพราะเงินเฟ้อ หรือเป็นทั่วโลก แต่เราหนักกว่าเขา อยากให้แก้ปัญหาเชิงรุก ไม่ใช่วิ่งตามปัญหา น้ำมันแพงต้องลดภาษีสรรพสามิต ไม่ใช่จะมาเก็บ เราบอกไป ท่านก็เถียง แต่เพิ่งมาลดเมื่อ2-3วันนี้เอง ช้าไปแล้ว กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ ส่วนนักกีฬาไปเมืองนอก ไม่ได้ร้องเพลงชาติ เพราะเขาแบน เพิ่งมาแก้ เป็นเรื่องที่ปิติที่น่าเศร้าใจ ขอให้กระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ไม่ใช่แค่ แจกๆๆ ไม่ได้แจกให้กินอย่างเดียว แต่ต้องแจกเพื่อให้มีการลงทุน เกิดกิจกรรมเศรษฐกิจ ให้ชาวบ้านได้ลงทุน ได้ทำงาน วันนี้ท่านใช้งบประมาณไปกว่า 20 ล้านล้านบาท สหรัฐเจอโควิดหนักกว่านี้ เขากระตุ้นก็ขึ้น แต่ของเราไม่ขึ้น เพราะแจกให้เขากินอย่างเดียว ไม่ได้กระตุ้นให้ทำงาน"

นายสุทิน อภิปรายอีกว่า รัฐบาลในอดีตมีกันชนเศรษฐกิจ มีโช๊คอัพ มีกองทุน มีภูมิคุ้มกัน เป็นกันชนให้เขา ไม่ใช่ชนปุ๊บมาถึงชาวบ้านเลย ต่อมาควรหารายได้ เรากู้เป็นอย่างเดียว ตราบใดไม่หารายได้ นายกฯบอกปี 2565 เป็นปีแก้หนี้ครัวเรือน ถ้าจะแก้หนี้จริงๆ ต้องลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ไม่ใช่ทำตรงกันข้ามกัน การหารายได้ เช่น ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซี วันนี้นอกจากไม่ส่งเสริม ยังจะเก็บภาษีอย่างเดียว ชาวบ้านเจอทั้งดอกเบี้ย ยังจะมาเจอภาษีโรงเรือนที่เพิ่มขึ้น 10 เท่า รัฐบาลเสียโอกาสในการหารายได้ไปมาก แต่ไม่ใช่หารายได้มาจากเก็บภาษีชาวบ้าน กรมธนารักษ์เตรียมยกราคาประเมินขึ้น ทำให้การโอนก็ต้องเพิ่มด้วย ขอนายกฯอย่าเพิ่งยกราคาประเมินในปีนี้ได้หรือไม่ เรื่องการใช้งบประมาณ ขอให้ใช้อย่างเป็นประโยชน์ งบกลางที่จะไปใช้ซื้อาวุธ เรือดำน้ำ ต้องเลิก และต้องอุดรูรั่วการทุจริต

นายสุทิน อภิปรายด้วยว่านายกฯไม่ปฏิรูปการเมือง ระบบราชการ สั่งอะไรไป ราชการไม่ตอบสนอง ก็จบข่าว ส่วนการปฏิรูปการเมือง เดือนสิงหาคม จะครบ8ปี ดูเหมือนท่านจะอยู่ต่อ ถ้าไม่ปฏิรูปการเมืองบอกเลย เลือกตั้งรอบหน้ามาหนักกว่านี้ ขอให้ทบทวนตัวเอง คิดว่า วันนี้อยู่บนกองทุกข์หรือกองสุข จะเอาชนะคะคานกับใคร กับลูกน้อง โดยเอาคน65ล้านคนเป็นตัวประกัน จะล้างแค้นใคร ใจคอไม่ปล่อยชาวบ้านออกจาก อุ้งมือเลยหรือ

"ผมได้คุยกับนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาฯที่บอกว่า เมื่อปี2526 สภาฯคุมไม่อยู่ นายกฯวันนั้น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้ไปคุยกับ ประธานสภาฯ ถามว่า ทำอย่างไรดี ประธานสภาฯบอกให้ยุบสภาฯ สัปดาห์ต่อมา พล.อ.เปรมมาถามอีก แนวทางนั้น ท่านยังคิดว่าถูกต้องไหม ประธานสภาฯบอกว่า ถูกครับ หลังจากนั้น นายกฯก็ยุบสภาฯ เพราะเมื่อยุบแล้ว ท่านก็ไป ผมก็ไป แต่ที่ยุบเพราะยอมเสียสละ บ้านเมืองก็ไปได้ ขอโทษที่เอาเรื่องผู้ใหญ่สองคนมาพูด แต่พูดในทางเป็นคุณ เป็นประโยชน์ ถ้าท่านไม่ออก จะลาออกหรือยุบสภาฯก็แล้วแต่ท่าน เพียงแต่ขอ ชีวิตคนไทยกว่า 60 ล้านคนพ้นอุ้งมือ

การแจก กลัวว่าคนจนเรื้อรังจะเกิด จากจนเฉียบพลัน ไปสู่จนเรื้อรัง แล้วไปจนถาวร แล้วประเทศก็ไปกู้หนี้ฉุกเฉิน แล้วไปกู้หนี้เรื้อรัง นำมาสู่ ภาวะล้มละลาย ที่น่าเป็นห่วงที่สุด เด็กไทยในอนาคต จะไปสู้กับใครเขาได้ เรื่องกัญชาทางการแพทย์ถ้าคุมกันอยู่ก็ดี ถ้าเป็นกัญชาเพื่อความบันเทิง คุมไม่อยู่ พ่อแม่เสพยาบ้าไปอีก ลูกจะเป็นอย่างไร เรามามองอนาคตประเทศกัน

“ไม่ใช่อยู่ๆ เรามาบอกให้นายกฯออก แต่เราเสนอแนะทุกข้อแล้ว นายกฯออกมาบอกหน่อยจะรับหรือไม่ ถ้าอุดรอยรั่วไม่ได้ก็เปลี่ยนเรือเลย หน้าที่ไล่นายกฯเป็นหน้าที่ของพวกผม ไล่ในสภาฯดีกว่าไปไล่ที่อื่น การไล่นายกฯในสภา เป็นความชอบธรรม สง่างาม ตามรัฐธรรมนูญ152 หรือท่านคิดว่าวิธีที่ถูก เหมือนที่ไล่นายกฯคนก่อน สภาเป็นเงาสะท้อนประชาชน ประชาชนร้อน ที่นี่ก็ต้องเดือด ประชาชนร้องไห้ ที่นี่จะมา นะจ๊ะ นะจ๋าได้อย่างไร กลับบ้านไป คนถามเยอะที่สุด ชาวบ้านถาม สุทิน เมื่อไหร่จะไล่นายกฯออกให้หน่อย จะไล่ได้หรือไม่ ไม่ใช่เฉพาะคนมหาสารคาม ไปจังหวัดไหน ก็บอกเหมือนกัน ผมก็บอก ก็ทำได้ตามวิถี ออกไม่ออกก็สุดความสามารถแล้ว

สภาจะปิดในวันศุกร์หน้าแล้ว ไม่ได้คุยกันอีก 2 เดือน เราไปพร้อมกันก็ได้ ยุบสภาฯเลย ไม่ได้ไล่ท่านอย่างเดียว กฎหมายลูกทำทัน สัปดาห์หน้า ก็ให้วาระหนึ่งผ่าน มีนาคมแปรญัตติ เมษายนก็ วาระสอง สามก็จบ ไปพร้อมกัน จะได้เป็นธรรม ไม่ต้องน้อยใจ พวกผมไล่ท่าน วันนี้ได้ทำหน้าที่ เอาความทุกข์ชาวบ้านมาคุยแลกเปลี่ยน ผมบอกว่า ท่านพูดผิด คิดผิด ท่านก็ว่าผมคิดผิดก็ได้ ก็ให้ชาวบ้านตัดสิน อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางที่ดี ขอบคุณประธาน ขอบคุณฝ่ายรัฐบาล ขอบคุณรัฐมนตรีที่มาฟัง ขอบคุณครับ”นายสุทินกล่าว

จากนั้น เวลา 01.35 น.  นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ แจ้งว่า ที่ประชุมสภา ที่เปิดประชุมอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 เสร็จสิ้นแล้ว ขอบคุณรัฐมนตรีและทุกฝ่ายที่ร่วมดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ ขอปิดประชุมสภา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ