ไม่เนียนไปสุมหัวมาใหม่! รัฐบาลเขมรออกแถลงการณ์ อ้างทหารไทยโดนทุ่นระเบิดเก่าเมื่อ 50 ปีที่แล้ว

11 พ.ย. 2568- Khmer Times สื่อภาษาอังกฤษของกัมพูชา กระบอกเสียงระบอบฮุนเซน รายงานว่ารัฐบาลกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้อย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจของไทยในการระงับปฏิญญาร่วมที่ลงนามไปเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากเกิดเหตุระเบิดกับระเบิดที่ทำให้ทหารไทย 2 นายได้รับบาดเจ็บใกล้กับเขตชายแดน

เหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ในบริเวณใกล้เคียงกับปราสาทพระวิหาร ได้จุดชนวนความตึงเครียดระหว่างประเทศเพื่อนบ้านขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ไทยอ้างถึงเหตุระเบิดครั้งนี้ว่าเป็นข้ออ้างในการระงับข้อตกลงทวิภาคี และยกเลิกกำหนดการปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกควบคุมตัวโดยไทย

ในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการที่กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศออกเมื่อวานนี้ กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ามีการวางทุ่นระเบิดใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว กระทรวงฯ ย้ำว่าพื้นที่ชายแดนยังคงเต็มไปด้วยวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดจากความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 และทุ่นระเบิดจำนวนมากยังไม่ได้รับการกำจัดเนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ขรุขระและแนวแบ่งเขตที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

“กัมพูชาไม่เคยใช้ทุ่นระเบิดชนิดใหม่ใดๆ และจะไม่ทำเช่นนั้น” แถลงการณ์ระบุ โดยยืนยันถึงความมุ่งมั่นของประเทศต่ออนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดบุคคล

ปฏิญญาร่วมซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นความก้าวหน้าทางการทูต โดยมีประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนร่วมเป็นสักขีพยาน ข้อตกลงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความตึงเครียดทางทหารและส่งเสริมความร่วมมือตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย

กระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาแสดงความผิดหวังต่อการระงับข้อตกลงกะทันหันของไทย โดยระบุว่าปฏิญญาดังกล่าวได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากนานาชาติ และเป็นสัญลักษณ์ของบทใหม่ของการทูตระดับภูมิภาค.