เปิดมติลับ 4 ต่อ 3 ดัน 'ณรงค์' คุมบังเหียน กกต.

เปิดมติลับ 4 ต่อ 3 ดัน 'ณรงค์' นั่งคุมบังเหียน 7 เสือ กกต.เฉือน 'สิทธิโชติ' ฉิวเฉียด ลือขั้วน้ำเงินเปลี่ยนแผนพลิกเกม

19 พ.ย.2568 - มีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดเผยถึง มติของที่ประชุม กกต.เมื่อ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งโหวตเลือกนายณรงค์ กลั่นวารินทร์ กกต. อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ เป็นประธาน กกต.คนใหม่แทนนายอิทธิพร บุญประคอง โดยได้เสียงโหวตลงคะแนนเอาชนะนายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ กกต.และอดีตประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกาฯไปได้แบบเฉียดฉิว ด้วยคะแนน 4 ต่อ 3

โดยมีรายงานว่า นายณรงค์ ได้ 4 เสียงจาก นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ อดีตที่ปรึกษาหัวหน้าสำนักงานนายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรีและอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ, นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายณรงค์ รักร้อย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี และนายณรงค์ กลั่นวารินทร์ที่ลงคะแนนเสียงให้ตัวเอง

ขณะที่นายสิทธิโชติ แคนดิเดตชิงประธาน กกต. กับนายณรงค์ มีรายงานว่า ได้คะแนนเสียงสนับสนุน 3 เสียงจาก นายชาย นครชัย อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม, นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และตัวนายสิทธิโชติที่ลงคะแนนเสียงให้ตัวเองเช่นกัน

โดยหลังจากนี้ สำนักงาน กกต.จะส่งชื่อไปให้ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภานำชื่อนายณรงค์ และว่าที่กกต.ใหม่อีกสองคน ที่ได้รับเสียงเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภาเมื่อ 20 ตุลาคม ให้เข้าเป็น กกต.คือ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายณรงค์ รักร้อย อดีตผู้ว่าฯอุทัยธานี และอดีตผู้ว่าฯสมุทรสาคร ก็จะมีการนำทั้งสามรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป

มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ การเมืองขั้วสีน้ำเงิน จะผลักดันนายณรงค์ เป็นประธานกกต.คนใหม่ แต่หลังมีการเช็กเสียงกันรอบสุดท้ายเมื่อ 17 พ.ย. พบว่าเสียงหนุนนายณรงค์ ไม่เกินกึ่งหนึ่งของ 7 เสียง กกต. เพราะกกต.บางคนที่เคยมีข่าวว่าจะออกเสียงให้ ปรากฏว่าเกิดเปลี่ยนใจ อีกทั้งพบว่ากระแสการเมือง ไม่ตอบรับหากฝ่ายสีน้ำเงิน จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกประธาน กกต.มากเกินไป เพราะจะเป็นการเข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระที่จะทำให้ ขั้วสีน้ำเงินตกเป็นเป้าทางการเมือง โดยมีรายงานว่า ทำให้มีสัญญาณจากขั้วการเมืองสีน้ำเงิน เปลี่ยนไปหนุน นายณรงค์ ที่มีภาพลักษณ์เป็นกลาง เป็นอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาที่ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาส่งชื่อไปให้วุฒิสภาโหวตเห็นชอบเป็น กกต. จึงมองว่าควรสนับสนุนให้เป็นประธาน กกต. ที่จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ที่จะสนับสนุนแคนดิเดตคนอื่น ที่ฝ่ายการเมืองขั้วน้ำเงินได้ข้อมูลมาทำนองว่า อาจเป็นคนของขั้วอำนาจเก่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับภารกิจของประธาน กกต.และ กกต.หลังจากนี้ มีหลายเรื่องที่รออยู่เช่น การดูแลควบคุมการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)ทั่วประเทศ 5,300 แห่งในเดือนมกราคม 2569, การควบคุมดูแลการเลือกตั้ง สสในปีหน้า 2569 โดยเฉพาะการรับรองผลการเลือกตั้ง การให้ใบเหลืองใบแดง ผู้สมัคร สส. และการพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่างๆ ที่จะตามมาหลังการเลือกตั้ง และยังมีเรื่องของการคุมดูแลจัดการในเรื่องการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) กลางปีหน้า รวมถึงเรื่องที่หลายฝ่ายจับตามองคือ การพิจารณาสำนวนการไต่สวน-สอบสวนของคณะอนุกรรมการไต่สวนของสำนักงาน กกต.ในคดีฮั้ว สว.ที่ก่อนหน้านี้ อนุกรรมการฯ กกต.เคยเรียก สว.สีน้ำเงินร่วมร้อยคนมารับทราบการแจ้งข้อกล่าวหา อีกทั้งคดีดังกล่าวยังโยงไปถึงแกนนำพรรคภูมิใจไทย และเครือข่ายพรรคสีน้ำเงินในหลายจังหวัด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดีตกกต.' ชวนคิด การเลือกประธาน กกต.คนใหม่ เป็นมติที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เรื่องชวนคิด การเลือกประธาน กกต.คนใหม่

เดือด! ชิง 'ปธ.กกต.คนใหม่' หึ่งน้ำเงินดัน 'อดีตผู้ว่าฯ' สายตรงบ้านใหญ่ เจอ 'สายศาลฎีกา' ฮึดสู้

ศึกชิงเก้าอี้ปธ.กกต.คนใหม่เดือด หลังลือสะพัด สีน้ำเงินดันอดีตผู้ว่าฯ สายตรงบ้านใหญ่ ไปนั่งคุม 7 เสือกกต. แต่สายศาลฎีกาฯฮึดสู้ ตั้งป้อมสกัด วัดใจโค้งสุดท้าย ใครถอย-ใครลุย พบสองงานสำคัญรออยู่ คุมเลือกตั้งปีหน้า-ลงมติคดีฮั้วสว. 

กกต.รับข้อเสนอ 'ไอติม' ชง กกต.ออกระเบียบรองรับ การทำประชามติล่วงหน้านอกเขต

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่ข่าวเลขที่ 434/2568 วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 กกต. ยืนยันจะมีการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน สำหรับการไปใช้สิทธิออกเสียงประชามตินอกเขต

เปิดชื่อผู้สมัครชิง กกต. สรรหาแทน 2 ตำแหน่งว่าง อดีตข้าราชการพรึ่บ

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปการรับสมัครผู้เข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (แทนตำแหน่งที่ว่าง) จำนวนวน 2 คน ว่า ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะหน่วยธุรการ เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งตั้งเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (แทนตำแหน่งที่ว่าง)