20 พ.ย.2568 - นายแก้วสรร อติโพธิ นักกฎหมาย นักวิชาการ เผยแพร่บทความในรูปถาม-ตอบ เรื่อง ใคร..รังแกมึงวะ? มีเนื้อหาว่า
ถาม มีคนคร่ำครวญกันใหญ่ว่า ทักษิณกำลังถูกรังแก ถูกเอากฎหมายมาข่มเหงตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันเลยทีเดียว อาจารย์เป็นหนึ่งในคนทำคดียึดทรัพย์ จะว่าอย่างไร ไปรังแกเขาหรือเปล่าครับ
ตอบ ผมพูดแก้ตัวไปก็เท่านั้น เท่าที่ควรทำควรดูกันจริงๆ ก็อยู่ที่การวิพากษ์กันในทางกฎหมายเท่านั้นว่า คำวินิจฉัยนั้นๆยุติโดยธรรมหรือไม่ มีอะไรผิดปรกติหรือเปล่า
ถาม คดีภาษีชินคอร์ป ล่าสุด ให้ทักษิณเสียภาษี 1.76 หมื่นล้านนี่ เป็นยังไงครับ
ตอบ ผมเห็นว่าสมเหตุผลครับ ศาลฏีกาตัดสินมาตั้งแต่สิงหาคมนี้แล้ว ก่อนการเมืองผันผวนจาก ”พ่อติดคุก ลูกออกไป เขมรจัญไร” เสียอีก การไปมองว่าซ้ำเติมกัน หรือกีดกันไม่ให้กลับมาช่วยเพื่อไทยในสนามเลือกตั้ง จึงไม่สมเหตุผล ไม่มีเค้ามูลเลย คดีค้างอยู่ในศาลฏีกามา 2 ปี แล้ว จะให้ศาลอมคดีคาปากไว้นานเท่าใด
ถาม แล้วเหตุผลของศาลมันแปลกไหมครับ นักกฎหมายภาษีบางคนเขาบอกว่าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ตอบ ทักษิณเล่นหุ้นมานานตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯแล้ว ในปี 2542 เค้าจดทะเบียนที่เกาะเวอร์จิ้น ตั้งบริษัทแอมเปิ้ลริช (โคตรรวย )ขึ้นมาเล่นหุ้นโดยเฉพาะ ชำระค่าหุ้นไว้ 1 เหรียญแล้วตัดหุ้นชินคอร์ปของตนส่วนหนึ่ง ขายให้แอมเปิ้ลริชถือไว้ในต่างประเทศ ทำให้ใช้หุ้นก้อนนี้เล่นปั่นราคาหุ้นชินคอร์ปในตลาดไทย ได้สบาย ไม่มีใครรู้ ตลาดหลักทรัพย์ก็ตรวจอะไรไม่ได้เพราะชื่อเป็นนิติบุคคล ใครถือหุ้นก็ไม่ทราบ
ถาม พอจะขึ้นเป็นนายกฯ แล้วมี รัฐธรรมนูญ 2540 ห้ามรัฐมนตรีถือหุ้นบริษัทสัมปทานทักษิณเค้าทำอย่างไรครับ
ตอบ ที่ถูกนั้น เค้าต้องขายหรือโอนหุ้นให้ลูกจริงๆ จนตนขาดสิทธิ์จริงๆไปเลย แต่ทักษิณก็ไม่ทำกลับเอาชื่อลูกมาใช้ถือหุ้นชินคอร์ปแทนพ่อ-แม่ หุ้น กว่า 49.6% ที่อยู่ในชื่อเค้า ก็ทำเป็นขายให้พี่น้องกับลูก ๒ คนแรก ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว โดยชำระเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน ส่วนหุ้นชิน 10% ที่เค้าถือผ่านแอมเปิ้ลริชอยู่อีกก้อนนั้น ก็ใช้วิธีขายหุ้นแอมเปิ้ลริชให้ลูก พอทำได้อย่างนี้ ก็แจ้งทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ได้ โดยไม่มีหุ้นชินคอร์ป อยู่ในบัญชีเลย
ถาม มาในปี 2549 ที่รัฐบาลทักษิณแก้กฎหมายในสภาจนสามารถขายหุ้นโทรคมนาคมให้ต่างชาติได้ถึง 49.99% แล้วเจรจาขายให้เทมาเส็คจนโอเคกันแล้วนั้น เค้าวางแผนอย่างไร เพื่อไม่ให้เสียภาษีเงินได้ครับ
ตอบ กฎหมายไทยยกเว้นภาษีให้สำหรับการขายในตลาดหลักทรัพย์โดยบุคคลธรรมดาเท่านั้น หุ้นชิน ลูกโอ๊ค ลูกเอมกับพี่น้อง ถืออยู่ในชื่อตนเอง ก็ขายได้เลยไม่เสียภาษี แต่อีก 10% หรือ 330 ล้านหุ้น ที่อยู่ในชื่อแอมเปิ้ลริชนั้น ถ้าให้บริษัทขายเองเลยก็เสียภาษีเลย เพราะเป็นนิติบุคคล เค้าจึงใช้วิธีให้แอมเปิ้ลริช ขายหุ้นชินคอร์ปให้แก่ โอ๊ค เอม ก่อน แล้วจึงเอามารวมกับหุ้นชินก้อนอื่นเหมาเข่งขายให้เทมาเส็ก ในราคากว่า 7.3 หมื่นล้าน อีกทอดหนึ่ง โดยไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว
ถาม แล้วทำไม จึงเกิดคดีให้ทักษิณ เสียภาษี 1.76 หมื่นล้าน ในวันนี้ขึ้นมาได้ครับ
ตอบ มันเกิดเพราะการตรวจสอบของ คตส. ที่ไปตรวจทางเดินหุ้นชินฯจนพบตัวบริษัทแอมเปิ้ลริช และพบการขายหุ้นชินให้ลูกทักษิณ เอาไปรวมเข่งขายสิงค์โปร์
พอพบมาถึงตรงนี้ก็เห็นเป็นข้อกฎหมายขึ้นมาว่า การขายหุ้นให้เทมาเส็กในตลาดหลักทรัพย์โดยบุคคลธรรมดาได้เงินกว่า 7.3 หมื่นล้านนั้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ก็จริงอยู่ แต่ธุรกรรมก่อนหน้านั้นตรงที่แอมเปิ้ลริชขายให้โอ๊ค เอม หุ้นละ 1 บาท พอวันรุ่งขึ้นก็เอาไปขายเทมาเส็กได้ หุ้นละ 49 บาท นั้น การขายหุ้นครั้งนี้ จึงมีค่าเท่ากับให้เงิน 5,000 ล้านแก่โอ๊ค เอมเลยทีเดียว และเมื่อคนทั้งสองมีชื่อเป็นกรรมการบริษัท ประโยชน์ที่รับไปจึงมีฐานะทางกฎหมายในวันนั้น เป็น “ค่าตอบแทนที่แอมเปิ้ลริชให้แก่บุคลากรบริษัท” ซึ่งกรณีนี้ตามประมวลรัษฎากรต้องถือเป็นเงินได้ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นทันทีในวันโอนหุ้นให้นั่นเอง
คตส.จึงมีมติเมื่อ ปี 2551 ให้สรรพากรลงมือเก็บภาษีเงินได้ก้อนนี้ ซึ่งเมื่อรวมกับเบี้ยปรับและเงินเพิ่มในวันนี้ จึงพอกเป็นเงินที่ต้องชำระรวม 1.7 หมื่นล้านในที่สุด
ถาม แล้วสรรพากร ยอมทำตาม คตส.ไหมครับ
ตอบ ยอมครับ เค้าเริ่มออกหมายเรียกโอ๊ค เอม มาชี้แจง ครั้นชี้แจงไม่ได้ก็ออกใบประเมิน เมื่อไม่ยอม ก็เกิดเป็นคดีภาษีขึ้นมาคาศาล แต่พอดีในปี 2553 ก็เกิดมีคดีข้างเคียงขึ้นมายุติเป็นคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองว่า หุ้นชินคอร์ปทั้งหมดที่ขายให้เทมาเส็คนั้น แท้ที่จริงเป็นของทักษิณที่หลีกเลี่ยงรัฐธรรมนูญเอาชื่อลูกมาปกปิดไว้ และเมื่อพบว่าส่วนราชการใต้อำนาจนายกฯ ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์โดยมิชอบ ให้แก่ธุรกิจของนายกรัฐมนตรี ศาลจึงมีคำสั่งยึดเงินที่ขายหุ้นได้ เฉพาะส่วนที่เป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นโดยมิชอบ คือ 4.3 หมื่นล้าน ให้ตกเป็นของรัฐ
พอชินวัตรแพ้คดียึดทรัพย์มาอย่างนี้ฝ่ายโอ๊ค เอม ก็ยกคำพิพากษาในคดียึดทรัพย์นี้ขึ้นมาต่อสู้ในคดีภาษีว่า ตนไม่ใช่ผู้มีเงินได้ จนศาลตัดสินให้ชนะคดีภาษีไปในที่สุด
ถาม สรรพากรก็ต้อง หันมาประเมินภาษีกับทักษิณ
ตอบ ครับ แต่แทนที่จะออกหมายเรียกทักษิณ มาชี้แจงก่อน ก็กลับออกใบประเมินเก็บภาษีทักษิณเลย ตรงนี้นี่เองที่ฝ่ายทักษิณยกขึ้นสู้ในศาลว่า การประเมินที่จำเลยทำไปไม่ถูกต้อง เพราะไม่ออกหมายเรียกให้ตนไปชี้แจงก่อน ทั้งๆที่เป็นขั้นตอนตามกฎหมายที่สำคัญ จนในที่สุดทักษิณ ก็ชนะคดีไปในศาลต้น และศาลอุทธรณ์
ถาม ทราบว่าสรรพากร ทำตัวละล้าละลังมาก ผ่านไป 7 ปีกว่าจะยอมประเมินภาษีทักษิณ
ตอบ เป็นเช่นนั้นครับ พอดีได้ สตง. กับคุณชาญชัย อิสระเสนารักษ์ สส.ปชป.ออกโรงกระทุ้งนายกฯตู่ จนสั่งให้สรรพากรต้องยอม ประเมินทักษิณ เมื่อ ปี 2560ในที่สุด
ถาม ศาลฎีกา ให้สรรพากรชนะคดี ด้วยเหตุผลใดครับ
ตอบ ท่านเห็นด้วยกับสรรพากรว่า โอ๊ค กับเอม เป็นตัวแทนทักษิณ ซึ่งทำตัวเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ ดังนั้นการที่สรรพากรออกหมายเรียกและรับฟังสองคนนี้จนจบ ก็ต้องถือว่าได้กระทำต่อตัวการแล้ว และแม้จะสรรพากรจะออกหมายใหม่เรียกทักษิณมาชี้แจงก็ไม่มีผลให้ข้อมูลในการประเมินเปลี่ยนไปได้
ถาม แล้วที่ศาลบอกว่า กระทำการด้วยวัตถุประสงค์ที่ขาดคุณธรรมทางภาษี นั่นหมายความว่าอย่างไรครับ
ตอบ คือคดีนี้ฝ่ายทักษิณเค้าแก้ฎีกาว่า เมื่อในที่สุดแล้วเห็นได้ว่าเขาเป็นคนขายหุ้นให้ เทมาเส็คและขายในตลาด แล้วทำไมไม่ยกเว้นภาษีให้เขาไปเลย ศาลฎีกาก็ตอบว่ายอมรับอย่างนั้นไม่ได้การตั้งบริษัทลึกลับอมหุ้นไว้เงียบเชียบอย่างนี้ มันหนีทั้งกฎหมาย ปปช.กับกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ชัดๆ แล้วระบบกฎหมายไทยโดยรวมยังจะยอมในกฎหมายภาษี ให้เขายกความคดโกงมาหนีภาษีได้อีกอย่างนั้นหรือ ถ้ายอมได้อย่างนี้แล้วคุณธรรมความถูกผิดจะมีที่ยืนอยู่ที่ตรงไหนในกฎหมายภาษีไทย
ถาม นี่เท่ากับศาลด่าส่งท้ายว่า “หน้าด้านจริงๆ” กันเลยนะครับนี่
ตอบ สมควรด่ามากๆ นี่ก็ตะแบงอีกแล้วว่า ยึดทรัพย์เขาไป 4.3 หมื่นล้านแล้ว ยังจะเอาเขาอีก 1.76 หมื่นล้านได้ยังไง ทั้งๆที่มันคนละงาน งานแรกยึดเพราะนายกรัฐมนตรีเอาอำนาจรัฐส่วนรวมไปปรนเปรอธุรกิจของตนจนอ้วนท้วน เกิดมูลค่าเพิ่มที่มิชอบจึงต้องลงโทษยึดเงินจากการขายมูลค่านั้น ส่วนคดีภาษีนี้มันไม่ใช่การลงโทษ ไม่ใช่ความไม่สมควรในตำแหน่งหน้าที่ แต่เป็นเรื่องมีเงินได้แล้วหลบเลี่ยง งานนี้ถ้าต้องบังคับคดีก็จะถูกยึดทรัพย์ได้หมดทุกชิ้นไม่ใช่ยึดเฉพาะเงินได้จากการขายหุ้นเท่านั้น
ถาม ในปี 2568 Forbes รายงานว่าทักษิณมีทรัพย์สินทั้งในไทยและต่างประเทศ รวม 7.25 หมื่นล้านบาท อาจารย์ว่าสรรพากรจะตามยึดทรัพย์ 1.76 หมื่นล้านบาท ขายทอดตลาด ชำระหนี้ภาษีได้สักเท่าใดครับ
ตอบ สรรพากรกับกรมบังคับคดีต้องขุดคุยกันหนัก ถ้ายังเป็นกงสีอยู่ในครอบครัว ก็ต้องตรวจว่าทุกวันนี้เค้าใช้ชื่อลูกเมียถือแทนหรือเปล่า ถ้าทำเป็นขายในครอบครัวแล้วออกตั๋ว PN ให้ถือกันไว้ อย่างนี้เป็นของพ่อแน่นอน ส่วนอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในอังกฤษดูไบ เอมิเรตส์ นั้นเหนื่อยหน่อย ส่วนเครื่องบินเจ๊ตกับบ้านจันทร์ส่องหล้านั้นก็น่าสนใจจริงๆว่ามีชื่อใครมาบังบ้างหรือไม่
ถาม อนาคตข้างหน้า เค้าน่าจะโดนอีกเยอะนะครับ
ตอบ คดีอาญาที่คา ป.ป.ช.ยังมีอีก เฉพาะเรื่องภาษีนั้นจบแล้วคำพิพากษาฉบับนี้สมเหตุผลทางกฎหมายแล้วเป็นจุดจบที่ดี ที่ระบบกฎหมายไทย สามารถฟันฝ่ามาถึงได้
ถาม แล้วทำไมหัวเรื่องบทความวันนี้ ต้องขึ้นมึงขึ้นกูด้วย
ตอบ นักข่าวเคยถามว่าเค้าตรวจสอบพบแล้วว่าท่านโกง ท่านคนนั้นก็ตอบว่า“โกง..พ่อมึงสิ”วันนี้...ผมก็เลยขอจัดคืนบ้างว่า “ไม่มีใครรังแกมึงหรอกวะ! ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดนิยาม ผู้สมัคร อบต. ต้องนับตั้งแต่ ‘เสนอตัว’ ไม่ใช่วันได้สมัครต่อ กกต.
“ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม” ผ่าปมกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น หลังนักการเมือง อบต.ฮือฮาแจกของช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ ระบุชัด สถานะ ผู้สมัคร เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ประกาศตัวลงสนาม ไม่ใช่วันที่ยื่นใบสมัครต่อ กกต. พร้อมเตือ
ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน
พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ


