นายกฯ แจ้งพรรคร่วม รอฟังสัญญาณ 12 ธ.ค.

“อนุทิน” แจ้งพรรคร่วมฯสแตนด์บายรอฟังสัญญาณ12ธ.ค.นี้  จ่อชง ครม.จัดทำประชามติร่างแก้รธน. ก่อนเสนอปธ.สภาเปิดสมัยวิสามัญแก้รัฐธรรมนูญ 10-11ธ.ค.นี้ ตั้ง ”ศุภมาส“ แม่ทัพดูแลเมืองหลวง

23 พ.ย.2568 – ที่พรรคภูมิใจไทย น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคภูมิใจไทย ครั้งที่1/2568 ว่า ที่ประชุมมีการเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาในส่วนตัวแทนประจำจังหวัด และหัวหน้าสาขาพรรค สัดส่วน 11 คน โดย 5 คนมาจากกรรมการบริหารพรรค และอีก 6 คนมาจากการเลือกตั้ง เพื่อเตรียมทำไพรมารีโหวต และเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งต่อไป

โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า จากนั้นเป็นการประชุมพรรคร่วมรัฐบาล โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กำชับในที่ประชุมว่าให้เตรียมตัวในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ จากที่มีข่าวมาหลายๆแง่มุม นายอนุทิน บอกในที่ประชุมว่า ให้เตรียมตัวฟังสัญญาณในวันที่ 12 ธ.ค. ไม่ว่าจะจากตัวนายอนุทินเอง หรือจากสภาฯ ว่าอาจมีอะไรหรือไม่ นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังแจ้งให้ที่ระชุมทราบว่า กรณี MOA กับพรรคประชาชน หนึ่งในข้อตกลงที่ระบุไว้ ว่าจะจัดให้มีการทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอนุทิน จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้ครม.อนุมัติการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และจะขอให้ประธานรัฐสภา เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ในวันที่ 10-11 ธ.ค.นี้

น.ส.แนน บุณย์ธิดา กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เหรัญญิกพรรคภูมิใจไทย เป็นหัวหน้าทีมดูแลว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม.ทุกเขต โดยพรรคภูมิใจไทยได้เปิดแคมเปญรับสมัครผู้ที่มีความจำนง และสนใจทำงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย มาสมัครเป็นว่าที่ผู้สมัครของสส.ของพรรคในพื้นที่ กทม.

ด้านน.ส.ศุภมาส  ในฐานะหัวหน้าทีมดูแลพื้นที่ว่าที่ผู้สมัครสส. กทม. กล่าวในรายละเอียดว่า ขณะนี้ผู้สมัครในภาคของ กรุงเทพมหานครของพรรคภูมิใจไทยเกินอยู่ประมาณ 3 เท่า มีทั้งปัจจุบันที่แสดงความจำนง และมีอดีตสส. ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ทั้งสก. และ สข. และยังมีกลุ่มที่ยังไม่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อน แต่มีความสนใจเรื่องการเมือง เช่นกลุ่มของนักธุรกิจ ข้าราชการ และภาคเอกชน รวมถึงผู้ที่เรียนจบจากต่างประเทศ มีอายุน้อยจนถึงอายุมาก ซึ่งมีความหลากหลายจึงต้องให้คณะกรรมการพรรคภูมิใจไทยซึ่งมีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครชุดใหญ่ต้องช่วยกันตรวจสอบอีกครั้งว่าบุคคลแบบไหนที่จะเข้ามาร่วมอุดมการณ์เดียวกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต้องมีใจรักประชาชน และมีความเสียสละเข้ามา โดยไม่ได้หวังผลสิ่งใดตอบแทนนอกจากทำงานให้กับบ้านเมือง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมีความต้องการที่จะรับสมัครบุคคลเหล่านี้โดยเปิดโอกาสให้ทั้งคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่และต้องการทุกคนที่มีอุดมการณ์ มีใจมาทำงานร่วมกับพรรค ซึ่งพรรคถือว่ามีความหลากหลาย ทั้งคนรุ่นเก่าผู้ใหญ่และมีประสบการณ์ทางการเมืองจำนวนมากและคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิด มีไฟที่จะช่วยทำให้ประเทศชาติเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น

“จึงขอเชิญชวน คนไทยทุกคนที่มีอายุเกิน 25 ปีบริบูรณ์และอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือประวัติที่เคยศึกษาทำงานให้มาสมัครที่พรรคภูมิใจไทยโดยไม่ต้องมีเส้นสายหรือไม่รู้จักใครหรือเป็นลูกผู้ใหญ่ใดใดๆทั้งสิ้นแต่เชิญชวนคนที่มีใจมาร่วมทำงานกับพรรคได้โดยสามารถที่จะเดินเข้ามาสมัครที่พรรค ซึ่งทุกคนในพรรคยินดีต้อนรับทุกคน” น.ส.ศุภมาส กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568

โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ

โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ

ภาพเก่าถูกยกมาปั่น! เกมเบี่ยงศึกสแกมเมอร์หมื่นล้านในยุคอนุทิน

วันที่ภาพเก่าหลายเฟรมของ “เบน สมิธ” ถูกดันกลับขึ้นมาในโซเชียล คือวันเดียวกับที่ ปปง. แถลง ยึด-อายัดทรัพย์ 289 รายการ มูลค่ากว่า 10,165 ล้านบา

'เพื่อนธนาธร' โยงปมภาพหลุด 'อนุทิน-เบน สมิธ' ปล่อยจากเด็กผู้จัดการ 'สนธิ' อยู่ตรงไหนในเกมนี้!

เพื่อนธนาธร ‘ธนาพล อิ๋วสกุล’ วิเคราะห์ทิศทางข้อมูล เมื่อภาพหลุด ‘อนุทิน-เอกนิติ’ ร่วมเฟรม ‘เบน สมิธ’ โผล่ครั้งแรกจากคนของเครือผู้จัดการ ทั้งที่ ‘สนธิ’ เพิ่งปกป้องเบนสมิธหมาด ๆ ก่อนเปิดช้อยให้เลือก, ปรับจุดยืนหลัง ปปง.ยึดทรัพย์, หรืออ่านเกมว่ารัฐบาลไม่ไม่รอด-กลัวตกขบวน-หรืออาจ “ถูกทุกข้อ”