กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย 'สมเด็จพระพันปีหลวง'

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย“สมเด็จพระพันปีหลวง”  พสกนิกรทั่วถิ่นไทยกราบพระบรมศพ ชาวโพธารามน้อมสำนึกน้ำพระทัยแผ่ไพศาล

7 ธ.ค.2568 – เวลา 07.25 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการถวายภัตตาหารเช้า ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมถวายแด่พระพิธีธรรมที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในการนี้ ท่านหญิงศรีสว่างวงศ์ บุญจิตราดุลย์ ร่วมในพิธีด้วย

ต่อมา เวลา 19.00 น. พันเอก ม.จ.นวพรรษ์ ยุคล เสด็จไปในการพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

อนึ่ง  เวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา องคมนตรี เป็นประธานไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการถวายภัตตาหารเพล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมถวายแด่พระพิธีธรรมที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

จากนั้น เวลา 17.00 น. พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา องคมนตรี เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

วันเดียวกัน สำนักพระราชวังรับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.  

สำหรับบรรยากาศของวันที่ 29 ของการเปิดเข้ากราบถวายบังคมฯ มีประชาชนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเดินทางมาถึงจุดคัดกรองพื้นที่สนามหลวงตั้งแต่เช้ามืดต่างพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดสุภาพสีดำไว้ทุกข์เดินทางมาเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเบื้องหน้าพระโกศอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน   

นอกจากนี้ มีคณะบุคคลจากจังหวัดต่าง ๆ อาท จ.ขอนแก่น, จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, นครพนม, ลำพูน, คณะน้องใหม่จุฬาฯ 2512, ข้าราชการบำนาญ อำเภอสังขะ คณะที่ 1 และคณะที่ 2 , สมาคมนักเรียนเก่าต่างประเทศ (ประเทศไทย) เป็นต้น  เดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ และวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

นางกชพร ไกวัลกฤติยากุล อายุ 72 ปี ชาวอำเภอโพธาราม จ.ราชบุรี กล่าวว่า ตนเองและครอบครัวเดินทางมาจาก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี แต่เช้า โดยมาถึงจุดคัดกรองในพื้นที่สนามหลวงเวลา 7.00 น. จากนั้นต่อคิวเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ด้วยความอาลัย เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางเข้ากราบ ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือท้อ แม้ประชาชนจะมาจำนวนมาก จำได้เมื่อครั้งยังเด็กอายุไม่ถึง 10 ขวบ ได้ไปเฝ้าฯ รับเสด็จในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวงที่สถานีรถไฟโพธาราม เมื่อครั้งทรงแปรพระราชฐานไปพระตำหนักไกลกังวล หัวหิน ท่านยื่นพระหัตถ์รับของที่ชาวโพธารามนำมาถวาย ทรงแย้มพระสรวล และทักทายชาวบ้าน เมื่อทราบข่าวพระองค์ท่านจะเสด็จฯ โพธารามครั้งใด ก็ไปเฝ้าฯ รอเสมอ ครั้งสุดท้ายเดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จสมเด็จพระพันปีหลวง เมื่อครั้งในหลวง รัชกาลที่ 9 ประทับรักษาอาการพระประชวร ณ รพ.ศิริราช

“ครั้งนี้ตั้งใจมากราบถวายบังคมพระบรมศพด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทั้งสองพระองค์ทรงมีโครงการพระราชดำริมากมายช่วยพัฒนาจังหวัดราชบุรี น้ำพระทัยแผ่ไพศาล   ทั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต้นแบบ ‘สวนป่าเฉลิมพระเกียรติ’” ที่สวนผึ้ง โครงการฟาร์มตัวอย่างตามแนวพระราชดำริ บ้านบ่อหวี สวนผึ้ง โครงการสหกรณ์โคนมหนองโพในพระบรมราชูปถัมภ์ ทำให้ประชาชนมีอาชีพ อยู่ดีมีสุข และพึ่งพาตัวเองได้ ตนและครอบครัวจะน้อมนำแนวพระราชดำริ คำสอน ของทั้งสองพระองค์มาปรับใช้ จะรักและเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดไป” นางกชพร ระบุ

นายปัณณวิชญ์ จันทร์เปรียง นักเรียนโรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ตนเองเป็นสมาชิกชมรมโขนของโรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม จ.ปทุมธานี เพราะสนใจเรื่องราวความเป็นไทย ทำให้ได้รับทราบพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันปีหลวงในด้านต่างๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะงานด้านอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงงานด้านสิ่งแวดล้อม ประทับใจที่ทรงริเริ่มฟื้นฟูเขาหัวโล้นให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวขจี และยังเป็นการพลิกฟื้นป่าไม้ พร้อมกับพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

“ ในฐานะคนรุ่นใหม่ จะสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่านในด้านต่างๆ ตามความสามารถ เช่น การศึกษาหาความรู้และฝึกฝนตนเองให้มีความเชี่ยวชาญในด้านการแสดงโขนต่อไป สนับสนุนผ้าไทยจากกลุ่มชาวบ้าน จากจังหวัดต่างๆ ปัจจุบันผ้าไทยได้รับการพัฒนาให้มีดีไซน์ทันสมัยมากขึ้น สามารถสวมใส่โอกาสต่างๆ ได้อย่างลงตัว” นายปัณณวิชญ์ กล่าว

ด้านนางสุรีพร ทั่งทอง ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองเคยไปเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระพันปีหลวงเสด็จฯ เยี่ยมราษฎร ที่อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ต่อจากนั้นเสด็จฯ ไปเยี่ยมราษฎรที่จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อหลายสิบปีก่อน สมัยนั้นบ้านเมืองยังไม่เจริญ ถนนหนทางยังเป็นลูกรัง พระองค์ทรงใส่พระทัยดูแลความเป็นอยู่ของพวกเรา หลังจากนั้นไม่นานนักความเจริญก็เข้ามาสู่หมู่บ้าน เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกมากขึ้น วันนี้ตั้งใจเดินทางมากราบพระบรมศพ พร้อมกับตัวแทนประชาชนจากจังหวัดเดียวกัน เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวงอย่างที่สุดมิได้

“ ด้วยทรงเป็นแบบอย่างในเรื่องการเสียสละ จะสืบสานพระราชปณิธานนี้ โดยทำงานเป็นอาสาสมัคร ช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงตามหมู่บ้านต่างๆ ในจังหวัดฉะเชิงเทราที่ทำมาหลายปีต่อไป ถวายเป็นพระราชกุศลตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน” นางสุรีพร กล่าว.