มติ สมช. ตั้งศูนย์จัดการโดรนแห่งชาติ ออก 4 มาตรการป้องกันโดรน เร่งสอบบินว่อนสุวรรณภูมิ

เลขาฯสมช. เผย ตั้งศูนย์จัดการโดรนแห่งชาติ ชี้ จบปัญหาชายแดนต้องเป็นการหารือทวิภาคี ผบ.ตร. เผย อยู่ระหว่างตรวจสอบปมโดรนโผล่ว่อนสุวรรณภูมิ ไม่ยืนยันมี 40 ลำ เตือน พวกคิดป่วน โทษหนักถึงขั้นประหาร-จำคุกตลอดชีวิต  

22 ธ.ค.2568-ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล  นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หารือร่วมกับ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รวมถึง ผบ.เหล่าทัพ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

จากนั้นเวลา 09.35 น. นายอนุทิน เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 17/2568 โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าร่วม รวมถึงยังมีตัวแทนจากกรมท่าอากาศยาน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย

เวลา 11.00น. นายฉัตรชัย แถลงผลการประชุม สมช.ว่า ที่ประชุมได้หารือกรณีพบโดรนที่เข้ามาในพื้นที่จุดสำคัญ ต่างๆ ทั้ง พื้นที่สนามบิน และจังหวัดชายแดน เนื่องจากมีการพบโดรนจำนวนหนึ่งเข้ามาในพื้นที่ กพท.ได้ออกประกาศกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. ในพื้นที่จังหวัดชายแดนและสนามบินสำคัญทั่วประเทศ โดยที่ประชุมมีมติที่สำคัญ 2 ส่วน คือ มาตรการระยะเร่งด่วนและมาตรการระยะยาว

สำหรับมาตรการเร่งด่วน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กพท. สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สนับสนุนการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในการจัดการกับโดรนเป้าหมายที่เข้ามาในพื้นที่ รวมถึงกำหนดมาตรการป้องกันสืบสวนสอบสวนและแอนตี้โดรน เพื่อประสานงานอย่างใกล้ชิดและให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ให้กระทรวงกลาโหมผ่อนคลายมาตรการในการอนุญาตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาแอนตี้โดรนที่เป็นยุทธภัณฑ์ จึงต้องขออนุญาตกองทัพใช้เตรียมการให้มีไว้ป้องกันพื้นที่ ให้มีการเข้มงวดในการนำเข้า และตรวจสอบการลักลอบนำเข้าโดรน และประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าการบินโดรน เข้ามาในพื้นที่ความมั่นคงมีโทษร้ายแรงโดยเฉพาะสนามบิน ที่มีมีโทษสูงสุดคือ การประหารชีวิต หากมีการใช้โดรนและพบว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงถือว่ามีความผิดตามกฎหมายอาญาด้วย

มาตรการระยะยาว ก่อนหน้านี้มติ สมช.เคยมีมติให้กองทัพอากาศ (ทอ.) เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การทำงานเอกภาพโดยการดำเนินการ จัดตั้งเป็นองค์กรขึ้นมา คือ ศูนย์บริหารจัดการควบคุมต่อต้านอากาศยานไม่มีคนขับแห่งชาติ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ทันสมัยในอนาคตรวมถึงการพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมในการใช้เครื่องมือดังกล่าวซึ่งเป็นทักษะขั้นสูง และเห็นชอบทบทวนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเรื่องของการเพิ่มโทษในกรณีที่มีการใช้โดรนที่กระทบต่อความมั่นคง

  เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า สำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนเพื่อพูดถึงปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาวันนี้ที่ประเทศมาเลเซีย เป็นเรื่องที่ดีที่ฝ่ายต่างๆเข้ามาขับเคลื่อน แต่ที่ประชุมได้ยืนยันหลักการตามที่เคยมีมติ สมช.ไปแล้วว่า เป้าหมายปลายทางสุดท้ายต้องเป็นการหารือทวิภาคีไทยกัมพูชา

ถามว่า การจบปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ต้องจบที่การหารือระหว่างไทย-กัมพูชา ใช่หรือไม่ นายฉัตรชัย กล่าวว่า ใช่ครับ

ด้านพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า การปฏิบัติของ ตร. เรื่องโดรนเป็นการปฏิบัติร่วมภายใต้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ของกองทัพอากาศ (ทอ.) ตั้งแต่ที่มีมติ สมช.เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ดังนั้น การปฏิบัติดังกล่าวจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นวงใน วงกลาง และวงนอก ซึ่งวงในเรียกว่าไข่แดง เป็น ทอ.และท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ดูแล ส่วนวงกลางเรียกว่าไข่ขาว ตร.ดูแล และวงนอก กองทัพบก (ทบ.) ดูแล

ทั้งนี้ ตร.ได้กำหนดมาตรการและแผนปฏิบัติหรือยุทธศาสตร์เรื่องการป้องกัน ปราบปราม สืบสวนสอบสวน และการยกระดับความมั่นคงที่เกี่ยวกับระยะสั้นและระยะยาวไว้เป็นที่เรียบร้อย การดำเนินการและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เรามีรูปแบบทั้งของนครบาลและนครราชสีมา ที่ดูแลสนามบินมาเป็นต้นแบบ ซึ่งได้ออกแบบแผนเผชิญเหตุไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับวงนอกพื้นที่เป็นหน้าที่ ทบ. ซึ่งมีผลปฏิบัติอย่างชัดเจนและต่อเนื่องมา

ส่วนการบูรณาการและการแนะนำ เรามีการปฏิบัติอยู่แล้ว โดยเห็นว่าการใช้ความร่วมมือของกพท. กสทช. ทอท. ตร. และกองทัพ ถือเป็นเรื่องสำคัญด้านการข่าวที่เราต้องนำมาประเมินและวิเคราะห์วางแผนปฏิบัติให้เป็นระบบและเกิดความสำเร็จต่อไป ส่วนด้านกฎหมาย ความผิดที่เกิดขึ้นผู้ที่มีการใช้โดรนในพื้นที่ห้ามบินหรือสนามบินเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 อันนี้มีโทษประหารชีวิต แต่หากสอบสวนแล้วพบว่าผิดต่อความมั่นคงจะผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา ในเรื่องความมั่นคงหมวด 2 และ 3 ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต

“สิ่งเหล่านี้อยากบอกกับผู้ที่มีความคิดอาจจะป่วน ทำเรื่องกระทำผิดให้รู้โทษ ซึ่งตำรวจได้มีการกำหนดเป้าหมายที่จะทดสอบมาตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.เป็นต้นมา มีการตั้งจุดตรวจให้รู้ว่าเราจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อความไม่สงบของประชาชนอย่างเด็ดขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับแจ้งมาตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. อยู่ระหว่างการดำเนินการด้วยการใช้ขีดความสามารถที่เรามีในการดำเนินการอยู่ในเวลานี้”ผ

ถามว่า ทราบหรือไม่โดรนที่ปรากฏที่สุวรรณภูมิ ต้นตอมาจากไหน ผบ.ตร. กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบจำนวน เมื่อถามว่า โดรนที่บอกว่า 40 ลำเป็นไปตามรายงานจริงหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นข้อมูลข่าวสารที่แจ้งเข้ามา ซึ่งการแจ้งอยู่ในแผนเผชิญเหตุ นับจากเวลาที่แจ้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปสุวรรณภูมิบ้างแล้ว ซึ่งอยู่พื้นที่โดยรอบของสุวรรณภูมิ เข้าไปร่วมปฏิบัติการกับผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรรมการผู้จัดใหญ่ได้มีการรับข้อมูล นับจากเวลารับข้อมูลจนถึงการปฏิบัติการเรายังไม่พบ เราได้รับข้อมูลเท่านั้น เป็นการรับข้อมูลมาเพื่อพิสูจน์ทราบและตรวจสอบ โดยกระบวนการและเครื่องมือที่เรามีอยู่ตามขีดความสามารถ

ถามย้ำว่า จะหาที่มาของโดรนได้ยากหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ตั้งสมมุติฐานก่อนว่าเราได้รับแจ้งจำนวนกี่ลำ อยากใช้คำว่าเรารับแจ้ง แล้วเรื่องการป่วนหรือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงต้องใช้วิชาการสอบสวน เพราะบริเวณในท่าอากาศสุวรรณภูมิยังไม่มีกล้องหรือระบบที่เราสืบสวนและสอบสวนได้ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีสืบสวนของเรา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ ตั้งโจทย์และธงไว้ว่าถ้าเป็นจริงจะต้องหาที่มา ที่ขึ้นบินของโดรน ใครเป็นผู้บังคับ ควบคุม หรือเจ้าของ และปลายทางไปไหน แต่เราต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าข้อมูลเหล่านี้เกิดขึ้นจริงและมีจริง ขณะนี้ตั้งข้อสมมุติไว้ร้ายแรงที่สุดแล้วนำไปสืบสวนตรวจสอบให้ได้

เมื่อถามว่า หากโดรนมี 40 ลำตามที่มีการรายงาน จะถือว่าเป็นการก่อวินาศกรรมได้หรือไม่ เพราะพลเรือนไม่สามารถครอบครองได้ขนาดนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เป็นข้อมูลที่เราต้องเอามาดูร่วมกันกับฝ่ายความมั่นคง ตนต้องนำข้อมูลเหล่านี้รายงานทางศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศ( ศปก.ทอ.) ส่วนจะเข้าข่ายก่อวินาศกรรมหรือไม่ จากข้อมูลที่เราแจ้งจากการบิน ถ้าข้อมูลนั้นเป็นความจริงคือ เป็นการบินในระดับผ่านไป ต้องไปดูพฤติกรรมและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าจะถึงขั้นเป็นการก่อวินาศกรรมหรือไม่

“ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งเหล่าทัพและตร. รวมถึง กพท. เราต้องตั้งสมมุติฐานขั้นร้ายแรงที่สุด และกำหนดแผนมาตรการป้องกันไว้ อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นก่อเหตุหรืออะไรที่ไม่พึงประสงค์ และเกิดอันตรายต่ออากาศยานหรือพี่น้องประชาชน เราก็ต้องมีแผนปฏิบัติที่จะรองรับอย่างชัดเจนและเข้มข้นต่อไป”

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประชาชนอาจเห็นเป็นโดรน แต่หลายครั้งพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นแสงจากอากาศยาน (เครื่องบิน) ซึ่งสามารถใช้แอปพลิเคชั่น Flightradar ในการตรวจสอบเบื้องต้น แต่ถ้าพบเห็นโดรนในพื้นใดขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อใช้เป็นข้อมูลจุดปล่อยโดรนได้ นอกจากนี้ ตร.ได้กำหนดแผนปฎิบัติเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน จากการใช้อากาศยานไร้คนขับในการก่อเหตุหรือกระทำการไม่พึงประสงค์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว อีกทั้งขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงความไม่สงบในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝ่ายความมั่นคงขอยืนยันว่าจะให้การดูแลอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ใครปั่นป่วนสถานการณ์ได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เรียกถก 'ผบ.เหล่าทัพ' ตึกไทยฯ ก่อนนั่งหัวโต๊ะประชุม สมช.

นายกฯได้หารือนอกรอบกับ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเลขาธิการสมช. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนเป็นประธานการประชุม สมช.

ตร.คุมเข้มรอบ 'สุวรรณภูมิ' ผวาโดรนปริศนาใกล้สนามบิน

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว พร้อมด้วยรองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนสุวรรณภูมิสาย 3

นายกฯ เยี่ยมนาวิกโยธินเหยียบกับระเบิด ฝาก 'นานาชาติ' อย่าเอาแต่บอกไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร

นายกฯเยี่ยมนาวิกโยธิน เหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บ ฝากถึงนานาชาติ อย่าเอาแต่บอกให้ไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร ลั่นเลิกเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหม เดินหน้าสถาปนาอธิปไตยเหนือชายแดนโดยเร็วที่สุด

'อนุทิน' ลั่นไม่ปล่อยกำลังพลเจ็บ-ตายฟรี ยันทหารมียุทธวิธีตอบโต้ หลังนาวิกโยธินเหยียบกับระเบิดรายที่ 8

‘อนุทิน’ ลั่น ไม่มีทางปล่อยกำลังพล เจ็บ - ตายฟรี ยัน ทหารมียุทธวิธีในการดำเนินการตอบโต้ หลังกำลังพลนาวิกโยธิน เหยียบกับระเบิดเป็นรายที่ 8 ชี้ สิ่งที่กัมพูชาพยายามแสดงให้ชาวโลกเห็นเป็นเพียงการโกหก

นายกฯ เยี่ยมศูนย์อพยพ จ.สุรินทร์ นั่งระบายสี 'รถฮัมวี่ติดปืนกล' ร่วมกับเด็ก ลั่นรบ.จะดูแลเต็มที่

นายกฯ เยี่ยมศูนย์อพยพที่สุรินทร์ นั่งระบายสี ‘รถฮัมวี่ติดปืนกล’ ร่วมกับเด็กๆ เดินทักทาย-ให้กำลังใจชาวบ้าน-จนท. พร้อมขอให้อยู่ที่ศูนย์ไปก่อน รัฐบาลจะดูแลเต็มที่ ก่อนไปเยี่ยมทหารเหยียบระเบิดที่จันทบุรีต่อ