
16 ธ.ค. 2565 – รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 395,995 คน ตายเพิ่ม 917 คน รวมแล้วติดไป 655,934,350 คน เสียชีวิตรวม 6,665,797 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และฮ่องกง เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 90.64 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 72.62
…อัปเดตจาก WHO
องค์การอนามัยโลกเผยแพร่ข้อมูลรายสัปดาห์ WHO Weekly Epidemiological Update ประจำวันที่ 14 ธันวาคม 2565
ปัจจุบันสายพันธุ์ Omicron ครองสัดส่วนสูงถึง 99.5%
Omicron นั้นมีการแตกหน่อ มีลูกหลานไปมากถึงกว่า 540 สายพันธุ์ย่อย ทั้งนี้เป็นไวรัสลูกผสมที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ย่อยกัน หรือที่เรียกว่า recombinant กว่า 61 สายพันธุ์ย่อย
ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของไวรัสที่สังเกตเห็นกันในช่วงนี้นั้นคือ มีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งที่พบบ่อยหรือพบซ้ำต่อเนื่องในหลายสายพันธุ์ย่อย ทำให้สะท้อนว่า ไวรัสตัวใหม่ๆ มีแนวโน้มที่จะมีวิวัฒนาการไปในทิศทางคล้ายกัน (Convergent evolution)
ที่สำคัญคือ ตำแหน่งการกลายพันธุ์เหล่านั้นดูจะสัมพันธ์กับสมรรถนะของไวรัสที่พัฒนาเพื่อให้ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากขึ้น (immune evasiveness)
WHO ระบุว่ามี 5 สายพันธุ์ย่อยที่อยู่ในการติดตามอย่างใกล้ชิดในปัจจุบัน
BA.2.75.x เริ่มมีรายงานตั้งแต่ช่วงธันวาคม 2564 และระบาดในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนถึงปัจจุบันมีการแพร่กระจายไปทั่วโลกถึง 85 ประเทศ แต่เดิมระบาดมากในอินเดีย และบังคลาเทศ ต่อมาถูกแทนที่ด้วย XBB ขณะนี้ประเทศที่พบว่ามีความชุกของสายพันธุ์ย่อยนี้สูงสุดได้แก่ ประเทศไทย (53.8%), ออสเตรเลีย (25.1%), มาเลเซีย (22.5%), จีน (18.8%), และนิวซีแลนด์ (16.3%)
BA.5 ครองการระบาดทั่วโลกมายาวนาน เพราะมีสมรรถนะการติดเชื้อเร็ว และดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่าสายพันธุ์เดิมอย่าง BA.1 และ BA.2 โดยตรวจพบแล้วใน 119 ประเทศ
BQ.1.x จัดเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีอัตราการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุด ขณะนี้กระจายไปแล้ว 90 ประเทศ
XBB.x เป็นลูกผสมระหว่าง BA.2.10.1 กับ BA.2.75 โดยมีการรายงานครั้งแรกเมื่อสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ปัจจุบันระบาดกระจายไป 70 ประเทศทั่วโลก แต่ความชุกยังไม่มากนักราว 3.8% ประเทศที่พบมากได้แก่ อินเดีย (62.5%), โดมินิกัน (48.2%), สิงคโปร์ (47.3%), มาเลเซีย (40.9%), และอินโดนีเซีย (29.3%)
และ BA.2.30.2 มีตำแหน่งการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งที่คล้ายคลึงกับสายพันธุ์ย่อยต่างๆ ข้างต้น ยังมีรายงานการระบาดไม่มากนัก แต่พบได้ในแทบทุกทวีป
…ในภาพรวมแล้ว พบว่าสายพันธุ์ BA.2.75.x และ XBB ขยายตัวอย่างช้าๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกตะวันตก
ในขณะที่ BQ.1.x และ BA.5 ซึ่งมีการกลายพันธุ์เพิ่มจากเดิม 5 ตำแหน่ง มีการระบาดขยายตัวขึ้นค่อนข้างเร็วกว่า และกระจายไปทั่วโลก
…การระบาดของไทยเรายังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ระมัดระวังตัวเสมอเวลาออกไปใช้ชีวิตประจำวัน จำเป็นต้องไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อลดเสี่ยงป่วยรุนแรง เสียชีวิต และ Long COVID
หากไม่สบาย ไอ เจ็บคอ ไข้ คัดจมูก ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ควรตรวจ ATK
ถ้าผลบวก แปลว่าติดเชื้อ ควรแยกตัวจากผู้อื่นอย่างน้อย 7-10 วันจนกว่าอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ และตรวจซ้ำได้ผลลบ จึงออกมาใช้ชีวิตป้องกันตัวเคร่งครัดจนครบสองสัปดาห์
หากป่วย แต่ตรวจได้ผลลบ อย่าเพิ่งวางใจ อาจเป็นผลลบปลอมได้ จึงควรตรวจซ้ำทุกวันอย่างน้อย 3 วันติดกัน
ย้ำอีกครั้งว่า สภาพแวดล้อมในสังคมปัจจุบันมีการติดเชื้อแพร่เชื้อจำนวนมาก มีความเสี่ยงมาก จำเป็นต้องป้องกันตัวให้ดี
ไม่ติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อซ้ำ ย่อมดีที่สุด เพราะติดแล้วไม่ใช่แค่ชิลๆ แล้วหาย แต่ป่วยหนักได้ ตายได้ และเสี่ยงต่อ Long COVID ระยะยาวที่บั่นทอนคุณภาพชีวิต สมรรถนะการใช้ชีวิต
การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อาจารย์หมอจุฬาฯ ย้ำ Long COVID เป็นเรื่องจริง!
หมอธีระอัพเดตข้อมูลโควิด เผยทั่วโลกฉีดวัคซีนแล้ว 13,200 ล้านโดส ชี้ลอง โควิดเป็นเรื่องจริง ผลวิจัยตอกย้ำยังไม่มีวิธีรักษามาตรฐาน การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อดีที่สุด
'นพ.ธีระ' ยกปาฐกถา 'หมอใหญ่ทำเนียบขาว' เตือนคนไทยโควิด19ยังไม่จบจริง!
'หมอธีระ' เผย WHO ได้สรุปผลเรื่องการฉีดวัคซีนบอกควรฉีดเข็มกระตุ้น 6-12 เดือนหลังรับเข็มสุดท้าย ยก 10 บทเรียนหมอใหญ่แห่งทำเนียบขาวเตือนคนไทย ชี้โควิด19 ยังไม่จบจริง
ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 150 ราย ดับ 6 คน
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 19 – 25 มี.ค. 2566 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 150 ราย
'หมอยง' ชี้ ATK ไม่จำเป็นต้องตรวจในคนปกติ
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
หมอชี้แม่รับวัคซีนโควิด-19 ครบเข็มกระตุ้น ช่วยลดความเสี่ยงทารกป่วย
แม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 จนครบเข็มกระตุ้น จะช่วยลดความเสี่ยงที่ทารกจะป่วยเป็นโควิดจนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลในช่วง 4 เดือนแรกหลังคลอดได้ 53%