ผลวิจัยชี้ชัด! กลางคืนแสงจ้า กลางวันสลัว สุขภาพแย่

18 ส.ค. 2568 – ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ประธานศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กลางคืนแสงจ้า กลางวันสลัว สุขภาพแย่

การศึกษาจาก UK Biobank ผู้ใหญ่ 88,905 คน อายุเฉลี่ย ~62 ปี ติดตามข้อมูลแสงจากเซนเซอร์ในข้อมือและติดตามอัตราการเสียชีวิตโดยเฉลี่ย 8 ปี

แสงในเวลากลางวันมาก (ระดับสูงกว่าคนทั่วไป): ความเสี่ยงการเสียชีวิต (โดยรวมและเจ็บป่วยทางเมตาบอลิค เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน) ลดลงประมาณ 16–34%

แสงในเวลากลางคืนสว่างมาก: ความเสี่ยงการเสียชีวิตทั้งสิ้นเพิ่มขึ้น 15–34%, โดยเฉพาะจากโรคเมตาบอลิค

การวิเคราะห์ด้วยโมเดลนาฬิกาชีวิต ความเข้มและจังหวะแสงที่ไม่สมดุล จะทำให้ circadian rhythm บิดเบี้ยว (amplitude ต่ำ หรือ phase ผิดเวลา) ซึ่งสัมพันธ์กับความเสี่ยงการตายที่สูงกว่า

แม้ปรับปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ เพศ เชื้อชาติ ไลฟ์สไตล์แล้ว ผลก็ยังคงชัดเจน

กลางวันควรได้รับแสงมากพอช่วยเสริมจังหวะ circadian และลดความเสี่ยงเจ็บเจ็บป่วย

กลางคืนควรให้มืดที่สุดเพื่อลดการรบกวน circadian และลดความเสี่ยงตายโดยเฉพาะจากโรคเมตาบอลิซึม

แสงคือปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยเสริมหรือลดจังหวะชีวิตตามนาฬิกาชีวิต (circadian rhythm

ไฟกลางคืนแรงๆ มีความเสี่ยง ต่อสุขภาพระยะยาว

ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่าไฟสลัวทำงานกลางคืน จะส่งผลน้อยกว่า แต่ควรปรับพฤติกรรมเสริม เช่น เปิดรับแดดกลางวัน

สุขภาพอาจดีขึ้นได้ด้วยการดูแลเวลาแสงให้สมดุลในแต่ละวัน

สำหรับคนทำงานกลางคืนจริงๆ ไฟกลางคืนจางๆ ที่อาจช่วยลดผลเสียได้ อาจเป็นไปได้โดยการใช้ไฟไม่สว่าง warm-tone, red/yellow ปิดเมื่อไม่จำเป็น

ให้แสงสว่างมากในเวลากลางวันเพื่อเสริม circadian กลางวันเปิดรับแสงธรรมชาติให้มากที่สุด เช่นอยู่ใกล้หน้าต่าง หรือออกแดด

การนอนใช้ผ้าม่านกันแสงและห้องมืดเมื่อพักผ่อน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขับเคลื่อน...ข้อมูลสุขภาพ กุญแจหยุดโรคเรื้อรังของสังคมไทย

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตยุคดิจิทัล โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ได้ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาเป็นภัยเงียบของคนไทยอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่โรคเบาหวาน

ผลวิจัยชี้ 'ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่' มีผลเล็กน้อย หรือไม่มีเลย

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ประธานศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้คความผ่านเฟซบุ๊กว่า ยาต้านไข้หวัดใหญ่เกือบทั้งหมดมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย