ผงะ!‘ร.ต.อ.’เครียดติดโควิดผูกคอเสียชีวิตคาห้องน้ำ รพ.ตำรวจ


เพิ่มเพื่อน    

 21 เม.ย.64 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. ร่วมกับ พล.ต.ท.พรชัย สุธีรคุณ นายแพทย์ (สบ.8) รพ.ตำรวจ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผผบก.น.6 และ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน ร่วมกันแถลงชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของ ร.ต.อ.บุญชู พรรณกลิ่น รอง สวป.บก.รฟ. ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ฆ่าตัวตายด้วยการใช้เข็มขัดผูกคอเสียชีวิตภายในห้องน้ำ ขณะรักษาตัวที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ตำรวจ เหตุเกิดวันที่ 20 เม.ย.เวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.พรชัยเปิดเผยว่าก่อนที่ ร.ต.อ.บุญชู จะมารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ได้ไปตรวจที่ รพ.พระมงกุฎวัฒนะ พบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงได้ประสานมาที่ รพ.ตำรวจเพื่อรับมามาดูแล ช่วงแรกที่มาถึง รพ.ตำรวจ วันที่ 18 เม.ย.ผู้ป่วยยังไม่มีอาการจึงให้พัก รพ.สนาม ของ รพ.ตำรวจ อยู่ได้ประมาณวันเศษมีอาการหายใจติดขัดจึงได้ย้ายผู้ป่วยเข้ารักษาที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิดอาการยังไม่เข้าขั้นวิกฤติ และทราบว่าผู้ป่วยมีประวัติการักษาโรคเบาหวานอยู่และความดันโลหิต วันที่เกิดเหตุผู้ป่วยได้ไปเข้าห้องน้ำแล้วหายไปพยาบาลสงสัยหายตัวไปนานจึงตามไปดูก็พบว่าผู้ป่วยหยุดหายใจแล้วจึงพยายามให้ทีมแพทย์ทำการกูชีพแต่สุดท้ายไม่สามารถช่วยเหลือชีวิตได้

ด้าน พล.ต.ต.เมธีเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งจากททาง รพ.ตำรวจว่า มีผู้เสียชีวิตจึงได้แจ้งให้ สน.ปทุมวัน ร่วมกับแพทย์เข้าทำการชันสูตร การเข้าชันสูตรเจ้าหน้าที่มีการสวมชุดป้องกันเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐานที่สาธารณะสุขได้กำหนด เราได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายครบถ้วน  

ส่วน พ.ต.อ.พันษากล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากได้รับแจ้ง พนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์ เบื้องต้นที่คุยกับแพทย์สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการขาดอาหกาศหายใจไม่ได้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด -19 จึงได้ดำเนินการขั้นตอนและส่งศพไปยังนิติเวช รพ.ตำรวจ ส่วนมูลเหตุจูงใจจากการสอบสวนพบว่าผู้เสียชีวิตมีความเครียดจากการที่จะทำให้แม่ ภรรยา ลูกมีความเสี่ยงการติดเชื้อ โดยทั้งแม่ ภรรยาและลูกได้เข้าตรวที่ รพ.พระมงกุฎวัฒนะ เช่นเดียวกันต่ตัวผู้ตายยังไม่ทราบผล และตัวเขาเองมีปัญหาสุขภาพที่รักษา รพ.รามา คือ เบาหวานและความดันโลหิต

จากการสอบสวนไม่กล้าโทรศัพท์ไปคุยกับแม่และภรรยาเพราะรักและห่วงรู้สึกละอายใจ แต่ได้โทรศัพท์ไปหาน้องบ่นว่า ทำไมต้องมีโรคนี้ด้วย สอดคล้องกับที่พูดคุยกับเพื่อนตำรวจที่รักษาอยู่ รพ.ตำรวจเช่นเดียวกันว่าฝากแม่และครอบครัวด้วย พูดแบบทีเล่นทีจริง กระทั่งถึงวันเกิดเหตุได้เข้าห้องน้ำตั้งแต่เวลา 15.00 น.จนถึงเวลา 16.00 มีโทรศัพท์ดังขึ้นหลายครั้งไม่มีคนรับ เพื่อนที่เป็นผู้ป่วยข้างเคียงได้เรียกหลายครั้งไม่มีการตอบรับจึงไปตามแพทย์และพยาบาลตรวจสอบก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว และจากการสอบสวนยาติไม่ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการสอบสวนต้องดำเนินการต่อไป

พล.ต.ท.พรชัย กล่าวถึงมาตรฐานการรักษาผู้ป่วยทั้งที่ รพ.สนามและอาคาร รพ.ตำรวจ ว่า รพ.ตำรวจได้มีการยกระดับดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นอย่างดี มีการเตรียมการสำหรับห้องผู้ป่วยปกติเราแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการให้ผู้ป่วยรักษาที่ รพ.สนามก่อน ถ้าผู้ป่วยมีอาการมากขึ้นจึงจะย้ายไปยังหอผู้ป่วยเพื่อดูแลใกล้ชิดมากขึ้น เรามีเครื่องมือพร้อม แต่เตียงผู้ป่วยมีจำกัดเราไม่สามารถรับได้ทั้งหมด แต่ว่าเรามีปริมาณที่รับและดูแลได้ทุกรายมีมาตรฐานในการักษาดูแลเป็นอย่างดี

จากปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนและข้าราชการตำรวจมีความเครียด รพ.ตำรวจมีกลุ่มงานจิตเวชดูแลอยู่ ถ้ามีความเครียดหรือซึมเศร้าสามารถโทรมาได้ตลอดเวลา แต่ตำรวจที่เสียชีวิตเราไม่ทราบว่ามีความเครียดเพราะพึ่งเข้ามารักษาตัวที่ รพ.ได้แค่ 2-3 วัน โดยช่วงแรกแพทย์ระมัดระวังคืออาการเจ็บป่วย จึงไม่ทันระวังเรื่องความเครียด อย่างไรก็ตามเราได้มีการเพิ่มมาตรการในการประเมิณความเครียดของผู้ป่วยมากขึ้น ที่จริงแล้วเรื่องความเครียดได้ดำเนินการมาตั้งแต่ระยะแรก แต่เนื่องจากช่วงหลังมีผู้ป่วยเข้ามาจำนวนมากเร็วกว่าที่เราคาดคิดไว้ จึงไม่สามารกรองทุกอย่างได้อย่างครบถ้วน และในปัจจุบันสังคมมีการเสพข่าวทางโซเชี่ยลมากในเชิงลบอาจจะกระทบต่อจิตใจเรื่องนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ขอให้สื่อมวลชนเสนอข่าวในแง่บวกบ้างเพื่อส่งเสริมให้คนมั่นใจในระบบการดูแลที่ดี ส่งเสริมให้ทุกคนดูแลตัวเองจะดีมากกว่า แต่ถ้าเครียดมาก รพ.ตำรวจก็พร้อมให้คำปรึกษา หมายเลขโทรศัพท์ 0819320000

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวเสริมว่า ยืนยันว่าการชันสูตรของตำรวจพื้นที่และพยานแวดล้อม ผู้เสียชีวิตไม่ได้เสียชีวิตเพราะ โควิด แต่เสียชีวิตเพราะการทำให้ตัวเองเสียชีวิตเพราะความเครียดส่วนตัว ตำรวจ สน.ท้องที่ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชันสูตรตามระเบียบทุกประการ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มีความเป็นห่วงกำลังพลและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัสโควิด จึงได้สั่งการไปยังแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ระดมสรรกำลังอุปกรณ์และบุคคลากรทางการแพทย์ให้มาช่วยดูแลประชาชนข้าราชการตำรวจไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปมากกว่านี้ อีกอย่างที่ ผบ.ตร.มีข้อห่วงใย การป้องกันตัวของตำรวจที่ออกพบปะปฏิบัติหน้าที่กับประชาชน และสถานที่ราชการกำชับต้องดูแลตัวเองตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค เพื่อไม่ให้ตำรวจรับเชื้อเข้ามาและไม่หตำรวจแพร่เชื้อสู่ประชาชน พร้อมกันนี้ ผบ.ตร.ได้กำชับตำรวจไม่ให้เข้าไปอยู่ในแหล่งที่อาจมีความเสี่ยงเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคเพื่อเซฟกำลังพลให้ตำรวจสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ขณะนี้ตัวเลขเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สรุปตัวเลขวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา 412 คน ทั้งรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ และตาม รพ.ต่างๆตามภูมิภาค

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียนไปแล้วได้รับการดูเรื่องวัคซีนทั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นกลุ่มเสี่ยงยังไม่ได้รับการฉีดวัคซียน  พล.ต.ท.พรชัย ตอบว่า รพ.ตำรวจ ดำเนินการตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขตามปกติ ถ้าเป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง อายุเกิน 60 มีโรคแทรกซ็อน เบาหวาน ความดัน เราดูแลฉีดวัคซีนให้ตามปกติ ตำรวจเกษียนก็เป็นประชาชนคนหนึ่งและเป็นคนไข้ของ รพ.ตำรวจ ถ้ามีความเสี่ยงก็ต้องฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ขณะนี้การรักษาผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 มีเข้ามามากเกินกว่าที่กำหนดไว้ เราได้เพิ่มเตียงจากห้องที่มี 1 เตียงต้องเพิ่มเป็น2 หรือ 3 เตียง เพื่อรองรับให้ได้มากที่สุด ถ้าถามว่าเต็มหรือยังต้องบอกว่าเกือบเต็มแล้ว เราพยายามรักษาให้เต็มที่เคลีบร์เตียงให้เร็วเพื่อรองรับคนอื่นให้ได้มากขึ้น ส่วนตัวเลขความเสี่ยงของพยาบาล แพทย์ติดไวรัสโควิดมีนิดหน่อย แต่ไม่อยากให้ไปโฟกัสเรื่องนี้ เพราะเดียวไปกระทบเรื่องอื่น ตอนนี้เราเน้นดูแลทั้งหมด ทั้งผูป่วยและบุคลากรของเราเอง รพ.ตำรวจดูแลตัวเองอย่างเต็มที่
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"