ตร.เครียดผูกคอ ทำแม่-เมียเสี่ยง


เพิ่มเพื่อน    

 

ตร.แจง “ร.ต.อ.” ติดโควิดผูกคอเสียชีวิตคาห้องน้ำ รพ.ตำรวจ คาดเครียดหนักเหตุทำให้แม่-เมีย-ลูกเสี่ยงติดเชื้อ แถมเจ้าตัวมีโรคประจำตัวรุมเร้า สธ.ชี้เกิดความกดดันทางจิตใจ แนะวิธีคลายเครียด ปรึกษาสายด่วน 1323

    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อวันที่ 21 เมษายน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. ร่วมกับ พล.ต.ท.พรชัย สุธีรคุณ นายแพทย์ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ, พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) และ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน ร่วมกันแถลงชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของ ร.ต.อ.บุญชู พรรณกลิ่น อายุ 59 ปี รองสารวัตรป้องกันปราบปราม กองบังคับการตำรวจรถไฟ (รอง สว.ป.บก.รฟ.) ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ฆ่าตัวตายด้วยการใช้เข็มขัดผูกคอเสียชีวิตภายในห้องน้ำ ขณะรักษาตัวที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ตำรวจ เหตุเกิดวันที่ 20 เม.ย. เวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา
    พล.ต.ท.พรชัยเปิดเผยว่า ก่อนที่ ร.ต.อ.บุญชูจะมารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ได้ไปตรวจที่ รพ.พระมงกุฎวัฒนะ พบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงได้ประสานมาที่ รพ.ตำรวจเพื่อรับมาดูแล ช่วงแรกที่มาถึง รพ.ตำรวจ วันที่ 18 เม.ย. ผู้ป่วยยังไม่มีอาการ จึงให้พักโรงพยาบาลสนามของ รพ.ตำรวจ อยู่ได้ประมาณวันเศษมีอาการหายใจติดขัด จึงได้ย้ายผู้ป่วยเข้ารักษาที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด อาการยังไม่เข้าขั้นวิกฤติ และทราบว่าผู้ป่วยมีประวัติการรักษาโรคเบาหวานและความดันโลหิตอยู่ วันที่เกิดเหตุผู้ป่วยได้ไปเข้าห้องน้ำแล้วหายไป พยาบาลสงสัยหายตัวไปนานจึงตามไปดู พบว่าผู้ป่วยหยุดหายใจแล้ว จึงพยายามให้ทีมแพทย์ทำการกูชีพ แต่สุดท้ายไม่สามารถช่วยเหลือชีวิตได้
    ด้าน พล.ต.ต.เมธีกล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจาก รพ.ตำรวจว่า มีผู้เสียชีวิต จึงได้แจ้งให้ สน.ปทุมวันร่วมกับแพทย์เข้าทำการชันสูตร การเข้าชันสูตรเจ้าหน้าที่มีการสวมชุดป้องกันเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐานที่สาธารณสุขได้กำหนด โดยได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายครบถ้วน  
    พ.ต.อ.พันษากล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากได้รับแจ้ง พนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์ เบื้องต้นที่คุยกับแพทย์สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ไม่ได้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 จึงได้ดำเนินการขั้นตอนและส่งศพไปยังนิติเวช รพ.ตำรวจ ส่วนมูลเหตุจูงใจจากการสอบสวนพบว่าผู้เสียชีวิตมีความเครียดจากการที่จะทำให้แม่ ภรรยา ลูก มีความเสี่ยงการติดเชื้อ โดยทั้งแม่ ภรรยา ได้เข้าตรวจหาเชื้อที่ รพ.พระมงกุฎวัฒนะ และอยู่ระหว่างการกักตัว ซึ่งผู้ตายยังไม่ทราบผลว่าแม่และภรรยาติดเชื้อหรือไม่ รวมทั้งผู้ตายเองมีปัญหาสุขภาพที่รักษา รพ.รามาธิบดี คือเบาหวานและความดันโลหิต
    "จากการสอบสวนไม่กล้าโทรศัพท์ไปคุยกับแม่และภรรยาเพราะรักและห่วง รู้สึกละอายใจ แต่ได้โทรศัพท์ไปหาน้องบ่นว่า ทำไมต้องมีโรคนี้ด้วย สอดคล้องกับที่พูดคุยกับเพื่อนตำรวจที่รักษาอยู่ รพ.ตำรวจเช่นเดียวกันว่าฝากแม่และครอบครัวด้วย พูดแบบทีเล่นทีจริง กระทั่งถึงวันเกิดเหตุได้เข้าห้องน้ำตั้งแต่เวลา 15.00 น. จนถึงเวลา 16.00 น. มีโทรศัพท์ดังขึ้นหลายครั้งไม่มีคนรับ เพื่อนที่เป็นผู้ป่วยข้างเคียงได้เรียกหลายครั้งไม่มีการตอบรับ จึงไปตามแพทย์และพยาบาลตรวจสอบ ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว และจากการสอบสวนญาติไม่ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม กระบวนการสอบสวนต้องดำเนินการต่อไป" ผกก.สน.ปทุมวัน ระบุ
    พล.ต.ท.พรชัยกล่าวถึงมาตรฐานการรักษาผู้ป่วยทั้งที่ รพ.สนามและอาคาร รพ.ตำรวจ ว่า รพ.ตำรวจได้มีการยกระดับดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นอย่างดี มีการเตรียมการสำหรับห้องผู้ป่วยปกติเราแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการให้ผู้ป่วยรักษาที่ รพ.สนามก่อน ถ้าผู้ป่วยมีอาการมากขึ้นจึงจะย้ายไปยังหอผู้ป่วยเพื่อดูแลใกล้ชิดมากขึ้น เรามีเครื่องมือพร้อม แต่เตียงผู้ป่วยมีจำกัดไม่สามารถรับได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เรามีปริมาณที่รับและดูแลได้ทุกราย มีมาตรฐานในการรักษาดูแลเป็นอย่างดี
    จากปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนและข้าราชการตำรวจมีความเครียด รพ.ตำรวจมีกลุ่มงานจิตเวชดูแลอยู่ ถ้ามีความเครียดหรือซึมเศร้า สามารถโทร.มาได้ตลอดเวลา แต่ตำรวจที่เสียชีวิตเราไม่ทราบว่ามีความเครียด เพราะเพิ่งเข้ามารักษาตัวที่ รพ.ได้แค่ 2-3 วัน โดยช่วงแรกแพทย์ระมัดระวังคืออาการเจ็บป่วย จึงไม่ทันระวังเรื่องความเครียด อย่างไรก็ตาม เราได้มีการเพิ่มมาตรการในการประเมินความเครียดของผู้ป่วยมากขึ้น ที่จริงแล้วเรื่องความเครียดได้ดำเนินการมาตั้งแต่ระยะแรก แต่เนื่องจากช่วงหลังมีผู้ป่วยเข้ามาจำนวนมากเร็วกว่าที่เราคาดคิดไว้ จึงไม่สามารถกรองทุกอย่างได้อย่างครบถ้วน และในปัจจุบันสังคมมีการเสพข่าวทางโซเชียลมากในเชิงลบ อาจจะกระทบต่อจิตใจเรื่องนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ขอให้สื่อมวลชนเสนอข่าวในแง่บวกบ้าง เพื่อส่งเสริมให้คนมั่นใจในระบบการดูแลที่ดี ส่งเสริมให้ทุกคนดูแลตัวเองจะดีมากกว่า แต่ถ้าเครียดมาก รพ.ตำรวจพร้อมให้คำปรึกษา หมายเลขโทรศัพท์ 08-1932-0000
    พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดเชื้อโควิด-19 สรุปตัวเลขวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา รวม 412 คน ทั้งรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจและตาม รพ.ต่างๆ ตามภูมิภาค ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีข้อห่วงใยการป้องกันตัวของตำรวจที่ออกพบปะปฏิบัติหน้าที่กับประชาชนและสถานที่ราชการ จึงกำชับต้องดูแลตัวเองตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค เพื่อไม่ให้ตำรวจรับเชื้อเข้ามา และไม่ให้ตำรวจแพร่เชื้อสู่ประชาชน รวมทั้งไม่ให้เข้าไปอยู่ในแหล่งที่อาจมีความเสี่ยงเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค
    ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 นอกจากมีความเจ็บปวดทางร่างกายแล้ว ยังมีผลกระทบทางจิตใจ มีความกดดันทางจิตใจด้วย ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่าผู้ติดเชื้อโควิดฆ่าตัวตายเข้ามา 1 ราย หากได้ข้อสรุปที่เรียบร้อยแล้วก็จะมีการรายงานต่อประชาชนต่อไป
    ผศ.พิเศษ นพ.ปราการ ถมยางกูร ที่ปรึกษากรมการแพทย์ กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิดทำให้คนมีความกังวล เพราะกลัวว่าตัวเองจะติดโรคหรือไม่ คนใกล้ตัวจะติดโรคหรือไม่ ซึ่งเมื่อกังวลมากๆ จะกลายเป็นความเครียด และทำให้เกิดความโกรธแค้นต่อสิ่งต่างๆ โกรธคนแพร่เชื้อ โกรธระบบบริการ โกรธในเรื่องต่างๆ รวมไปถึงการโกรธและการรังเกียจเรื่องเชื้อชาติ เหมือนที่ปรากฏเป็นข่าวคนเอเชียถูกทำร้ายร่างกายในหลายๆ ประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บางคนกลัว เครียดจนไม่กล้าออกไปข้างนอก ไม่ทำอะไรเลยก็มี
    ทั้งนี้ วิธีสังเกตว่าตัวเราหรือคนใกล้ชิดมีความเครียดเกินไปหรือไม่นั้น สังเกตได้จากหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น เหงื่อออกง่าย ปวดหัว ความคิดจิตใจไม่แจ่มใส ดังนั้นวิธีที่จะช่วยให้คลายเครียดคือการไม่เสพข่าวสารมากเกินไป ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย ทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ร่วมกับการป้องกันตัวเองเพื่อให้ปลอดจากโรค คือการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อย ซึ่งเมื่อเราป้องกันตัวเองดี จะทำให้ปลอดภัยจากสถานการณ์ จะไม่เครียดเกินไป หรือถ้าไม่รู้จะพูดหรือคุยกับใครสามารถปรึกษาสายด่วน 1323 ได้.
   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"