ถอดรหัสโพสต์สุดท้ายของ'พุทธะอิสระ'ก่อนโดนบุกรวบ-จับสึก!


เพิ่มเพื่อน    

26 พ.ค.61 - เช้าตรู่วันที่ 24 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำกำลังบุกรวบตัวพระสุวิทย์ ธีรธัมโมหรือ "หลวงพุทธะอิสระ"  เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่ ซ่องโจร ที่การ์ด กปปส.ร่วมทำร้ายร่างกายตำรวจสันติบาล 2 นาย บาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งคดีปลอมพระปรมาภิไธย และใช้พระปรมาภิไธยที่มีการปลอมขึ้น  

ปฏิบัติการดังกล่างสร้างความตกตะลึงแก่ผู้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง โดยเฉพาะบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของพระรูปนี้  เป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีสัญญาณใดๆปรากฏมาก่อน  พระพุทธะอิสระ ยังวัตรปฏิบัติเป็นปกติ อีกทั้งหน้าเฟซบุ๊ก ก็ยังโพสต์แสดงความคิดเห็นเป็นบวกต่อรัฐบาลคสช. มาอย่างต่อเนื่องหรือไม่ประการใด

โดยเฉพาะในโพสต์สุดท้ายของ "พระพุทธะอิสระ" ที่โพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊ก "หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)" เมื่อวันที่ 23 พ.ค.  ชวนถอดรหัสอย่างยิ่งเพราะรุ่งเช้าวันถัดมา พระพุทธะอิสระ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามบุกรวบตัว และถูกจับสึกส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

โพสต์ดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้

"ปัญหาการทุจริตมีอยู่ในทุกรัฐบาล

๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑

พักนี้มีข่าวการทุจริตสารพัดโครงการ ที่เกิดขึ้นในรัฐบาล คสช. จนเป็นเหตุให้มีผู้นำมาเป็นประเด็นโจมตีรัฐบาล คสช. ทำให้ผู้คนในสังคมพากันเข้าใจว่า รัฐบาลปล่อยปละละเลยหรือรู้เห็นเป็นใจในการทุจริตนั้นๆ ไปด้วย

ทั้งที่แท้จริงแล้วข่าวการทุจริตเหล่านั้น ส่วนใหญ่ล้วนเกิดจากการตรวจสอบของหน่วยงานรัฐ หรือองค์กรอิสระในยุครัฐบาล คสช. ที่ทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด จนนำมาซึ่งการเอาผิดแก่ผู้ทุจริตในทุกระดับชั้น ไม่เว้นแม้แต่ข้าราชการระดับปลัดกระทรวง

สิ่งที่สังคมควรจักสังเกตคือ

๑. การทุจริตในยุครัฐบาล คสช. ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากข้าราชการระดับปฏิบัติและข้าราชการระดับสั่งการ

๒. จากผลของการตรวจสอบการทุจริตตลอด ๔ ปี ที่รัฐบาล คสช. เข้ามาบริหารประเทศเราจักเห็นว่า รายชื่อผู้ทุจริตไม่มีบุคคลระดับรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเลย (ไม่มีก็มิได้หมายความว่าจะไม่มีหากรัฐมนตรีนั้นๆ มีความละโมบ)

๓. การที่ข้าราชการกล้าทุจริต แม้ในรัฐบาลทหารที่มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์อยู่ในมือทำให้มองได้ว่า

- คนพวกนี้ทุจริตกันจนกลายเป็นสันดาน

- คิดว่ารัฐบาล คสช. คงจะไม่ตรวจสอบถี่ถ้วน

- ไม่เกรงกลัวกฎหมาย

- ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย หรือ รัฐบาลทหาร การทุจริตก็มิได้ลดลงเลย

- ในยุครัฐบาล คสช. สามารถนำคนทุจริตมาลงโทษได้มากกว่ารัฐบาลประชาธิปไตย

จากภาพข่าว การตรวจสอบทุจริตที่ปรากฏทางสื่อและที่ยังไม่เป็นข่าว ซึ่งดูเหมือนจะมีให้เห็นแทบทุกโครงการ ทั้งที่อยู่ในรัฐบาล คสช. มันทำให้เราได้เห็นว่า ขบวนการทุจริตเช่นนี้มันฝังรากลึกลงไปทุกแวดวงสังคมไม่เว้นแม้แต่ในสังคมพระสงฆ์

มันจึงไม่ง่ายเลยที่ คสช. จักใช้เวลาแค่ ๔ ปี ทำการขุดรากถอนโคนขบวนการทุจริตคอรัปชั่นได้สำเร็จดังที่เห็น หาก คสช. จักขุดรากถอนโคนคนพาล สันดานขี้โกง ให้หมดไปจากแผ่นดินไทย คงต้องใช้ความกล้า ความเสียสละ ความร่วมไม้ร่วมมือจากประชาชนคนไทยทุกคน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เป็นปากเป็นเสียง รู้เห็นสิ่งใดที่ไม่ชอบมาพากล มีการโกงกันในที่ใด ใครทำ

คนไทยผู้มีหัวใจรักชาติ รักความสุจริตยุติธรรม อย่างพวกเราต้องช่วยกันชี้เบาะแสโพนทะนาให้คนในชาติได้รับรู้ หากคนไทยทุกคนมีจิตสำนึกรักชาติ หวงแหน รักษาผลประโยชน์ชาติ ก็ต้องไม่ยอมให้คนทุจริต คนพาล คนชั่วมีโอกาสกินบ้านโกงเมืองอย่างที่แล้วๆ มา อย่าเอาแต่เรียกร้องให้รัฐบาล ข้าราชการ นักการเมืองและรัฐบาลปฏิรูป

คนไทยทุกคนก็ต้องปฏิรูปตัวเองด้วย ปฏิรูปให้หัวใจตนมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อแผ่นดิน ตอบแทนคุณแผ่นดินด้วยการทำหน้าที่ของประชาชนที่ดี ทำหน้าที่ลูกไทยให้สมบูรณ์

ปฏิรูปตนเองให้มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่มีต่อสังคมอย่างซื่อตรง เพื่อตามรอยของบรรพบุรุษที่ต่อสู้กับพวกอธรรม เสียสละ แม้เลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาเอาไว้ ซึ่งประโยชน์สุขของคนทั้งแผ่นดิน ประโยชน์สุขของสังคม

ไม่ใช่เอะอ่ะอะไรก็เป็นไทยเฉย ไทยเฉื่อย ไทยเงียบ ไทยไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใครจะสุขจะทุกข์ก็ช่าง ขอกูอยู่รอดก็พอแล้ว เช่นนี้จักชื่อว่าเป็นผู้มีจิตสำนึกในมโนธรรม ของสัตว์สังคมชั้นสูงได้อย่างไร และบ้านเมืองนี้คงจะอยู่รอดได้อย่างไร

พุทธะอิสระ"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"