ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net โควิดรอบ 3 ทั้งเร็วและแรงจริงๆ ตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 1,470 ราย เสียชีวิต 7 ราย ถือเป็นตัวเลขการสูญเสียที่สูงกว่าทุกครั้ง และยังมีผู้ป่วยอาการหนักอีกกว่า 200 ราย ระลอกนี้แพร่ไปทุกหย่อมหญ้า ลามทุกวงการ ไม่เว้นแม้ใน ครม. ซึ่ง รมว.คมนาคมเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ไม่ทันไร รมว.ยุติธรรม "สมศักดิ์ เทพสุทิน" เสี่ยงสูงอีกคน หลังร่วมงานเลี้ยงวันที่ 12 เม.ย. ที่เป็นคลัสเตอร์ใหม่ในจังหวัดสุโขทัย มีคนใกล้ชิด และ ส.ส.สุโขทัย รวมถึงคนในงานติดแล้ว 5 คน เจ้าตัวแจงยิบ โต้ไม่ใช่ปาร์ตี้ แค่รับประทานอาหารค่ำร่วมกัน “ผมต้องขอโทษที่มีภาพหลุดออกมาจนเป็นประเด็นในสังคม แต่การไปร่วมรับประทานอาหารในครั้งนี้ไม่ใช่ปาร์ตี้ตามที่เข้าใจผิดกัน เพราะในการรับประทานอาหารไม่มีดนตรีและการแสดงใดๆ การร่วมรับประทานอาหารเพื่อรับฟังปัญหาชาวบ้านจากกลุ่มคนที่ช่วยทำงานในพื้นที่ และกิจกรรมดังกล่าวใช้เวลาไม่นาน” ผลตรวจหาเชื้อโควิดครั้งแรกเป็นลบ รมว.ยุติธรรมยังต้องกักตัวและตรวจครั้งต่อไป ซึ่งต้องลุ้นกันต่อว่าจะซ้ำรอย "เสี่ยโอ๋" มั้ย เพราะครั้งแรกก็ไม่เจอ แถมยังฉีดวัคซีนแล้ว 1 โดสเหมือนกัน ต่างกันแค่ยี่ห้อ แต่ไม่แน่ "เสี่ยเรียงหิน" อาจโชคดีภูมิขึ้นอาจแคล้วคลาดก็ได้ และยังดีที่ไทม์ไลน์ชัดไม่เที่ยวแหล่งอโคจร

            ๐ กลายเป็นคำสั่งพิลึกพิลั่น! ถึงแม้จะเป็นเรื่องปกติที่จะมีการแบ่งจังหวัดใหม่ให้รัฐมนตรีดูแลเวลามีการปรับ ครม.แต่ละครั้ง ซึ่งที่ผ่านมามักจะให้รัฐมนตรีรับผิดชอบในจังหวัดที่ตัวเองเป็น​ ส.ส.และเป็นฐานเสียงตัวเอง​ แต่คำสั่งนายกฯ ฉบับที่ 85/2564 ดูเหมือนจงใจแซะพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะ ดูพื้นที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นก็ไม่มีปัญหา อย่างภูมิใจไทยก็ยังได้คุมบุรีรัมย์ ชาติไทยพัฒนากุมที่มั่นสุพรรณบุรีเหมือนเดิม ทั้งที่รู้กันดีว่าฐานเสียงหลัก ปชป.คือภาคใต้ แต่กลับส่ง "ร.อ.ธรรมนัส​ พรหมเผ่า​" รมช.เกษตรและสหกรณ์​ สายตรง "บิ๊กป้อม" จากเดิมที่ดูแลรับผิดชอบภาคเหนือ​ โยกให้ไปดูแลจังหวัดภาคใต้​ ได้แก่​ สงขลา​ นครศรีธรรมราช​ และภูเก็ต​ ทั้งที่ จ.สงขลา คำสั่งฉบับเดิมเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของ "นิพนธ์​ บุญญามณี​" รมช.มหาดไทย​​ ส่วน "สินิตย์​ เลิศไกร​" รมช.พาณิชย์ ที่เป็น ส.ส.สุราษฎร์ธานี​ ก็ไล่ให้ไปดูแลหนองบัวลำภูและร้อยเอ็ด หรือแม้แต่ "จุติ ไกรฤกษ์" รมว.พม. ก็ไม่ให้คุมพิษณุโลก เล่นเอาพรรคพระแม่ธรณีควันออกหู รู้ดีว่าแบ่งแบบนี้มันมีนัยแอบแฝง​ โดยเฉพาะเรื่องการทำฐานเสียงเพื่อเตรียมเลือกตั้ง "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" หัวหน้า ปชป.สะกดอารมณ์เอ่ยปากว่า "ทุกคนก็สามารถเข้าใจได้ไม่ต่างกัน" ​ เรียกว่าตอกลิ่มรอยร้าวระหว่าง พปชร.กับ ปชป.ให้ลึกลงไปอีก แต่เวลานี้ผู้นำ พปชร.โนสนโนแคร์ ติดใจจากผลงานผู้กองธรรมนัสที่เพิ่งคุมทีมเจาะนครศรีธรรมราชสำเร็จ 1 เก้าอี้ เลือกตั้งคราวหน้าหมายมั่นจะกวาดพื้นที่ภาคใต้ให้มากที่สุด​ ยิ่งถ้ายึดสงขลาและนครศรีธรรมราชได้​ยกจังหวัด รวมกับที่มีอยู่ในมือเวลานี้ 10 คน ก็ร่วม 30 เก้าอี้ทีเดียว ถึงว่าหมดเวลาเกรงใจ เลิกสะกดคำว่ามารยาทการเมืองทิ้งไปนานแล้ว

            ๐ หลังรัฐประหาร รสช.ปี 2534 นำไปสู่การเลือกตั้ง 22 มี.ค.2535 เลือกตั้งรอบดังกล่าวก่อให้เกิดนักการเมืองหน้าใหม่ๆ หลายคน ที่ตอนนี้ส่วนใหญ่ก็ขึ้นมาเป็นหัวแถวทางการเมือง และหนึ่งในนั้นก็คือ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" เจ้าของฉายาทางการเมือง "เจ๊หน่อย-เจ้าแม่ กทม." ที่ต้นเดือนหน้า 1 พ.ค. ก็จะแซยิด ครบรอบวันเกิด 60 ปีแล้ว ส่วนเส้นทางการเมือง นับถึงตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 29 ที่อยู่บนถนนการเมืองไทย ซึ่งเจ้าตัวผ่านตำแหน่งสำคัญๆ ทางการเมืองมามากมาย เช่น รมว.สาธารณสุข-รมว.เกษตรฯ-รมช.มหาดไทย-รมช.คมนาคม และตอนนี้กำลังสาละวนอยู่กับการตอกเสาเข็มตั้งพรรค "ไทยสร้างไทย" ที่นายทะเบียนพรรคการเมืองอนุมัติการจัดตั้งพรรคแล้ว เดิมในโอกาสพิเศษวันแซยิด คุณหญิงหน่อยแพลนว่าหากโควิดเบาบาง จะเปิดบ้านในซอยลาดปลาเค้า 60 จัดงานทำบุญเลี้ยงพระ-ถวายเพล ให้ประชาชนมาร่วมงาน และจัดมีตติ้งกินข้าวเย็นกันในหมู่คนสนิท ที่เรียกกันว่า "ปีละหนคนกันเอง" แต่พอเจอโควิดระบาดหนัก ต้องงดจัดงาน งดเปิดบ้านเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แต่อาจให้สื่อบางส่วนสัมภาษณ์เปิดใจถึงเรื่องการตั้งพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งระหว่างการให้สัมภาษณ์พิเศษกับไทยโพสต์เมื่อไม่กี่วันมานี้ คุณหญิงสุดารัตน์บอกว่าพร้อมรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่จะนั่งแค่ไม่นาน จากนั้นจะเปิดโอกาสให้คนอื่นขึ้นมานำทัพสู้ศึกเลือกตั้งต่อไป โดยยืนกรานหนักแน่น ไทยสร้างไทย "ไม่ใช่พรรคสาขา-กลยุทธ์แตกแบงก์พันของพรรคเพื่อไทยแน่นอน" พร้อมย้ำว่า "การทำพรรคการเมืองใหม่ครั้งนี้จะทำผลงานแบบให้เป็นมาสเตอร์พีซเป็นชิ้นสุดท้าย เพราะเคยบอกกับครอบครัวไว้ว่า ทำงานการเมืองครบ 30 ปีแล้วก็จะหยุดทางการเมือง" ...พรรคไทยสร้างไทยจะขยับกันต่อไปอย่างไร คงเป็นเรื่องที่หลายคนเฝ้ารอดูอยู่ แต่ที่น่าแปลกใจไม่น้อยก็คือ คุณหญิงสุดารัตน์ ที่แม้จะห่างการเมืองไปนาน ไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีมาก็หลายปี พอเวลาทำโพลสำรวจไม่ว่าจะกี่สำนัก ก็จะมีชื่อเจ๊หน่อยติดอันดับต้นๆ เสมอ.

            ลี้คิมฮวง