ชาวลำปางผวา!แพ้ซิโนแวค150คน


เพิ่มเพื่อน    

  "ชาวลำปาง" ผวา! หลังบุคลากร รพ.ลำปางแพ้วัคซีนซิโนแวค เกิดอาการชาหน้า พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง "สจจ.ลำปาง" รับมีผู้ฉีดวัคซีนแล้วแพ้ 150 ราย ส่วนใหญ่อาการเล็กน้อย มีรุนแรงคล้ายเส้นเลือดสมองตีบชั่วคราวเพียง 1 ราย ให้การรักษากลับมาปกติ "เชียงใหม่" น่าห่วง ผู้ป่วยใหม่ 237 ราย เจอคลัสเตอร์ศูนย์ปฏิบัติธรรมเพิ่มอีก

    ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 22 เม.ย. ในจังหวัดลำปางเกิดความตื่นตระหนก หลังมีกระแสข่าวผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เกิดอาการแพ้ ทำให้มีการตั้งกระทู้สอบถามทางสื่อสังคมออนไลน์กันอย่างกว้างขวาง โดยมีผู้ที่อ้างเป็นแพทย์โรงพยาบาลลำปางได้เข้ามาตอบในคอมเมนต์ของประชาชนที่ตั้งกระทู้ถามว่า โรงพยาบาลลำปาง บุคลากรทางการแพทย์แพ้วัคซีนกว่า 15 คนจริงหรือไม่ ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง 70% และเมื่อวันที่ 21 เม.ย. บุคลากรทางการแพทย์ต้องแอดมิต 2 ราย เพราะเกิดอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนประมาณ 15 นาที
    จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ สสจ.ลำปาง เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และ สสจ.ลำปางก็ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยหรือแถลงเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน
    มีรายงานว่า ผู้ที่มีอาการแพ้เป็นบุคลากรทางแพทย์ ซึ่งได้รับวัคซีนเข็มแรก รุ่น 2 จำนวน 2 คน เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวค หลังจากนั้น 15 นาที เกิดอาการเวียนศีรษะ ปวดหัว ต้องเข้ารับการปฐมพยาบาลที่หน่วยฉุกเฉินเคลื่อนที่ ขณะที่นอนพักทั้งสองคนมีอาการแน่นอก เวียนศีรษะ ตาลาย อาเจียน 2 ครั้งเป็นน้ำ ชาหน้า พูดไม่ชัด อ่อนแรงแขนขาข้างซ้ายทันที แพทย์จึงนำส่งเข้าห้องฉุกเฉิน ซึ่งทั้งสองคนเริ่มพูดไม่ซัด พูดไม่ออก เริ่มซึมลง อ่อนแรงแขนขาข้างซ้ายมากขึ้น และรู้สึกเริ่มมีอ่อนแรงแขนขาข้างขวา แพทย์จึงต้องเร่งทำการช่วยเหลือโดยใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 14.00 น. ทั้ง 2 คนจึงมีอาการดีขึ้น
    ต่อมา นพ.ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นพ.พงษ์ศักดิ์ โสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปาง เปิดเผยข้อมูลการฉีควัคซีนซิโนแวค (SINOVAC) ผ่านเอกสารแถลงข่าวของศูนย์ข้อมูลโวิด-19 จังหวัดลำปาง ชี้แจงและยอมรับว่าตั้งแต่ฉีดครั้งแรกและครั้งที่สองมีผู้แพ้แล้วกว่า 150 ราย
    โดย 1.การฉีดวัคซีนทุกชนิดจะมีการเฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์ทุกชนิดของอาการ และทุกระดับของอาการ 2.เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2564 ที่ผ่านมา โรงพยาบาลลำปางได้ฉีดวัคซีนซิโนแวคไปแล้วจำนวน 900 ราย พบอาการอันไม่พึงประสงค์ จำนวน 150 ราย ส่วนใหญ่ของอาการคือ บวม ปวดแขน ใจสั่น และทุกคนก็มีอาการดีขึ้น หายเป็นปกติภายในวันนั้นทั้งหมด 3.เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2564 ได้ฉีดวัคซีนซิโนแวคให้บุคลากรของโรงพยาบาลลำปาง จำนวน 604 ราย และมีอาการอันไม่พึงประสงค์ จำนวน 9 ราย มีอาการหน้าชา ปากชา มีจำนวน 1 ราย มีอาการหน้าชา แขนขาอ่อนแรง ซึ่งถือว่าเป็นอาการอันไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ต่างจากคนอื่นที่ถือว่าเป็นอาการอันไม่พึงประสงค์เล็กน้อย ซึ่งพบได้ทั่วไป จึงจำเป็นต้องระงับการฉีดวัคซีน เพื่อดูแลผู้ที่มีอาการผิดปกติ และตรวจสอบความปลอดภัยของวัคซีน
    4.กรณีเจ้าหน้าที่ที่มีอาการรุนแรง จากการตรวจสอบพบว่า มีอาการคล้ายเส้นเลือดสมองตีบชั่วคราว ได้สังเกตอาการ และให้การรักษาตามอาการ ภายในเวลา 4 ชั่วโมง ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ 5.จากการตรวจสอบคุณภาพของวัคซีน พบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย ปราศจากสารปนเปื้อนใดๆ 6.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปางและโรงพยาบาลลำปางได้เสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงทั้งหมดให้คณะผู้เชี่ยวชาญและกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแล้ว เห็นว่าวัคซีนซิโนแวคมีความปลอดภัยให้เข้มงวดการเฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์ และสามารถให้บริการฉีดวัคซีนซิโนแวคได้อย่างปลอดภัยต่อไป
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดตามสอบถามญาติพยาบาลหญิง อายุ 46 ปี ที่เกิดอาการแพ้ถึงอาการล่าสุด ทราบว่าแม้อาการดีขึ้นแต่ก็ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลำปาง เนื่องจากร่างกายอ่อนเพลียจากอาการที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะการเกิดอาการเส้นเลือดสมองตีบชั่วคราว ดังนั้นจำเป็นต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ โดยมีทีมแพทย์และพยาบาลดูแลอาการอย่างใกล้ชิด
    นางจันศิริ อายุ 65 ปี ชาวจังหวัดลำปาง ระบุว่า หลังทราบข่าวก็ยอมรับว่ากลัว และได้ติดตามข่าวต่างประเทศ ทราบว่ามีการยกเลิกวัคซีนตัวนี้ไปแล้ว แต่ทำไมประเทศไทยยังไม่ยกเลิก และยังฉีดกันต่ออีก ซึ่งตนคงไม่ฉีดแน่นอน เพราะไม่มั่นใจ และเชื่อว่าหากตัวเองทำร่างกายให้แข็งแรง ทานสมุนไพรของไทยที่มีประโยชน์และมีอยู่มากมาย ไม่ทานเนื้อสัตว์ที่เป็นตัวช่วยให้เชื้อโรคแข็งแรง และรู้จักป้องกันตัวเองให้ดี ก็จะปลอดภัยแล้ว ไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีน
    เช่นเดียวกับนายบุญส่ง อายุ 38 ปี ชาวลำปาง บอกว่า ตนยังไม่ได้ฉีด และคงไม่กล้าฉีด เพราะกลัว หลังทราบข่าวและเห็นข่าวจากต่างประเทศว่าคนที่ฉีดแล้วเสียชีวิต และยิ่งในประเทศและลำปางมีคนแพ้ด้วย ก็ยิ่งไม่มั่นใจ
เชียงใหม่โควิดยังพุ่ง
    ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงถึงกรณีมีบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลลำปางแพ้วัคซีนโควิด-19 ว่าจากการสอบถามไปยัง จ.ลำปาง ทราบข้อเท็จจริงว่าการฉีดวัคซีนให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลลำปาง พบอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง 1 ราย ที่มีลักษณะอาการผู้ที่อาการคล้ายหลอดเลือดสมอง หรือคล้ายอัมพฤกษ์เท่านั้น ไม่ใช่ 40 รายตามที่เป็นกระแสข่าว ส่วนที่เหลือเป็นอาการเล็กน้อย เช่น ชาปลายมือปลายเท้า รู้สึกเมื่อย มีอาการอ่อนเพลีย
    "ขณะนี้สำนักงาน สสจ.ลำปางและโรงพยาบาลต่างๆ ยังมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวคต่อ หลังจากที่ทางส่วนกลางแจ้งไปว่าสามารถฉีดต่อไปได้ ไม่มีปัญหา ก็เริ่มดำเนินการฉีดต่อ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามยังไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติอะไรเกิดขึ้น ขณะนี้การฉีดวัคซีนยังเดินหน้าต่อไป ควบคู่กับการติดตามเฝ้าระวังใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนว่าวัคซีนที่ทำการฉีดในขณะนี้มีความปลอดภัย" อธิบดีกรมควบคุมโรคระบุ
    ที่ จ.ขอนแก่น นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับบุคลาการทางการแพทย์ของจังหวัด โดย พญ.นาตยา มิลล์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า จากการติดตามอาการบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว พบว่าส่วนใหญ่ไม่มีอันตรายเกิดขึ้น มีเพียง 2 คนที่มีอาการข้างเคียงเล็กน้อย ซึ่งถือว่าเป็นภาวะชั่วคราว จึงขอให้ผู้ที่กังวลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนมั่นใจได้ว่าไม่เกิดอันตราย
    จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยให้จังหวัดนครราชสีมา นำมาให้บริการตรวจคัดกรองเชิงรุกหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงในเขตพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียงจำนวน 3 คัน โดยสามารถตรวจหาเชื้อจากประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้วันละ 1,500 คน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ในวันที่ 24 เม.ย.64 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
    จ.เชียงใหม่ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ โพสต์กราฟฟิกข้อมูลอัปเดตโควิด-19 ว่า ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในชุมชน สถานศึกษา และหน่วยงานราชการจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มจำนวน 237 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,819 ราย หายป่วยและกลับบ้านได้ 222 ราย คงเหลือผู้ป่วยอยู่ในระบบรักษาพยาบาล 2,597 ราย
    ขณะที่เจ้าหน้าที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่สถานปฏิบัติธรรม ลานธรรมนำสุข 14/2 ซอยไข่มุก 2 ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากช่วงก่อนหน้านี้มีผู้เข้ามาปฏิบัติธรรมแล้วเดินทางกลับช่วงสงกรานต์ได้แจ้งกลับมาว่า? ตนเองได้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่นำผู้ที่ปฏิบัติธรรมที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้เข้าตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทันที พบมีผู้ติดเชื้อยืนยันจำนวน 27 ราย จาก 45 ราย อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เหลือก็คาดว่าจะติดเชื้อเช่นกัน ซึ่งจะกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ของผู้ปฏิบัติธรรม
    จ.หนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าฯ หนองคาย กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัด ยังคงพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด เป็นสมาชิกในครอบครัวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้มาตรการในการป้องกันและควบคุมต้องเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้นทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคายจึงได้มีการออกข้อกำหนดการปฏิบัติเพื่อควบคุมป้องกันและสกัดกั้นการติดและแพร่เชื้อโรค ด้วยการขอให้ประชาชนทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี เมื่อจำเป็นต้องออกจากเคหสถานหรือสถานที่ทำงาน เพื่อติดต่อธุระหรือกระทำการอื่นใด รวมทั้งเมื่อมีเหตุอันควรต้องสวมใส่ เช่น เมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ทำงาน การอยู่ในสถานที่สุ่มเสี่ยงจะแพร่หรือได้รับเชื้อโรค การอยู่รวมกันกับคนหมู่มาก เป็นต้น
    "ข้อกำหนดนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางปกครอง คู่กรณีไม่อาจใช้สิทธิ์โต้แย้งประกาศนี้ได้ ดังนั้น หากมีผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ไม่สวมหน้ากากอนามัย อาจมีความผิดตามมาตรา 51 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ผู้ว่าฯ หนองคายระบุ.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"