กระหึ่ม!ไล่อนุทิน จัดการไวรัสเหลว


เพิ่มเพื่อน    

  "อนุทิน" เก้าอี้ร้อน กระหึ่ม "หมอไม่ทน-ไล่เสี่ยหนู"    กระแสขานรับท่วมท้น หนุนอัปเปหิพ้นกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายค้านจี้ออกไปเถอะ หลังก่อกรรมทำเข็ญกับประชาชนทั้งประเทศ รัฐบาลพล่านหนัก ดีอีเอสระงับเนื้อหาแคมเปญ อ้างผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

    เมื่อวันที่ 25 เม.ย. มีรายงานว่าได้มีแคมเปญ "หมอไม่ทน" ผ่านเครือข่ายออนไลน์ www.change.org ล่ารายชื่อแสดงความไม่พอใจต่อการบริหารงานกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องการรับมือกับวิกฤติโควิด-19 โดยเคลื่อนไหวเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลาออก เพื่อให้ผู้ที่มีความสามารถ มีความเหมาะสมมากกว่าเข้ารับตำแหน่ง หลังจากไม่มีความสามารถมากพอในการควบคุมดูแลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้
    สำหรับแคมเปญดังกล่าว "หมอไม่ทน" ได้ให้เหตุผลประกอบ โดยระบุข้อความว่า กว่า 1 ปีเต็มที่ผ่านมาของการระบาด COVID-19 เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่านายอนุทินไม่มีความสามารถมากพอในการควบคุมดูแลการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งเรื่องการวางนโยบาย การจัดการทรัพยากร การจัดหาวัคซีน และการสร้างความเชื่อมั่นให้บุคลากรทางการแพทย์ นอกเหนือไปกว่านั้น หลายครั้งบทสัมภาษณ์จากนายอนุทินยังทำให้เห็นชัดเจนว่า ไม่มีวิสัยทัศน์ที่เหมาะสมในการทำงานควบคุมกระทรวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่การระบาดไม่สามารถควบคุมได้
     ทั้งนี้ แคมเปญ "ไล่อนุทิน" ผ่าน www.change.org  มีผู้ร่วมลงชื่อเป็นจำนวนมาก โดยพบว่าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 เม.ย. 2564 ยอดผู้ลงชื่อร่วมสนับสนุนรวมทะลุ 50,000 รายชื่อแล้ว หลังผ่านไปเพียง 1 วันเท่านั้น
    มีรายงานว่า ต่อมาการเคลื่อนไหวผ่าน www.change.org   ได้ถูกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระงับเนื้อหาในหน้าดังกล่าว โดยชี้ว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ปี 2550
     เช่นเดียวกับพรรคก้าวไกล ออกแถลงข้อเสนอต่อการรับมือสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 โดยเสนอแนวทางในการรับมือไว้หลายมาตรการและมาตรการเยียวยา ก่อนระบุว่า พรรคก้าวไกล ขอยืนยันว่ารัฐบาลภายใต้การบริหารงานของนายอนุทิน ได้บกพร่องต่อหน้าที่ ล้มเหลวในการจัดการสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 มามากพอแล้ว ประชาชนไม่อาจแบกรับกับหายนะที่รัฐบาลนี้ก่อขึ้นได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ พรรคก้าวไกลจึงขอเรียกร้องให้นายอนุทินจงมีมโนสำนึกในความผิดของตน ที่ได้ก่อกรรมทำเข็ญเอาไว้กับประชาชนได้แล้ว และตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งโดยทันที และขอให้รัฐบาลเร่งพิจารณาข้อเสนอแนะของพรรคก้าวไกล และนำไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
    ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวเช่นกันว่า รัฐบาลทำสถิติโควิดนิวไฮทุกวัน โดยไม่มีท่าทีว่าจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิดจะลดลง ในขณะที่เกิดกระแสเรียกร้องให้นายอนุทินลาออก รวมทั้งกรณีมีภาพหลุดคนหน้าคล้ายรัฐมนตรีในลักษณะไม่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลอยตัวเหนือปัญหาหรือโยนเผือกร้อนให้คนอื่นตัดสินใจแทนทุกเรื่องไม่ได้ การเกิดวิกฤติศรัทธาอย่างหนักในครั้งนี้พุ่งเข้าใส่รัฐบาลเต็มๆ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเร่งตัดสินใจและแก้ไขปัญหาก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
    “ระหว่างขับภูมิใจไทยออก กับรอให้ถอนตัว สิ่งใดจะเกิดขึ้นก่อน หรือ พล.อ.ประยุทธ์จะลาออก เพื่อเปิดทางให้คนที่มีความพร้อมเข้ามาแก้ไขปัญหาแทน” นายอนุสรณ์กล่าว
    ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก "คนภูมิใจไทย" ได้นำเสนอข้อมูลชี้แจง 12 ข้อดีในการทำงานของนายอนุทิน อาทิ จัดหาวัคซีนซิโนแวค 2 ล้านโดส และเพิ่มอีก 5 ล้านโดสมาให้ประชาชน ก่อนวัคซีนแอซตร้าเซนเนก้ามาถึงไทย, จัดหาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส มาให้ประชาชน เริ่มต้นฉีดเดือน มิ.ย., จัดหายาต้านไวรัสให้ผู้ป่วยมากกว่า 5 ล้านเม็ด, แก้ปัญหาหน้ากากอนามัยและเวชภัณฑ์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ไม่ขาดแคลนและเพียงพอได้อย่างยั่งยืน, บรรจุข้าราชการใหม่ 45,000 อัตรา และเพิ่มค่าตอบแทน อสม. เดือนละ 500 บาท เป็นต้น
        ขณะเดียวกัน พบว่าหลายพรรคการเมืองพยายามแสดงบทบาทในการแก้ปัญหาโควิด-19 ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ พรรคแกนนำรัฐบาลโดย น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรค พปชร. กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 เพื่อประสานงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฝ่ายปฏิบัติการเป็นผู้ดูแล ผ่านหัวหน้าภาคทั้ง 10 ภาคของพรรค
         เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน  รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค และ ส.ส.ของพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 เพื่อช่วยประสานคลี่คลายปัญหาผู้ป่วยติดเชื้อตกค้างได้ ให้เข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด โดยนายเฉลิมชัยกล่าวว่า การเปิดศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 (ศปฉ.ปชป.) ขึ้น จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะเข้าไปรับข้อมูล และประสานงานกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยประสานส่งต่อผู้ติดเชื้อให้เข้ารับการรักษาได้โดยเร็วที่สุด
    เมื่อถามว่า การตั้ง ศปฉ.ปชป.จะไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานรัฐ และจะไม่มีเรื่องดรามาผู้ป่วยตกหล่นที่ติดเชื้อโควิดและรักษาที่บ้านเองใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่ซ้ำซ้อน เป็นการตั้งขึ้นเพื่อเป็นตัวกลางเพิ่มช่องทางหรือตัวเลือกให้ประชาชนที่ติดเชื้อโควิดสามารถประสานขอความช่วยเหลือได้อีกทางหนึ่ง ยืนยันว่าเตียงที่รองรับผู้ป่วยติดเชื้อยังเพียงพอ และรัฐบาลสั่งให้มีการตั้งโรงพยาบาลสนามและโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขกว่า 20,000 เตียง เราตั้งศูนย์ขึ้นเพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึง เพื่อประชาชนได้รักษาได้ทันท่วงที โดยเราไม่มีหน้าที่ไปรับ-ส่งผู้ป่วย
    ด้าน น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรค ในฐานะผู้รับผิดชอบโซเชียลมีเดียพรรค ระบุว่า โครงการนี้พรรคจัดให้มีกลไกการประสานงานช่วยเหลือ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 รับผิดชอบเปิดช่องการรับข้อมูลหรือเรื่องราวร้องทุกข์ผ่านทางทีมบุคลากรของพรรคในพื้นที่ (Offline) และสื่อสังคมออนไลน์ (Online) ของพรรคจากผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อตกค้างที่ยังไม่สามารถเข้าระบบสาธารณสุขได้เพื่อส่งให้ ส่วนที่ 2 ซึ่งรับผิดชอบการประสานข้อมูลผู้ติดเชื้อเพื่อการส่งต่อและส่งข้อมูลต่อไป และส่วนที่ 3 คือตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุขที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกและประสานงาน โดยช่องทางโซเชียลมีเดียพรรคจะใช้ 2 ช่องทางหลักคือ Facebook : facebook.com/DemocratPartyTH และ Twitter : twitter.com/democratTH
    ส่วน น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค พท. กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลนำข้อเสนอของภาคเอกชนที่เป็นประโยชน์มาเร่งดำเนินการ ได้แก่ 1.ประสานความร่วมมือจากมูลนิธิที่มีศักยภาพขนย้ายผู้ป่วย เร่งขนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาการไม่รุนแรงที่ตกค้างตามที่พักอาศัยมารักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม เพื่อเข้าสู่การดูแลของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ 2.เปิดรับความช่วยเหลือจากภาคเอกชนซึ่งเป็นบริษัทคอลเซ็นเตอร์ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการสร้างระบบการรับสายโทรศัพท์จากผู้ป่วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน 3.เร่งจัดทำ ICU สนามรองรับผู้ป่วยหนักที่กำลังประสบปัญหาเตียงในโรงพยาบาลรัฐไม่เพียงพอ พร้อมประสานไปยังแลปของเอกชนในการนำเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการดูแลรักษา 4.เร่งเบิกใช้งบกลางซึ่งเป็นงบฉุกเฉินในช่วงวิกฤติ นำไปจัดซื้อยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น และ 5.เร่งจัดหาวัคซีนให้รวดเร็วและจริงจังมากยิ่งขึ้นจากแผนที่กำหนด
    “พรรคเพื่อไทยพร้อมนำองคาพยพทั้งหมดประสานเข้าช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยจะแถลงรายละเอียดอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 26 เม.ย. เวลานี้เราไม่ได้รบกับโรคระบาด แต่กำลังรบกับกลไกภาครัฐที่ไม่ทันท่วงทีกับการระบาดของไวรัสโควิด-19” น.ส.อรุณีกล่าว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"