ชัดเจน 'นิพิฏฐ์' ว่าด้วย 'เพนกวิน' มาตรา 112 และบรรดาผู้สูงวัยที่คอยให้ท้าย


เพิ่มเพื่อน    

1 พ.ค. 64 - ​นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ  โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้

เพนกวิน

-ผมเคยแสดงความเห็นต่างกับ เพนกวิน 2-3 ครั้ง ทั้งประเด็น มาตรา 112,ประเด็น คนเท่ากัน และ ประเด็นเอาอาหารสุนัข ไปให้ตำรวจ

แต่เมื่อเพนกวิน ถูกจองจำ ผมก็เคยบอกวิธีแก้ปัญหาในการขอประกันตัว แต่เพนกวินไม่ใช้วิธีนั้น ผู้ต้องขังบางคนนำไปใช้ ก็ได้ประกันตัวออกมา

-เพนกวิน จะใช้วิธีแบบที่ผมว่าหรือไม่ เป็นสิทธิทางคดี และ เป็นสิทธิในเนื้อตัว ร่างกาย ผมก็เคารพในสิทธินั้น และไม่อาจก้าวล่วงได้

-แต่ถามว่า ผมพอใจในสภาพของเพนกวินขณะนี้หรือไม่ ตอบได้ว่า ไม่พอใจหรอก ผมไม่ปรารถนาให้ใครต้องถูกจองจำในความเห็นต่างทางความคิดเลย แน่นอนว่า ความเห็นในมาตรา 112 ของผมกับเพนกวิน ต่างกันสุดขั้ว ผมปรารถนาให้มาตรา 112 ยังคงอยู่ และผมมั่นใจเต็มร้อยว่ามาตรา 112 ไม่เป็นปัญหาสำหรับผมเลย ถ้าจะว่าไปแล้ว ประมวลกฎหมายอาญาตั้งแต่มาตรา 1 ถึงมาตรา 398  (ซึ่งเป็นมาตราสุดท้าย)  ก็ไม่มีสักมาตราที่เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตของผม

- หากมาตรา 112 ไม่เป็นที่ปรารถนาของเพนกวิน(และพรรคพวก) ผมว่า รัฐควรหาพื้นที่เป็นกลาง และ ปลอดภัย ให้เพนกวิน(และพรรคพวก) ได้พูดว่า เขาต้องการเห็น มาตรา 112 เป็นอย่างไร แต่เช่นเดียวกัน ผมก็พูดเสมอว่า เราไม่ควรพูดเรื่องนี้กันในที่สาธารณะ ไม่สมควรพูดกันที่ราชประสงค์,ไม่สมควรพูดบนถนนราชดำเนิน หรือ แม้แต่นำไปพูดหน้าสถานทูต ทำไมที่ผมกล่าวว่า  เราไม่ควรพูดในที่สาธารณะ ก็เพราะคนบางส่วน ยังไม่มีวิจารณญาณที่เพียงพอในการแยกแยะว่า สิ่งไหนเป็นการหมิ่นประมาท สิ่งไหนเป็นการต้องการปฏิรูป ตามที่พูดๆกันอยู่ 

วิจารณญาณที่ผมว่า ต้องอาศัยประสบการณ์ อาศัยความรู้ทางกฎหมาย และที่สำคัญต้องอาศัยวัฒนธรรมในการอยู่ร่วมกันเป็นประเทศ 

-ผมต้องการเห็นอนาคตของเด็กเหล่านี้ ได้เติบโตสมวัย แข็งแรง สติปัญญาดี วุฒิภาวะสมส่วน และเป็นกำลังในการสร้างประเทศ ผมไม่ปรารถนาแม้แต่น้อยที่จะเห็นชีวิตของเขาอยู่ในเรือนจำ ผมคงเตือนเขาไม่ได้แล้ว  แต่ครั้งนี้ ผมขอเตือนผู้สูงวัยด้วยกันที่ผ่านประสบการณ์ และเห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองมาหลายครั้ง โปรดแนะนำให้เด็กได้ใช้ชีวิตที่เหมาะสมกับวัย ทั้งในวัยปัจจุบัน และวัยในอนาคต  อย่าแนะนำอะไรที่เป็นอันตรายต่อเด็กและเยาวชน ในทางกลับกันหากผู้สูงวัยที่มีประสบการณ์ แนะนำเด็กให้สู้ด้วยวิธีการเหมือนที่ผ่านมา ลองเอาผู้สูงวัยไปอยู่ในเรือนจำและปล่อยเด็กออกมา  และให้เด็กไปตะโกนหน้าเรือนจำว่า"ปล่อยพี่เรา,ปล่อยลุงเรา,ปล่อยปู่เรา" ลองดูซิว่า คุณพี่ คุณลุง คุณปู่ จะว่าอย่างไร

-สังคมที่แตกแยกกันอย่างนี้ ไม่ใช่สังคมที่น่าอยู่หรอกครับ  และเราไม่ควรสร้างชาติ สร้างบ้านเมือง ด้วยสังคมแบบนี้ พรรคการเมืองทุกพรรคก็ไม่สมควรสร้างบ้านเมืองด้วยสังคมที่เป็นแบบนี้ แต่ผมยังไม่เห็นพรรคการเมืองใดแสดงเจตนายุติความขัดแย้งนี้ มีแต่สนับสนุนให้สู้กันชนิดพังกันไปข้างหนึ่งทั้งนั้น ผมแสดงความเห็นอย่างนี้ แน่นอนว่า ผู้ที่ "สุดขั้ว" ทั้งสองฝ่ายมีแต่ก่นด่าผม เพราะสังคมวันนี้ หาพื้นที่กลางๆยาก มันต้องแยกขั้วกันไปข้างใดข้างหนึ่ง แต่ผมเคยบอกหลายครั้งว่า"ผมไม่ใช่นักประชาธิปไตย"  แต่ผมเป็นนัก"เสรีนิยมประชาธิปไตย" ที่ผมแสดงความเห็นอย่างนี้ก็อย่าว่าผมเลย  ผมขออาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ด้วยคน อย่ามีใครมาไล่ผมเลย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"