ความเป็นเด็ก...กับ 'วัคซีน'


เพิ่มเพื่อน    

 

                                                                                                            (1)

            ชักเลือนๆ...จำได้ไม่ถึงกับถนัดชัดเจน ว่าในช่วงที่ฝ่าตีนยังโตกว่าประมาณฝาหอยได้ไม่เท่าไหร่ หรือช่วงที่ยังคงสภาพเป็นหนูเล็กๆ และเด็กๆ ทั้งหลายนั่นแหละ เคยถูกบรรดาผู้ใหญ่ ถูกคุณครู กะเกณฑ์ จับไปเรียงแถว เข้าแถว ให้ ฉีดวัคซีน ประเภทไหน แบบไหน ก็นึกไม่ออกซะแล้ว!!!  เพราะคงต้องนึกย้อนหลังไปในระดับ 50-60 ปี เห็นจะได้...

                                                                                                            (2)

            แต่ในแง่ของ อารมณ์-ความรู้สึก ออกจะเป็นอะไรที่ชัดแจ๋ว แจ่มแจ้ง ถึงความหวาดหวั่น ขวัญสยอง อยู่พอสมควร เมื่อเห็นคุณน้านางพยาบาล งัด เข็มฉีดยา แหลมเปี๊ยบบ์บ์บ์ ยาวประมาณเท่าท่อนนิ้ว ออกมากดๆ บีบๆ จนน้ำยาพุ่งปรี๊ดๆ ปร๊าดๆ ก่อนที่จะปักเข็มลงไปบนท่อนแขน ของบรรดาเด็กตัวเล็กๆ ชนิด ร้องจ๊ากก์ก์ก์ หรืออดไม่ได้ต้องออกอาการเอะอะ โวยวาย น้ำมูก น้ำตา ไหลพรากๆ กันไปเป็นรายๆ...

                                                                                                            (3)

            แม้บางรายพยายามแสดงออกถึงความเก่งกล้า สามารถและห้าวหาญ โดยเฉพาะเมื่อแถวนักเรียนข้างๆ ดันเป็นแถว นักเรียนหญิง ซะอีกล่วย ถึงขั้นหัวเราะร่าขณะยื่นแขนให้กับคุณน้านางพยาบาล แต่หลังโดน เข็มปัก เข้าไปแบบจะจะ จังๆ ไอ้ที่เคย ห้า...ห้า...ห้า อาจกลายเป็น ฮือ...ฮือ...ฮือ เอาเลยก็เป็นได้ สีหน้า สีตา บิดเบี้ยว เหยเก ไม่ก็ต้องกัดฟัน กัดปาก ไปตามเรื่อง ตามราว แต่หลังจากนั้น...อีกไม่นาน!!! ไม่ว่ารายไหนต่อรายไหน มักจะลืมๆ ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด รวดร้าวใดๆ ต่อไปอีกแล้ว หันมาวิ่งเล่น วิ่งไล่ กันกลางสนาม โฉบไป-โฉบมาใกล้ๆ นักเรียนหญิง พอให้เกิดเสียงวี้ดๆ ว้ายๆ ก็ยิ่งรื่นเริง บันเทิง ยิ่งขึ้นไปใหญ่...

                                                                                                            (4)

            คือ ความเป็นเด็ก นั้น...มันอาจดีไปอย่าง คือไม่ต้องเสียเวลา คิดมาก หรือคิดอะไรให้มันซับซ้อน ซ่อนเงื่อน  จนอาจเกิดอาการ ประสาท เอาง่ายๆ แบบบรรดาพวก  ผู้ใหญ่ ทั้งหลาย โดยเฉพาะในช่วงนี้ หรือช่วงที่ต้องวอล์ก-อิน วอล์ก-เอาต์ ออกไปฉีดวัคซีนป้องกันท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 กันคนละเข็ม-สองเข็ม จึ๊ก-สองจึ๊ก อะไรประมาณนั้น  ที่ดูเหมือนว่า...ยังคงเถียงๆ กันไม่จบ ตั้งแต่ ฉีดดี-ไม่ฉีดดี ไปจนถึง ฉีดอะไร-ไม่ฉีดอะไร เซินเจิ้น-ไม่เซินเจิ้น ไฟเซอร์-หรือไฟเซ่อ ไปจนกระทั่งลุกลาม ลามปาม แกว่งปากหาเท้าไปถึงขั้น วัคซีนเจ้านาย เอาเลยถึงขั้นนั้น...

                                                                                                            (5)

            ซึ่งสุดท้าย...คงต้อง รับกรรม หรือ รับผลแห่งการกระทำ กันไปในแต่ละรูป แต่ละแบบ นั่นแหละทั่น!!! ทำไงได้...เมื่อดันไปคิดมาก หรือคิดเล็ก-คิดน้อย ก็แล้วแต่ ต่างไปจากบรรดาหนูเล็กๆ และเด็กๆ ทั้งหลาย อย่างที่ยกตัวอย่างไปแล้วเมื่อครั้งอดีต ที่ไม่ว่าจะเจ็บ-ไม่เจ็บ ปวด-ไม่ปวด หรือไม่ เพียงใด ก็ตามที เดี๋ยวเดียว...ก็ออกมาร่อนไป-ร่อนมา วิ่งเล่น-วิ่งไล่ สนุกสนาน บันเทิง เริงรมย์ กันไปตามประสาเด็กๆ ไม่ต้อง ผูกติด กับ อารมณ์-ความรู้สึก ประเภทที่ทำให้เรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่อง ต้องกลายเป็นเรื่อง-เป็นราว กันจนได้...

                                                                                                                        (6)

            แต่สำหรับ เด็กยุคนี้ จะต่างไปจากเด็กเมื่อยุค 50-60  ปีที่แล้ว แบบไหน อย่างไร ก็ยากที่จะสรุปได้ แต่เท่าที่เฝ้าสังเกต สังกา อยู่ห่างๆ ดูเหมือนว่า ความเป็นเด็ก แบบเมื่อครั้งอดีต นับวัน...มันอาจถูก ทำลาย ถูก ขจัดกวาดล้าง โดยบางสิ่ง บางอย่าง ทำให้เกิดอาการแก่แดด-แก่ลม ก่อนวัยอันควร จนอาจส่งผลให้เกิดอาการคิดมาก คิดเล็ก-คิดน้อย คิดซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ออกอาการ ไม่ธรรมชาติ หรือไม่ได้สนุกสนาน ร่าเริง บันเทิง เพราะการไม่คิดจะ ผูกติด สิ่งที่เป็น อารมณ์-ความรู้สึก ของตัวเอง เอาไว้กับสิ่งหนึ่ง สิ่งใด จนเกินไป ชนิดอาจจ่อมจมไปกับสิ่งนั้นๆ หรือเกิดอาการโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาท ริษยาและชิงชัง จนน่ากลัว น่ากังวลใจ และน่าตกใจ ยิ่งเข้าไปทุกที...

                                                                                                            (7)

            โดยที่ไอ้บางสิ่ง บางอย่าง ที่ว่า...คงหนีไม่พ้นไปจากสิ่งที่เรียกกันว่า เทคโนโลยี ทั้งหลายนั่นแล ที่ทำให้นิ้วหัวแม่โป้งต้องโป่งกันตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เอาแต่ก้มหน้า จ้องอยู่กับจอเล็กๆ ใน มือถือ หรือใน อินเทอร์เน็ต ก็แล้วแต่ ชนิดเผลอๆ...อาจมองไม่เห็นท้องฟ้า ดวงดาว ป่าเขา ลำเนาไพร  หรือมองไม่เห็น ธรรมชาติ ว่ามีความสำคัญ หรือมีความยิ่งใหญ่ เกรียงไกรเพียงใด คุณประโยชน์ของ ความเป็นเด็ก ในบางเรื่อง บางด้าน ที่ขนาดระดับ พระเยซูคริสต์ ท่านถึงกับยกย่องให้เป็น คุณสมบัติ สำหรับผู้ที่สามารถ เข้าสู่ประตูสวรรค์ เอาเลยถึงขั้นนั้น นั่นคือ ความบริสุทธิ์ ความสดใส ร่าเริงและยินดี มันจึงออกจะหายเกลี้ยงไปจากเด็กยุคใหม่ รุ่นใหม่ อย่างน่าห่วง น่าวิตกกังวล มิใช่น้อย อะไรต่อมิอะไรที่ถูกสาดซัดออกมาจาก โลกเสมือนจริง ในทุกวันนี้   มันจึงออกจะน่ากลัว น่าหวาดหวั่นขวัญสยอง ในระดับทั่วทั้งสังคมเอาเลยก็ว่าได้....

                                                            --------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"