มองโลกให้สวยๆ เข้าไว้ก่อน


เพิ่มเพื่อน    

             

             (1)                                                         

                จะท่วมกันในระดับปี 54 หรือไม่? อย่างไร? เห็นยังเถียงๆ กันอยู่ในเว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์ ซึ่งมีแต่ทำให้ ปวดหัว หนักขึ้นไปอีก เพราะเมื่อลองย้อนคิดดูอีกที ถึงจะหนักหนา-สาหัส ระดับปี 54 ถ้าหาก ใจ มันยังนิ่งๆ ยังสบายๆ มันก็อาจไม่ถึงกับน่าหงุดหงิด งุ่นง่าน กันซักเท่าไหร่นัก เผลอๆ...อาจเป็นอะไรที่ชิลๆ ที่โรมันคาทอลิก ไปซะอีกต่างหาก...

                  (2)                                                                             

                คือด้วยเหตุเพราะความ หูแหก-ตาแหก ช่วงปี 54 ที่มักหยิบมาพูดๆ กันในช่วงนี้ เลยทำให้ต้อง เผ่น ไปไกล ไปตั้งหลักแถวๆ อ่างศิลา แถวๆ จังหวัด ชลบุรี โน่นเลย ต้องไปเช่าห้อง เช่าโรงแรม พักกันเป็นอาทิตย์ๆ เป็นเดือนๆ เสียเงิน-เสียทอง กันไปมิใช่น้อย แต่ก็นั่นแหละ...ตามประสาผู้ที่ไม่ค่อยได้เที่ยว-เทียวไกล สองขาพาไป บ่มัวบ่เมา เขลาขลาด เหมือนอย่างคนอื่นเขา การร่อนเร่พเนจร หนีน้ำ กันเป็นเดือนๆ ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากการได้ออกจาก ถ้ำ ได้ออกไปเปิดหู-เปิดตา ได้เห็นอะไรต่อมิอะไรที่พอช่วยให้เกิดความเป็นไปในแบบ โทษหลายกลายแก้แปรปรวน-เจือจุนคุณควร-เพราะเหตุที่เที่ยวเทียวเดิน อะไรประมาณนั้น...

                   (3)

                                                                        คืออย่างน้อย...ต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า การตื่นเช้า (สาย) ขึ้นมา พร้อมกับได้เจอ อาหารเช้า หรือประเภทที่เรียกกันว่า เบรกฟาสต์ อะไรทำนองนั้น ตามรีสอร์ต หรือตามโรงแรมต่างๆ มันออกจะเป็นอะไรที่ต่างไปจากมื้ออาหารเช้าที่บ้านอยู่ตามสมควร แม้ว่าจะสามารถปรุง สามารถลอกเลียนแบบไม่ถึงกับยากเท่าไหร่ ประเภทไข่ดาว ฮอตดอก เบคอน ขนมปัง ฯลฯ ที่เอามาปิ้งๆ ทอดๆ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แต่โดยอารมณ์-ความรู้สึก หรือโดยการทอด การปิ้ง ที่มันอาจผิดแผก แตกต่าง กันไปแบบไหน อย่างไร ก็มิอาจทราบได้ มันเลยทำให้ความ อร่อยฉิบหาย ออกจะฉิบหายมาก ฉิบหายน้อยต่างไปจากกันอยู่มั่ง หรือทำให้ความปลอดโปร่ง โล่งสบาย ความรีแล็กซ์ มันไม่ได้เหมือนกัน ด้วยกัน ไปซะทั้งหมด...

                   (4)                                                               

                ยิ่งได้เจอกับ ไข่ดาว ประเภทยังมีน้ำขลุกขลิก สามารถเอาขนมปังมากวาดไป-กวาดมาพร้อมๆ กับน้ำซีอิ๊ว ตามด้วยกาแฟดำรสเข้มๆ ก่อนล้างปากด้วย น้ำส้มคั้น ที่เย็นฉ่ำเข้าไปถึงปอด ถึงลำไส้ ยิ่งเป็นอะไรที่ทำให้การ หนีน้ำ เที่ยวนั้น ออกจะโรมันคาทอลิก โรแมนติก ไม่ถึงกับซาดิสต์ มาโซคิสต์ มากมายซักเท่าไหร่นัก ยิ่งช่วงมื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น ได้นั่งละเลียดอยู่กับก้ามปู ก้ามกุ้ง จิ้มพริกน้ำส้ม น้ำปลาพริก ขณะมองออกไปในความเวิ้งว้างของชายหาด ชายทะเล สวนทางกับลมอ้าวๆ ที่โบกสะบัดพัดวีเข้ามาอย่างเป็นระลอก หัวสมองก็เลยเลิกคิด เลิกหมกมุ่น เลิกผูกพยาบาทต่อการกระทำใดๆ ก็ตาม ของคุณน้อง นารีขี่ม้าขาว ไปโดยปริยาย เกิดความรู้สึกถึงความเป็น เพื่อนร่วมวัฏสงสาร เข้ามาแทนที่...

                  (5)                                                                  

                หรือเพราะโดยการได้พบ ได้สัมผัส กับ ธรรมชาติ ท่านนั่นแหละ...ที่น่าจะมีส่วนทำให้บรรดาความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาท ริษยาและชิงชัง หรือแม้แต่ความรัก ความลุ่มหลง ความคลั่งไคล้ ต่อสิ่งหนึ่ง-สิ่งใด บุคคลหนึ่ง-บุคคลใด มันค่อยๆ ถูกทำให้ละลาย กลายสภาพ แปรสภาพ ไปสู่ ความเป็นเช่นนั้นเอง หรือ ความเป็นพรรค์นั้นแหละ อันเนื่องมาจาก เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ของแต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง แต่ละบุคคล ย่อมผิดแผก แตกต่าง หรือย่อมไม่มีวันเหมือนกัน ไปในทุกเรื่อง ทุกกรณี อยู่แล้วแน่ๆ บทสรุปสุดท้าย...ของทุกสิ่ง ทุกอย่าง เลยต้องเป็นไปตามแบบฉบับ ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป นั่นแล...

                  (6)                                                                                

                ไม่ต่างอะไรจากการหมุนเวียน เปลี่ยนผัน ของสรรพสิ่งต่างๆ ใน ธรรมชาติ นั่นเอง...ด้วยเหตุเพราะการมีอยู่ของสิ่งหนึ่งๆ ย่อมก่อให้เกิดความผูกพัน โยงใย เกิดผลกระทบไปยังอีกสิ่งหนึ่ง สิ่งใด อันทำให้สิ่งนี้-สิ่งนี้...ต้องเป็นไปตามความมีอยู่ของสิ่งนั้นๆ อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ แต่ไม่ว่าจะหมุนเวียน เปลี่ยนผัน ไปในลักษณะไหน สุดท้าย...ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมหนีไม่พ้นต้องตกอยู่ภายใต้ กฎเหล็กแห่งธรรมชาติ อีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ...อะไรก็ตามที่ เกิดขึ้น และ ตั้งอยู่ ย่อมเป็นอันต้อง ดับไป ไม่ว่าวันหนึ่ง วันใด จังหวะหนึ่ง จังหวะใด ตาม กฎอนิจจะลักษณะ ที่ใครก็ไม่รู้? หรืออะไรก็ไม่รู้? จัดวางเอาไว้ กำหนดเอาไว้ ตั้งแต่ยังไม่มีโลก ไม่มีจักรวาล เอาเลยก็ไม่แน่!!!

                  (7)                                                                    

                ด้วยเหตุนี้...กะอีแค่น้ำท่วม ท่วม-ไม่ท่วม โควิด-ไม่โควิด หรือกระทั่งบิ๊กตู่-ไม่บิ๊กตู่ ฯลฯ จึงออกจะเป็นอะไรที่ หีดหุ้ย ซะเหลือเกิน เป็นอะไรที่ผ่านมา-แล้วผ่านไป เป็นอะไรที่เป็นไปตามเงื่อนไข-เหตุปัจจัย ของแต่ละห้วง แต่ละระยะ แต่ละฉากสถานการณ์ ที่ต่างก็วนไป-วนมาอยู่ภายใต้ กฎเหล็กแห่งธรรมชาติ หรือ กฎอนิจจะลักษณะ ไปด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น...ไม่ว่าอะไรจะเกิด-ไม่เกิดนับแต่นี้ต่อไป อย่างมาก...ก็อาจถือเป็นช่วงเวลาแห่งการปรับรส ปรับลิ้น ปรับบรรยากาศไปสู่การเปลี่ยนที่รับประทานอาหารเช้า กลางวัน เย็น ไปตามสภาพนั่นเอง...

                                             --------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"