ชาวบ้านผวาโรงงานผลิตถุงมือยางพบผู้ติดเชื้อพุ่ง ร้านของชำใกล้เคียงแห่ปิดชั่วคราว


เพิ่มเพื่อน    

29 พ.ค.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลตรัง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรัง ได้เดินทางทำการตรวจหาเชื้อ (SWAP) จากโพรงจมูกและคอ พนักงาน ในโรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สาขาตรัง) ตั้งอยู่ริมถนนสายบางหมาก-สนามบินตรัง พื้นที่ ม.6 บ้านบางหมากน้อย ต.ควนธานี อ.กันตัง เป็นโรงงานผลิตถุงมือยางส่งออกรายใหญ่ของ จ.ตรัง หลังมีผู้ติดเชื้อยืนยันรวมทั้งหมดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) จำนวน 39 ราย

โดยวันนี้มีการหาเชื้อเพิ่มอีกประมาณ 500 ราย และพรุ่งนี้ 30 พ.ค.อีก 50 ราย ท่ามกลางบรรยากาศพนักงานทั้งไทย และพม่า เดินทางพร้อมแบกกระเป๋าสัมภาระเข้าไปยังโรงงานฯ เพื่อคัดกรองตรวจหาเชื้อ และใช้โรงงานเป็นสถานที่กักกันตัวจนกว่าจะครบกำหนด 14 วัน ซึ่งทางพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงงานได้กันสื่อมวลชนเข้าไปในพื้นที่ รวมทั้งห้ามบันทึกภาพด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะถ่ายจากภายนอกโรงงานก็ตาม

ขณะเดียวกันบริเวณละแวกใกล้เคียงโรงงานฯ ซึ่งมีสถานประกอบการร้านค้าจำนวน 6 แห่งพากันปิดร้านอย่างมิดชิด และไม่มีใครเข้ามาใช้บริการ โดยทางชาวบ้าน กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ต่างอยู่ในอาการวิตกกังวล ป้องกันแน่นหนา

นายสิทธิชัย อุสหกรรม อายุ 56 ปี พ่อค้าร้านของชำ กล่าวว่า ตนปิดร้านมา 3 วันแล้ว หลังจากมีพนักงานในโรงงานติดเชื้อแล้วตนรู้สึกกลัวมาก เพราะส่วนใหญ่ พนักงานมาใช้บริการร้านค้าแถวนี้ทั้งหมด ตนก็รู้สึกกลัวว่าจะมีเชื้อติดมาถึงตนจึงต้องปิดกิจการไประยะหนึ่งก่อน มีคนบอกว่าจะมีการตรวจเชื้อกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า แต่ไม่รู้มาจริงหรือเปล่า แต่ที่ผ่านมาก็มีการฉีดพ้น ฆ่าเชื้อบ้างอาทิตย์ละ 3 ครั้ง หลังจากทราบข่าวทางร้านค้าของเราก็ได้รับผลกระทบเพราะไม่ได้ขายของ เราก็ไม่มีรายได้จากทางอื่นด้วย ส่วนตัวก็ไม่ได้รังเกียจผู้ติดเชื้อ เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เป็นตนไม่รู้ว่าใครติดบ้างจึงต้องปิดร้านไปก่อน

นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า พื้นที่ตรงนี้ถือว่าเป็นพื้นที่สีแดง และอันตรายไปแล้ว ตนก็ไม่รู้จะหาหน่วยงานไหนหรือปรึกษาใครแล้ว อยากให้มีการเยียวยาหรือให้คำปรึกษาเบื้องต้น ตนไม่รู้จะหาอะไรกินอย่างไร หากจะออกไปข้างนอกเกรงว่าตัวเองจะนำเชื้อไปหาคนอื่น เพราะตนไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อหรือไม่ ตนยังไม่ได้ตรวจและยังไม่มีหน่วยงานไหนมาตรวจก็อยากได้รับการตรวจเชื้อบ้าง

ด้านนางช่อทิพย์ เพชรประสิทธิ์ อายุ 47 ปี แม่ค้าร้านของชำ กล่าวว่า ตนรู้สึกกลัวและตอนนี้ก็ได้รับผลกระทบมาก ที่บ้านเรามีผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว รวมถึงเด็กด้วย ก็อยากขอความช่วยเหลือให้มีการเยียวยา หรือดูแลเราด้วย ตอนนี้เราอยู่อย่างโดดเดี่ยวและผวากัน ตนก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีเชื้อหรือไม่ ออกไปอาจทำให้ใครรังเกียจได้ ตอนนี้ก็รอว่าจะมีหน่วยงานไหนเข้ามาเยียวยาดูแลเราหรือไม่ อยากให้เจ้าของโรงงานเข้ามาช่วยเหลือกับชาวบ้านบ้าง ร้านค้าละแวกนี้มีอยู่ 6 ร้าน ก็ปิดกันหมด อยากให้มีการพ้นยาฆ่าเชื้อ ถือว่าเราก็ได้รับผลกระทบมากก็ต้องมีการเยียวยาด้วย เพราะหลังจากเกิดเรื่อง 3 วัน ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหน หรือคนในโรงงานฯเข้ามาประสานอะไรมาเลย ตนทำได้แค่ปิดบ้านเงียบทุกวันดูแลกันเอง โดยละแวกนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นญาติพี่น้องกันไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ตนเองก็กลัว

ขณะที่ นายต้น (นามสมมุติ) พ่อพนักงานในโรงงาน กล่าวว่า วันนี้ตนพาเสื้อผ้ามาส่งให้ลูกชายซึ่งกำลังตรวจหาเชื้อในโรงงาน ทราบมาว่าหลังตรวจเชื้อเสร็จก็จะกักตัวไว้ 14 วันตนก็รู้สึกกลัว แต่ตอนนี้ทางลูกชายก็ไม่ได้มีอาการป่วยแต่อย่างใด ก็อยากให้ทุกคนป้องกันตัวเองไว้ก่อน ไปไหนมาไหนใส่แมสก์

ล่าสุด ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 37 ราย เป็นแรงงานข้ามชาติ สัญชาติเมียนมา 8 ราย คนไทย 29 ราย ติด 1 ใน 10 อันดับของประเทศไทย ทำยอดคลัสเตอร์บริษัทถุงมือยางเพียง 2 วัน พบผู้ติดเชื้อแล้ว 76 ราย ยอดป่วยสะสมจ.ตรังพุ่งพรวด 381 คน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"