อบต. จี้ผู้ว่าฯตรัง สางปัญหาไทรยักษ์ล้มทับอาคารเรียนยังซ่อมไม่ได้ ทำเด็กไร้ที่เรียน


เพิ่มเพื่อน    

1 ต.ค.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีอาคารเรียนนักเรียนอนุบาลโรงเรียนทุ่งไทรทอง ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ถูกต้นไทรยักษ์ ล้มทับจนพังเสียหาย เมื่อวันที่ 13 ต.ค.63 ที่ผ่านมา ทำให้ในขณะนั้นนักเรียนต้องไร้ที่เรียน คณะครูต้องย้ายนักเรียนไปเรียนภายในห้องสมุดซึ่งมีพื้นที่คับแคบ และแออัด มาประมาณ 1 เทรม จนกระทั่งมีการหยุดการเรียนภายในโรงเรียนไปเนื่องจากสถานการณ์โควิด และทำให้ทางโรงเรียนหวั่นว่าหากมีการเปิดการเรียนการสอนตามปกติ นักเรียนชั้นอนุบาลเหล่านั้นจะไม่มีที่เรียน  และจำใจต้องแออัดอยู่ในห้องสมุดเช่นเดิม

เนื่องจากอาคารดังกล่าวยังคงไม่ได้มีการซ่อมแซมแต่อย่างได โดยทางโรงเรียนชี้แจงว่าอาคารดังกล่าวไม่ได้เป็นทรัพย์สินของโรงเรียน เพียงแค่อยู่ในที่ดินของโรงเรียน แต่อ้างว่าเป็นของ อบต.สุโสะ จนนำมาสู่ปัญหาในความซับซ้อนของพื้นที่และงบประมาณ หลังปรากฏเป็นข่าว นายเอกชัย สุนทร นายอำเภอปะเหลียน ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหา พร้อมสั่งการให้ทาง อบต.สุโสะ จัดสรรงบประมาณซ่อมแซมเร่งด่วน จำนวน 130,000 บาท เข้ามาซ่อมแซม ให้เด็กนักเรียนได้มีโอกาสได้ใช้ทันในการเปิดเรียนตามปกติ และมีการรับปากเพื่อดำเนินการแก้ไขโดยทันที เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา 

ล่าสุดนายสมคิด รองเดช นาย อบต.สุโสะ คณะผู้บริหาร (ขณะนั้น) พร้อมด้วย  นายเด่นทยา วุ่นแก้ว ปลัด อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ อบต.ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก โดยนายสมคิด กล่าวว่า หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าว ทาง อบต.จึงได้มีการไปรื้อเอกสารเพื่อตรวจสอบประวัติของตัวอาคารดังกล่าว จนทำให้กระจ่างว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2546 ทาง กรมการพัฒนาชุมชน หรือ พช. ได้มีการถ่ายโอนศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จากกระทรวงมหาดไทย ให้กับ อบต. หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแล โดยมีการถ่ายโอนตัวอาคาร ครุภัณฑ์ นักเรียน และคณะครู ซึ่งทาง อบต.สุโสะ ได้รับมาทั้งหมดจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าเทศ , บ้านท่าคลอง , บ้านในทอน และบ้านทุ่งไทรทอง แต่ได้รับการถ่ายโอนตัวอาคารมาเพียง 1 แห่ง คือ ศพด.บ้านท่าเทศเท่านั้น

นายสมคิด กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นจำนวน 3 แห่งไม่ได้รับการถ่ายโอนตัวอาคาร ได้รับมาเพียงแค่ครุภัณฑ์ ซึ่ง 1 ใน 4 ก็คืออาคารภายในโรงเรียนทุ่งไทรทองที่เกิดปัญหาอยู่ ซึ่งทาง อบต.ก็ได้มีการประกาศยกเลิกใช้งานอาคารทั้ง 4 อาคารไปทั้งหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2559 เนื่องจากอาคารดังกล่าวไม่มีความคงทน ถาวร และมีการก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อบต.แห่งใหม่ 

นายสมคิด กล่าวต่อไปว่า ทำให้ทาง อบต.หวั่นว่าหากดำเนินการนำงบประมาณจำนวน 130,000 บาท ไปทำการซ่อมแซมอาคารดังกล่าวตามคำสั่งที่นายเอกชัย สุนทร นายอำเภอปะเหลียนสั่งการมา อาจจะทำให้ขัดต่อระเบียบของทางราชการ จนอาจนำมาสู่การถูกเรียกเงินคืนจากทาง สตง. และมีความผิดหรือไม่ เนื่องจากเคยมีกรณีตัวอย่างเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วในจังหวัดอื่น จนทำให้ขณะนี้ขอชี้แจงว่า ทาง อบต.ไม่สามารถดำเนินการซ่อมแซมใดๆ กับตัวอาคารดังกล่าวได้

นายสมคิด กล่าวอีกว่า จึงอยากฝากสื่อมวลชนสอบถามไปยัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง ท้องถิ่นจังหวัด นายอำเภอ และ สตง.ในกรณีเกิดกรณีเช่นนี้ ซึ่งมีความคลุมเครือในการถ่ายโอนทรัพย์สิน สามารถยืนยันได้หรือไม่ว่าทาง อบต.สามารถดำเนินการซ่อมแซมได้ โดยให้ยืนยันผ่านมาเป็นหนังสือ ทาง อบต.จึงสามารถซ่อมแซมให้ได้ หาก อบต.ซ่อมแซมลงไปและมีความผิดตามมา ผู้ว่าฯ ท้องถิ่น หรือนายอำเภอ คนใดจะออกมาปกป้อง อบต.หรือไม่ 

เบื้องต้นอาคารดังกล่าวน่าจะยังคงเป็นทรัพย์สินของทางกรมการพัฒนาชุมชน หรือ พช. ซึ่งเป็นอาคาราชพัสดุ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจในการพิจารณา เพื่อที่จะดำเนินการ หรือสั่งการให้หน่วยงานใดมีการปรับปรุงซ่อมแซม หรือถ่ายโอนตรงมาให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรังเขต 1 กระทรวงศึกษาธิการ หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เพื่อที่จะจัดสรรงบประมาณมาซ่อมแซมได้ถูกต้องตามระเบียบราชการ ให้เด็กนักเรียนมีอาคารได้ศึกษาเล่าเรียนหลังที่มีการประกาศให้จัดการเรียนการสอนตามปกติ ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"