'ผู้นำฝ่ายค้าน'จั่วหัวเฉ่ง'บิ๊กตู่'จัดงบล้มเหลว! ไล่ลาออกคืนความสุขปชช.


เพิ่มเพื่อน    

31 พ.ค. 64 - ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.30 น. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 ว่า สิ่งที่เห็นจากร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 เหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อยู่คนละโลกกับประชาชนเจ้าของประเทศ ไม่อยู่บนโลกความเป็นจริง เพราะความเป็นจริงที่ทุกคนเผชิญอยู่ในขณะนี้ ประชาชนลำบากแสนสาหัส แต่รัฐบาลกลับวางแผนจัดงบประมาณปี2565 ราวกับประเทศอยู่ในภาวะปกติ สะท้อนความล้มเหลว หละหลวมในการบริหาร 

นายกฯไม่ได้ยินเสียงประชาชนที่เดือดร้อน หรือมีศักยภาพการบริหารจัดการได้เท่านี้ ไม่สนใจประเทศจะเสียหายอย่างไร ขอให้ยังรักษาอำนาจผลประโยชน์พวกพ้อง ที่ผ่านมารัฐบาลวนเวียนกับความปลาบปลื้มในการควบคุมโรคระบาดได้ดี แต่อีกด้านกลับมืดบอด มองไม่เห็นความเดือดร้อนจากการพังทลายของภาคธุรกิจที่จมน้ำตายต่อหน้าต่อตา เป็นรัฐบาลที่ตัดสินใจผิดพลาดอย่างมากเท่าที่เคยมีมา โดยเฉพาะความผิดพลาดเรื่องวัคซีน ที่ประชาชนไม่สามารถเลือกวัคซีนที่ตนเองคิดว่าปลอดภัยที่สุด การกระจายวัคซีนที่ไม่หลากหลาย ไม่รวดเร็ว ไม่ทั่วถึง สะท้อนการไร้ศักยภาพของผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์ ไม่มีแผนการรับมืออย่างเป็นระบบ ล้มเหลวไม่เป็นท่า คนไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงที่สุด เศรษฐกิจเสียหายกว่า 1 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มจมดิ่งต่อไป

“ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 ไม่อาจยอมรับให้ผ่านได้ใน 4ประเด็น คือ 1.เป็นงบประมาณที่ไม่จัดลำดับความสำคัญของปัญหา ไม่บรรเทาความเดือดร้อน ที่เห็นได้ชัดเจนคือ จัดงบให้กระทรวงกลาโหมมากที่สุด มากกว่ากระทรวงสาธารณสุขเกือบ 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่งบกระทรวงสาธารณสุขถูกปรับลดเป็นครั้งแรกในรอบ 12ปี ถึงกว่า 4,000ล้านบาท ทั้งกรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถาบันวัคซีน หน่วยงานที่เกี่ยวกับการควบคุมโควิด  เช่น การคัดกรอง การจัดหาชุดตรวจ และการบริหารจัดการวัคซีน ถูกตัดในช่วงเวลาที่ประเทศมีความจำเป็นสูงสุดด้านสาธารณสุข แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณอย่างเต็มที่” นายสมพงษ์ ระบุ

2.ไม่คำนึงถึงปัญหาทุกข์ร้อนประชาชน ในสภาวะที่ประเทศต้องการสวัสดิการดูแลชีวิตประชาชน แต่งบประมาณกระทรวงพัฒนาสังคมฯ กระทรวงแรงงาน ถูกตัดลดลงอย่างมาก รัฐบาลใจดำกับประชาชน  3.ไม่มีวิสัยทัศน์ ขาดการคิดวางแผนงบประมาณในการวางโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเตรียมให้ประเทศออกจากวิกฤต เช่น การฟื้นฟูส่งเสริมกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี และ4.สะท้อนถึงความอ่อนด้อยการบริหารจัดการ ไม่ทำให้เกิดความเชี่อมั่น จะก้าวพ้นวิกฤตในอนาคตได้  จัดงบปี 2565 ชนเพดาน กู้ชดเชยขาดดุลเพิ่มไม่ได้อีกแล้ว ไม่รู้จักหาเงินเข้าประเทศ รู้จักแต่การกู้ นำมาใช้แบบไม่ก่อให้เกิดรายได้ งบประมาณประเทศที่ถูกจัดอย่างไร้ยุทธศาสตร์ ไม่อาจยอมรับให้ผ่านสภาฯได้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเสียสละตนเอง ลาออกคืนความสุขให้ประชาชน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"