อนาคต’ศุลกสถาน’เปิดมุมมองคุณค่าประวัติศาสตร์


เพิ่มเพื่อน    

 

 

             โรงภาษีร้อยชักสาม หรือกลุ่มอาคารศุลกสถาน เป็นอาคารริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทรงคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมที่ยืนหยัดมากว่า 137 ปี สถานที่เก่าแก่แห่งนี้อยู่ระหว่างการรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของอาคารให้คงอยู่กับพื้นที่ต่อไป มีการปรับปรุงศุลกสถานครั้งใหญ่ ก่อนเผยโฉมความโอ่อ่างดงามสู่สายตาคนไทยและคนทั่วโลกอีกครั้ง โดยล่าสุด นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร (ศก.) พร้อมด้วยนายอรุณศักดิ์ กิ่งมณี รองอธิบดี ศก. และ นายเจษฎา ชีวะวิชวาลกุล ผู้อำนวยการสำนักสถาปัตยกรรม ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบความคืบหน้าโรงภาษีร้อยชักสามแห่งนี้

              สืบเนื่องจากที่กรมศิลปากรได้อนุมัติให้กรมธนารักษ์ โดยกิจการร่วมค้า ประกอบด้วย บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท อามันรีสอร์ท เซอร์วิสเซส ลิมิเต็ด และบริษัท ซิลเวอร์ลิงค์ รีสอร์ทส์ ลิมิเต็ด ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ราชพัสดุ แปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสาม บริเวณกลุ่มอาคารศุลกสถาน ตามที่ได้มีการเสนอรูปแบบรายการ เพื่อพัฒนากลุ่มอาคารศุลกสถานดังกล่าว ให้เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม Custom House Hotel ภายใต้แนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงการรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของอาคารให้คงอยู่กับพื้นที่

       อาคารคลาสสิกในย่านเจริญกรุงที่ยังคงสภาพเหมือนอดีต เป็นโบราณสถานที่กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดขอบเขตที่ดิน   ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2545   ประวัติเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2427 มีอาคารไปรษณียาคาร และอาคารภาษีขาเข้า-ขาออก เมื่อกิจการภาษีเจริญขึ้นจึงได้มีการกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตปลูกสร้างอาคาร “ศุลกสถาน” (Custom House) โดยเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2429 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2433 และได้ใช้เป็นที่ทำการเรื่อยมาจน พ.ศ. 2492 นับเป็นเวลากว่า 60  ปี จนเมื่อมีการเปิดท่าเรือทันสมัยแบบสากลที่ท่าเรือคลองเตย จึงย้ายที่ทำการไปอยู่ที่คลองเตยจนปัจจุบัน

       “ กลุ่มอาคารศุลกสถานจึงเป็นโบราณสถานสำคัญ ที่เป็นตัวแทนบอกเล่าประวัติศาสตร์ด้านเศรษฐกิจการคลังของไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ อีกทั้งเทคนิคการก่อสร้างอาคารยังทรงคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม ที่ใช้โครงสร้างแบบพิเศษแบบยุโรป ที่หลงเหลืออยู่ในประเทศไทยเพียงไม่กี่หลัง อย่างอาคารกระทรวงกลาโหมและโรงเรียนอัสสัมชัญ “ นายประทีป กล่าว

            แนวทางการปรับปรุงพื้นที่ประวัติศาสตร์ กรมศิลปากรได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานประกอบด้วย นักโบราณคดี สถาปนิก ภูมิสถาปนิก วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ร่วมรีโนเวทในโครงการดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการอนุรักษ์ที่ถูกต้องเหมาะสมตามหลักการอนุรักษ์แบบสากล และรักษาคุณค่าของอาคารโบราณสถาน ที่อยู่ในสภาพชำรุดตามกาลเวลา

            นายประทีป กล่าวว่า ด้วยสภาพแวดล้อมโดยรอบที่เปลี่ยนไป ทำให้กลุ่มอาคารศุลกสถานอยู่ในระดับต่ำและต้องรับปริมาณน้ำจากที่ไหลมาจากพื้นที่โดยรอบ เบื้องต้นกรมศิลปากรได้อนุญาตให้ กรมธนารักษ์โดยกิจการร่วมค้าฯ ดำเนินการด้านโบราณคดี เพื่อให้ได้ข้อมูลต่าง ๆ มาประกอบในการออกแบบบูรณะกลุ่มอาคารโบราณสถาน เสริมความมั่นคงและยกระดับความสูงของอาคารทั้งสามหลังขึ้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ตามสภาพและข้อจำกัดของแต่ละอาคาร ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและคัดเลือกวิธีดำเนินการที่แตกต่างกันไปในแต่ละจุดค่อยๆ ยกอาคารขึ้นอย่างระวัดระวัง ขณะนี้การดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ

         นายปฏิวัติ ทุ่ยอ้น สถาปนิกชำนาญการ สำนักสถาปัตยกรรม บอกว่า โรงภาษีร้อยชักสามออกแบบโดย โยอาคิม กราซซี (Joachim Grassi) สถาปนิกชาวอิตาเลียน เข้ามาทำงานในสมัยรัชกาลที่ 5 นอกจากศุลกสถาน ยังมีผลงานสำคัญออกแบบกระทรวงกลาโหมที่งดงามลงตัว จุดเด่นของอาคารโรงภาษีร้อยชักสามในปัจจุบัน คือรูปทรง และโครงสร้างแบบพิเศษแบบยุโรป แสดงให้เห็นส่วนฐานของผนังรับน้ำหนักที่มีความหนาก่อด้วยอิฐ ทอนน้ำหนักลดหลั่นกันไปในแต่ละชั้นของอาคาร  เมื่อยกอาคารแห่งนี้เสร็จแล้ว จะส่งเสริมคุณค่าอาคารสำคัญ เราจะเห็นศุลกสถานเต็มอาคารเช่นในอดีต เหมือนในภาพถ่ายสำคัญ เป็นสถานที่ที่ข้าราชการ พ่อค้า และราษฎรเฝ้ารับเสด็จ เมื่อคราวรัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินกลับจากการประพาสทวีปยุโรปเมื่อ พ.ศ. 2450

      “ อาคารแห่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม แต่ไม่ได้เป็นห้องพัก และจะเป็นพื้นที่จัดแสดงประวัติศาสตร์แต่ละยุคสมัย เพราะย่านนี้มีคนหลายเชื้อชาติเข้ามาอาศัย พื้นที่เดิมจากการขุดค้นทางโบราณคดี มีโครงสร้างบ้านเสนาบดีจีนยุค ร.3 และ ร.4  ก่อนจะสร้างตึกใหญ่แทน    ทางกิจการร่วมค้าฯ จะต้องจัดทำรูปแบบรายการในการบูรณะกลุ่มอาคารศุลกสถาน รูปแบบนิทรรศการทั้งเรื่องราวบ้านเสนาบดีจีนและสถาปัตยกรรมโบราณฝีมือกราซซีผ่านหลักฐานต่างๆ ที่นำกลับมาจัดแสดง เพื่อเสนอกรมพิจารณาก่อนจะดำเนินการต่อ “ สถาปนิกชำนาญการกรมศิลป์ย้ำการรีโนเวทต้องเปี่ยมคุณค่าและบันทึกความทรงจำ คุณค่าของอาคารที่ผ่านกาลเวลามาหลายยุคสมัย

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"