วัดไชยวัฒนารามฯ ยังสู้ได้ พิพิธภัณฑ์ฯพิมายกระทบน้ำมูลล้น


เพิ่มเพื่อน    

 

 

     วันที่ 29 ก.ย.นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุดหลังเกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลันในหลายพื้นที่ ซึ่งกรมศิลปากรได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในจังหวัด ปกป้องโบราณสถานสำคัญและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย รายงานพื้นที่แหล่งมรดกโลก ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย, อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ซึ่งอยู่ในพื้นที่บริเวณประเทศไทยตอนบนที่ได้รับอิทธิพลพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมเป็นจำนวนมากและเกิดน้ำท่วมขังรอการระบายภายในบริเวณโบราณสถาน

               นายประทีป กล่าวว่า  ปัจจุบันภาพรวมของสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เนื่องจากปริมาณฝนตกสะสมลดน้อยลงในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย พบว่า มีปริมาณน้ำฝนที่ท่วมขังไม่มากนักรอการระบายออกจากพื้นที่ ส่วนอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรได้รับผลกระทบจากพายุฝน มีต้นไม้บางส่วนล้มทับทำให้โบราณสถานเสียหายเล็กน้อย ได้แก่ แนวกำแพงศิลาแลงวัดพระนอน และป้อมทุ่งเศรษฐีซึ่งมีน้ำฝนที่ท่วมขังรอการระบาย อย่างไรก็ตาม การเดินทางท่องเที่ยวในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ทั้ง 3 แห่ง นักท่องเที่ยวยังคงสามารถเดินทางมาเที่ยวชมโบราณสถานภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ได้ตามปกติ

วัดธรรมาราม อยุธยา

                นายประทีป กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา  ถือว่ามีความเสี่ยงระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อประเมินแล้วพบว่า จะมีผลกระทบกับโบราณสถานที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบริเวณภายในและภายนอกเกาะเมืองทั้งหมด ดังเช่น วัดเชิงท่า วัดธรรมาราม วัดกษัตราธิราชวรวิหาร  วัดไชยวัฒนาราม ป้อมเพชร บ้านโปรตุเกสและบ้านฮอลันดา  ตั้งแต่วันที่ 17  กันยายน ที่ผ่านมา กรมศิลปากรจึงติดตั้งแผงป้องกันน้ำในจุดแรกคือวัดไชยวัฒนาราม เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีระดับต่ำสุด และดำเนินการในโบราณสถานอื่นๆ ตามลำดับ

           ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00  น. ของวันที่  29  กันยายน 2564  เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำท้ายเขื่อน 2,749  ลบ.ม. ต่อวินาที ทำให้ขณะนี้ระดับน้ำสูงกว่าสันเขื่อนแล้วในโบราณสถานบางแห่ง เช่น วัดไชยวัฒนารามและวัดธรรมาราม ในระดับ 30-40  เซนติเมตร อย่างไรก็ตาม แผงป้องกันน้ำของโบราณสถานทั้งสองแห่งสามารถป้องกันน้ำได้ถึงระดับ 2-2.5  เมตร ต่อจากนี้กรมศิลปากรได้มีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด  พร้อมจัดเตรียมกำลังคนและวัสดุอุปกรณ์ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เทศบาลฯ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฯลฯ

                ส่วนผลกระทบจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างเสียหายในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นายประทีป กล่าวว่า วันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ชำรุดของเขื่อนลำเชียงไกรตอนล่าง ทำให้มวลน้ำจำนวนมากเริ่มไหลทะลักลงมายังพื้นที่ท้ายเขื่อน บางส่วนของอำเภอเมือง อำเภอโนนไทย อำเภอโนนสูง อำเภอพิมาย ทำให้เกิดผลกระทบอย่างต่อเนื่องกับโบราณสถาน และแหล่งเรียนรู้ของกรมศิลปากรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลได้เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มเอ่อล้นเข้าในพื้นที่ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย มากขึ้น ทำให้สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ต้องเร่งบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัดและส่วนราชการต่างๆ เพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยระดมเจ้าหน้าที่ทั้งจากสำนักศิลปากรที่ 10  นครราชสีมา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย หน่วยทหารจากกรมทหารช่างที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และจิตอาสาพระราชทาน 904  ชุดปฎิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติ อบต.กระชอนและตำบลชีวาน กว่า 50  ชีวิต เร่งวางแนวกระสอบทรายเพื่อเสริมความสูงของแนวกระสอบทรายบริเวณริมตลิ่งด้านหลังพิพิธภัณฑ์ที่ติดกับแม่น้ำมูล ซึ่งมีระยะทางยาวกว่า 180  เมตร

             ขณะนี้สามารถวางแนวกระสอบทรายได้ที่ความสูงเหนือจากพื้นตลิ่งโดยเฉลี่ยประมาณ 60-70  เซนติเมตร ตลอดแนวความยาวตลิ่ง ทำให้ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำมูลยังอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดของแนวกระสอบทรายประมาณ 30-40  เซนติเมตร นอกจากนี้ ยังทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อคอยสูบน้ำที่ซึมเข้ามาตามแนวท่อ และพื้นของสนามที่อยู่ติดริมแม่น้ำมูล อีก 2 เครื่อง โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมตลอด  24 ชั่วโมง รวมถึงยังมีการเสริมแนวกระสอบทรายเพื่อป้องกันโดยรอบตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ บริเวณทางเข้าออก เตรียมการขนย้ายเอกสาร หนังสือ และสิ่งของสำคัญภายในอาคารพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย

           อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อว่า ด้านอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ขณะนี้สถานการณ์โดยทั่วไปเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ เนื่องจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา สภาพอากาศปลอดโปร่งและไม่มีฝนตก ทำให้ไม่มีปัญหาน้ำท่วมขัง อย่างไรก็ดี ทางอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำประจำจุดเสี่ยงในบริเวณโดยรอบปราสาทพิมาย เพื่อเตรียมการรองรับสถานการณ์หากเกิดฝนตกติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ ยังได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อเตรียมพร้อมและติดตามสถานการณ์ตลอด 24  ชั่วโมง

           อีกจุดหนึ่งที่สำคัญของพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย คือบริเวณประตูเมืองด้านทิศเหนือ หรือประตูผี ซึ่งติดกับคลองคูเมืองพิมาย และแนวของลำน้ำมูลเก่า ทางอุทยานประวัติศาสตร์พิมายได้จัดวางแนวกระสอบทรายสูงประมาณ 60-70  เซนติเมตร ตลอดความยาวแนวประตูเพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้ามาในพื้นที่ของเมืองพิมาย ซึ่งในปัจจุบันระดับน้ำยังคงอยู่ต่ำกว่าแนวกระสอบทรายที่จุดสูงสุดอยู่มาก

           สำหรับโบราณสถานท่านางสระผม และที่ตั้งของสำนักศิลปากรที่ 10  นครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำเค็มทางทิศใต้ของประตูชัย ห่างจากตัวปราสาทพิมายประมาณ 1  กิโลเมตร เหนือขึ้นไปจากจุดที่เป็นที่ตั้งโบราณสถานท่านางสระผม และสำนักศิลปากรที่ 10  นครราชสีมา ประมาณ 500  เมตร เป็นประตูระบายน้ำ

ลำน้ำเค็มของกรมชลประทาน ซึ่งลำน้ำเค็มนี้เป็นลำน้ำสาขาที่เชื่อมต่อกับลำจักราช และแม่น้ำมูล ทำหน้าที่รับน้ำที่ระบายมาจากอ่างลำเชียงไกรล่างที่อยู่ตอนบนเป็นระยะ ทำให้ขณะนี้พื้นที่บริเวณนี้มีความเสี่ยงจากระดับน้ำของลำน้ำเค็มที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา และบางส่วนของโบราณสถานท่านางสระผมก็เริ่มถูกน้ำท่วมบ้างแล้ว  จึงได้เริ่มตั้งแนวกระสอบทรายตลอดแนวอาคารสำนักงาน และบ้านพักเจ้าหน้าที่ รวมถึงเริ่มมีการขนย้ายวัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ ตลอดจนเอกสารต่างๆ ขึ้นที่สูงเพื่อเป็นการระวังป้องกันน้ำที่อาจจะเอ่อล้นตลิ่งขึ้นมาได้ตลอดเวลา พร้อมจัดเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังระดับน้ำอยู่ตลอดเวลา

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"