
28 มิ.ย.64- นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ที่เคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญคู่ขนานกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก และคณะราษฎร 2563 ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Yingcheep Atchanont ระบุว่าคนที่หดหู่ว่า “ไล่ยังไงก็ไม่ไป” อย่าเพิ่งท้อครับ
กลไกที่ คสช. วางเอาไว้ เค้าตั้งใจให้เราท้อ ถ้าเราท้อแล้วถอยก็คือแพ้ไปตามเกมนั้น
เราต่างก็รู้ว่าสาเหตุที่ไม่ว่าจะถูกก่นด่าเพียงใด คนโดนไล่ยังไงก็ไม่ออก ก็เพราะ “ออกไม่ได้” การนั่งอยู่โดนด่านั้นไม่ใช่เพียงผลประโยชน์แต่ยังคงเป็นหน้าที่ หน้าที่ต่อเพื่อนพ้องน้องพี่และสิ่งที่เคยยึดถือ จึงต้องนั่งอยู่เพียงเพื่อขวางไม่ให้อำนาจใหม่เติบโตได้ในประเทศนี้ เพื่อให้ระหว่างนั้นพรรคพวกตัวเองก็เอาทุกอย่างได้สบายไป
และเราก็รู้อีกว่า ยิ่งพวกเขาหวาดกลัวมากเท่าไรพวกเขาจะไม่หันหลังหนีไปแต่จะเกาะกันแน่นมากขึ้นๆ ในเส้นทางนี้เมื่อเขาหวาดกลัวเขาจะทำอะไรผิดๆ โดยไม่สนใจหลักการ ไม่สนใจภาพลักษณ์ ไม่คิดว่าจะฝากอนาคตแบบไหนไว้ให้ลูกหลาน ทั้งแต่งตั้งน้องชายมาเลือกตัวเองเป็นนายกฯ ทั้งเชิดชูรมต.ค้ายา ทั้งไล่จับไล่ฟ้องคนเห็นต่าง
แต่พอเขายิ่งกล้าทำอะไรผิดๆ ก็ยิ่งส่งผลให้เขายิ่ง “พัง” เร็ว ที่เคยรักเคยชอบหรือเคยสนับสนุน หรืออาจไม่ได้ชอบเพียงแค่ต้องการยืมมือเพื่อปกป้องไม่ให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ต่างก็ทยอยถอยห่าง
ชัดเจนว่า เจ็ดปีก่อนมีคนรัก คนชอบ คนทนได้มากกว่านี้ นับถึงวันนี้ยิ่งมีน้อยลงๆ ถ้ารวมพลังได้เรื่อยๆ และเขาออกอาการกลัวมากขึ้น โอกาสก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
คนที่หดหู่ โกรธแค้น อาจอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในเร็ววัน แต่ปรากฏว่าวันนี้มันทำไม่ได้ อาจจะยิ่งเจ็บช้ำเวลาที่เห็นเขากล้าทำอะไรที่มันผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่ามากขึ้น แต่สิ่งนี้ไม่ใช่ความสิ้นหวัง มันเป็นทางออกเลย เพราะทุกความ “พัง” จะส่งผลให้คน “ตื่นรู้” หรือถอยห่างออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเราเขย่าอะไรไปได้เรื่อยๆ ก็ช่วยกระตุ้นเตือนสติคนไปได้มากขึ้นทุกวันๆ คนไทยมีตั้งหลายสิบล้าน แต่ละคนอาจจะมองเห็นได้ คิดได้ จากเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไป ไม่มีอะไรหนึ่งอย่างที่แล้วสำเร็จเสร็จสิ้นได้ทุกเรื่องในไม้เดียว
เราต่างรู้แล้วว่าพวกเขาต้องการอยู่อย่างน้อย 20 ปี
ซึ่งก็อาจนานเท่ากับช่วงชีวิตของพวกเขาที่เหลืออยู่ ดังนั้น ถ้าพวกเขาไปไม่ถึงระยะเวลานั้น ก็คือความพ่ายแพ้ และเค้าไปไม่ถึงแน่ๆ
ไม่ว่าคนจะโกรธแค้นหรือเก้าอี้จะแน่นหนาเพียงใด อีกไม่เกินสามปี พลพรรคผู้ปกป้องทั้ง 250 คนก็จะหมดอายุ และอีกไม่เกินสองปีก็ต้องมีเลือกตั้ง เราพร้อมหรือยังที่จะไปถึงวันนั้น ยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะแยะมากมาย คนรอบตัวรอบข้างที่ยังไม่รู้จะเลือกอะไร ยังพอทนเลือกคนหน้าเก่าไปได้ ก็มีอยู่อีกหลายล้านคน
เก็บเอาความโกรธวันนี้เป็นพลังงาน
ศึกษาข้อมูล มองหาจุดอ่อน ค่อยๆ อดทนรับฟังและพูดคุย ขอร้อง-ร้องขออย่างเป็นมิตรให้คนข้างกายทำเพื่อลูกหลานและอนาคต นี่คือภารกิจ!
ปี 62 มีคนเลือกพรรคที่ “ไม่เอาประยุทธ์” 16 ล้าน คนเลือกพรรคที่ “เอาประยุทธ์” 8 ล้าน ถ้าวันนี้คนสองคนจับมือกันเดินไปชักชวนคนอีกหนึ่งคนให้ไม่เลือกประยุทธ์ ต่อให้ กกต. จะโกง จะเปลี่ยนสูตรคำนวน จะยุบพรรคฝ่ายตรงข้าม วันเลือกตั้งขอคนอีก 90,000 คนไปเฝ้าหน้าคูหานับคะแนน พวกเขาไม่มีทางกลับมาได้
ที่พูดมาทำจริงโคตรไม่ง่าย
แต่ก็ดีกว่าก่นด่าแล้วนอนหดหู่สิ้นหวัง เริ่มทำงานกันได้เลยทุกคน ลงมือวันนี้ มีเวลาให้เรียนรู้กันเกือบๆ สองปี แล้วถ้าพลาดบ้าง เจอเกมการเมืองพลิกผันบ้างก็ไม่เป็นไร อย่าท้อ เริ่มใหม่ ถ้าเรายังมีความหวัง เวลาก็อยู่ข้างเรา ถ้าทุกคนลงมือ ความเปลี่ยนแปลงก็เป็นไปได้
รักษาตัวและใจ ผ่านภาวะร้ายไปด้วยกันนะครับ
ทำงานให้หนัก แล้วให้มันจบในช่วงชีวิตนี้นี่แหละ.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |