ฉีดวัคซีนแตะ10ล. แอสตร้าฯการันตี เข็มแรกภูมิขึ้น1ปี


เพิ่มเพื่อน    

 คนไทยฉีดวัคซีนแตะ 10ล้านโดส ศบค.กำชับเร่งฉีดกลุ่มสูงอายุ-7โรคเสี่ยง จัดสรรเพิ่มให้นครปฐม แอสตร้าฯ ยกผลวิจัยการันตีเข็มแรกสร้างภูมิ 1 ปี ฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ป้องโควิดได้ 3 สายพันธุ์ ส.ส.เพื่อไทยลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีด 17 วัน อ้างเป็นผลข้างเคียง

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์การฉีดวัคซีนในไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-30 มิ.ย. สะสม 9,927,698 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 7,110,854 โดส และเข็มที่ 2 อีก 2,816,844 โดส สำหรับยอดผู้ฉีดวัคซีนวันที่ 30 มิ.ย. พบว่าผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี 12 ล้านคน ทั่วประเทศได้รับการฉีดแล้ว 1.33 ล้านคน คิดเป็น 10.7 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 โรคหลักมี 5.35 ล้านคน ฉีดไปแล้ว 6.8 แสนคน คิดเป็น 12.7 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ในเดือนก.ค. จะมีวัคซีนมาอีก 10 ล้านโดส ขอความร่วมมือให้ทุกสถานที่ฉีดเร่งระดมการฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่ม 7 โรคหลัก นอกจากนี้ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก หารือกันว่า นครปฐมซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม มีประชากร 1,125,349 คน ได้รับเข็มที่ 1 แล้ว 64,104 คน คิดเป็น 5.70% จึงมีการพิจารณาให้จัดสรรมากขึ้น ซึ่งกรมควบคุมโรคได้รับเรื่องไปแล้ว
    บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า จากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดฉบับก่อนตีพิมพ์ในวารสารเดอะแลนเซต ระบุการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า 1 โดส มีผลทำให้ระดับแอนติบอดีในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี การเว้นระยะในการฉีดโดสแรกและโดสที่สองห่างกันนาน 45 สัปดาห์ มีผลกระตุ้นให้ระดับแอนติบอดีในร่างกายเพิ่มขึ้นถึง 18 เท่า เมื่อมีการอ่านค่าแอนติบอดี 28 วันภายหลังการฉีดวัคซีนโดสที่สอง พบว่าระดับแอนติบอดีจากการเว้นระยะระหว่างวัคซีนโดสแรกและโดสที่สองนาน 45 สัปดาห์ มีสูงกว่าระดับแอนติบอดีจากการเว้นระยะห่างระหว่างโดส 12 สัปดาห์ ถึง 4 เท่า บ่งชี้ว่าการเว้นระยะห่างระหว่างโดสที่นานขึ้นไม่ก่อให้เกิดผลเชิงลบ แต่ช่วยกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นได้
    นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ โดสที่สามห่างจากโดสที่สองเป็นระยะเวลา 6 เดือน สามารถกระตุ้นระดับแอนติบอดีให้เพิ่มขึ้นได้ 6 เท่า และส่งเสริมการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ในร่างกาย โดยยังพบว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ โดสที่สาม มีศักยภาพสูงขึ้นในการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อัลฟา (B.1.1.7 หรือสายพันธุ์เคนท์), สายพันธุ์เบตา (B.1.351 หรือสายพันธุ์แอฟริกาใต้) และสายพันธุ์เดลตา (B.1.617.2 หรือสายพันธุ์อินเดีย) ทั้งนี้ การฉีดโดสที่สองซึ่งเว้นระยะห่างขึ้น และโดสที่สาม พบการเกิดอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่ำกว่าการฉีดวัคซีนโดสแรก
    ศาสตราจารย์ เซอร์แอนดริว เจ พอลลาร์ด หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและผู้อำนวยการกลุ่มวัคซีนแห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า ประเทศที่ยังมีวัคซีนในปริมาณน้อยและอาจกำลังกังวลต่อความล่าช้าในการจัดหาวัคซีนโดสที่สองจะมั่นใจและลดความกังวลได้
    วันเดียวกัน นายพีระเพชร ศิริกุล ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงอาการภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังได้รับวัคซีนแอสตร้าฯ ว่าหลังได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. แม้มีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัว ประกอบกับไม่มีโรคประจำตัว จึงเข้าใจว่าเป็นอาการข้างเคียงปกติ จนผ่านมา 17 วัน ระหว่างรอลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐสภา วันที่ 24 มิ.ย. เริ่มมีอาการเจ็บหน้าอกผิดปกติ จึงเข้ารับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากแพทย์พยาบาลสภา และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล จึงทราบว่าเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จึงขอให้ ศบค.สื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจนขึ้นว่าผลข้างเคียงหลังจากรับวัคซีนเข็มแรก สามารถเกิดขึ้นต่อเนื่องได้ถึง 30 วัน และควรให้คำแนะนำในการสังเกตอาการและการปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"