'เมธี'หลุดมือ'จักรทิพย์'กลับไทย


เพิ่มเพื่อน    

 

    "จักรทิพย์" คว้าน้ำเหลว! แอบกลับบ้านมือเปล่า ขณะที่อดีตพระพรหมเมธีได้รับความคุ้มครองจากเยอรมนีตามกฎหมายว่าด้วยผู้ลี้ภัยเป็นที่เรียบร้อย แค่รอลุ้นได้รับไฟเขียวหรือไม่ ขณะที่ "บิ๊กป้อม" ยังเชื่อครบ 3 วันจบเรื่อง ส่วน "พุทธะอิสระ" มีหน้าตาที่สดชื่นขึ้น อยู่ระหว่างการรักษาอาการปวดหลังและเลือดออกในกระเพาะอาหาร 
    ความคืบหน้าคดีเงินทอนวัดและการติดตามจับกุมพระชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง หลังจากรายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำประเทศเยอรมนีคุมตัวอดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ได้ที่สนามบิน ระหว่างเตรียมผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งอดีตพระพรหมเมธีได้ยื่นคำร้องขอลี้ภัยกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประเทศเยอรมนี (ตม.) ทันทีที่เดินทางไปถึง 
    โดยที่ทาง ตม.เยอรมนีได้ส่งคำร้องขอลี้ภัยของอดีตพระพรหมเมธีไปยังสำนักงานผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BAMF) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการรอสัมภาษณ์ ทำประวัติ เเละสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่ยื่นคำขอลี้ภัย โดยที่อดีตพระพรหมเมธีในขณะนี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎเกณฑ์ว่าด้วยผู้ลี้ภัยไปเเล้วนั้น
    ยังมีรายงานอีกว่า สถานะของอดีตพระพรหมเมธี หลังจากได้รับความคุ้มครองตามกฎเกณฑ์ว่าด้วยการลี้ภัยแล้วนั้น จะได้รับความคุ้มครองดูเเลเช่นเดียวบุคคลที่ยื่นคำขอลี้ภัยทั่วไป โดยจะไม่ถูกควบคุมตัว และในช่วง 3 เดือนแรก จะถูกจำกัดเขตพื้นที่ในการเดินทางห้ามเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าหน่วยงานที่รับเรื่องดูแลผู้ลี้ภัยนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ใด แต่ภายหลังจาก 3 เดือนแล้ว อดีตพระพรหมเมธีจะสามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศเยอรมนี
    และในระหว่างพิจารณาคำขอลี้ภัยนี้ ทางการของเยอรมนีจะจัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่ผู้ยื่นคำขอลี้ภัย และจะได้รับใบอนุญาตให้พำนักอยู่ในเยอรมนีเป็นการชั่วคราว โดยที่จะมีทนายความซึ่งเป็นชาวเยอรมันเป็นผู้ช่วยเหลือดูเเลในเรื่องการขอลี้ภัยนี้อยู่ หากคำขอลี้ภัยได้รับการอนุมัติ ในช่วงแรกจะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ในเยอรมนีเป็นเวลา 3 ปีก่อน
    ส่วนการที่อดีตพระพรหมเมธีจะได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยนั้น ขั้นตอนในการสัมภาษณ์มีความสำคัญที่สุด โดยการพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ลี้ภัยหรือไม่ ส่วนใหญ่จะพิจารณาจากการสัมภาษณ์นี้ ซึ่งจะมีล่ามช่วยในการแปลระหว่างการสัมภาษณ์ และมีสิทธิจะขอให้ทนายความชาวเยอรมันร่วมอยู่ในการสัมภาษณ์ด้วยได้ ซึ่งอดีตพระพรหมเมธีจะต้องแสดงเอกสารและพยานหลักฐานให้เห็นว่าถูกกลั่นแกล้ง ถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นเพราะจากมูลเหตุทางศาสนาหรือทางการเมือง หรือจากเหตุอื่นๆ เช่น อดีตพระพรหมเมธีอาจจะอ้างว่าการออกหมายจับ การจับสึกพระผู้ใหญ่โดยไม่ให้ประกันตัวในคดีที่ผ่านๆ มา มาจากความขัดแย้งทางศาสนาและการเมือง ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมเมื่อเปรียบเทียบกับคดีอื่นๆ ที่มีความผิดร้ายแรงกว่าก็ได้
ผบ.ตร.กลับมือเปล่า
    ผู้สื่อข่าวรายงานการเดินทางกลับของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมคณะ ที่บินตรงไปยังนครแฟรงก์เฟิร์ตเพื่อรับตัว อดีตพระพรหมเมธี โดยกำหนดการเดินทางจากนครแฟรงก์เฟิร์ตประเทศเยอรมนี ถึงไทยเช้าวันที่ 7 มิ.ย. 
    ในการเดินทางไปรับตัวอดีตพระพรหมเมธีครั้งนี้ที่ประเทศเยอรมนี สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลพบเส้นทางการหลบหนีของอดีตพระพรหมเมธี พบว่าใช้รถยนต์ตู้อัลพาร์ด ทะเบียน 3 กภ 8672 กทม. เป็นพาหนะจากจังหวัดพิษณุโลกไปหลบซ่อนอยู่ที่วัดป่าสุคนธรักษ์ อ.เรณูนคร จ.นครพนม ก่อนจะข้ามฝั่งไปยังประเทศลาว มีขบวนการช่วยหลบหนี 5 คน เป็นคนไทย 2 คน และชาวลาวอีก 3 คน ข้ามต่อไปยังประเทศกัมพูชา ขึ้นเครื่องบินไปยังประเทศเวียดนาม-กาตาร์ เปลี่ยนเครื่องมุ่งตรงไปยังสนามบินนครแฟรงก์เฟิร์ต แต่ด่านตรวจคนเข้าเมืองตรวจพบหมายจับของทางการไทยที่ประสานไปยังตำรวจสากลให้เฝ้าระวังจับตา และได้รับการประสานงานเป็นบุคคลเป้าหมายที่ต้องการตัว พล.ต.อ.จักรทิพย์ พร้อมคณะฝ่ายกฎหมายบินด่วนเพื่อขอรับตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย
    มีรายงานว่า ทางการไทยได้ประสานขอความร่วมมือกับทางการเยอรมนีเพื่อเร่งรัดให้ขั้นตอนดังกล่าวรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก และมีโอกาสสูงที่คณะของ พล.ต.อ.จักรทิพย์คว้าน้ำเหลวเดินทางกลับมือเปล่า และตามกำหนดเดิม การเดินทางกลับของ พล.ต.อ.จักรทิพย์จะกลับเที่ยวบินที่ TG 921 ที่ออกจากนครแฟรงก์เฟิร์ต เวลา 14.20 น. จะมาถึงสนามบินสวรรณภูมิ เวลา 06.20 น. วันที่ 7 มิ.ย. 
    แต่มีรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์พร้อมคณะเดินทางจากนครแฟรงก์เฟิร์ตด้วยเที่ยวบิน TG 923 เวลา 20.40 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 12.30 น. เมื่อวันพุธแล้ว  
    รายงานระบุว่า เวลา 12.22 น. เที่ยวบินดังกล่าวแลนดิ้ง โดยเที่ยวบินดังกล่าวมี พล.ต.อ.จักรทิพย์,  พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ไม่มีชื่อของอดีตพระพรหมเมธีแต่อย่างใด  
    ทั้งหมดเดินทางออกช่องวีไอพี ซึ่งยังไม่มีใครพบเห็นตัว ผบ.ตร.พร้อมทีมงานแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าจะเดินทางเข้าทำเนียบฯ เพื่อไปรายงานกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่อย่างไรก็ตาม ที่เยอรมนียังคงมี พล.ต.ท.สุทธิพงศ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมทีมงานอีกจำนวนหนึ่ง คอยประสานงานกับเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด 
"บิ๊กป้อม"ยังขอ 3 วัน
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ขอเวลา 3 วัน และสื่อเพิ่งถามเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.นี้เอง เมื่อถามว่า ผบ.ตร.จะเดินทางกลับมาก่อนหรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า ยังไม่กลับ ตอนนี้ก็ยังไม่ครบ 3 วันเลย ส่วนการประสานพูดคุยกับทางการเยอรมนีเรียบร้อยดี เยอรมนีขอเวลา 3 วันเพื่อพิจารณา
    ถามว่ามีเปอร์เซ็นต์สูงหรือไม่ที่จะได้ตัวกลับมา พล.อ.ประวิตรบอกว่า ยังไม่รู้ แต่เราก็ช่วยเหลือเขามาเยอะ เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้ทางการเยอรมนีเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง พล.อ.ประวิตรตอบว่า บอกเขาไปแล้ว 
    ซักว่าเยอรมนีอาจมองว่าเรายังเป็นรัฐบาลทหารอยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ใช่ๆ เขากำลังดำเนินการตามวิธีเขาอยู่ จากเดิมที่จะใช้เวลา 2 เดือน แต่เราขอให้ใช้เวลาแค่ 3 วัน 
     พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า เราต้องรออีกสักระยะหนึ่ง จะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ เพราะ ผบ.ตร.อยู่ตรงนั้นแล้ว ส่วนที่ทางอดีตพระพรหมเมธีไม่ยอมพบกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่เดินทางไปนั้น ไม่เป็นไร ว่ากันไปตามกฎหมาย 
    เขากล่าวถึงความคืบหน้าคดีเงินทอนวัดว่า พศ.ยังไม่มีการรายงานเพิ่มเติม แต่ถ้าพบว่ามีใครเกี่ยวข้อง ให้เดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม ความจริงเรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้เรามองพระสงฆ์ที่น่าเคารพนับถือ ซึ่งยังมีอีกจำนวนมาก ที่ผ่านมาเราเห็นเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำให้เกิดความเสียหาย ศาสนาเสื่อมเสีย ตนอยากเห็นภาพประชาชนเคารพพระสงฆ์ที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับบ้าน ชุมชน หรือพระสงฆ์ที่ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติธรรม ยังมีอีกเยอะมาก อยากให้คิดว่าประเทศเราคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และยังเชื่อมั่นในศาสนาอยู่ จึงอยากให้ทุกคนใช้วิจารณญาณ อย่าเอาคนไม่กี่คนที่ทำให้เสื่อมเสียมาเป็นปัญหา
    ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่พระสงฆ์ที่ทำให้เสื่อมเสียเป็นถึงพระผู้ใหญ่ พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า พระสงฆ์ในประเทศไทยระดับราชาคณะมีเป็นร้อยรูป แต่ที่เราเห็นอยู่ 5-10 คน ที่ทำให้เป็นปัญหา ส่วนที่ดีมีอยู่อีกเป็นร้อยรูป โดยเฉพาะสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีมาก อยากให้ประชาชนได้ดูพระจริยวัตรที่งดงามของพระองค์ แต่เราไปสนใจแต่เรื่องที่ทำให้เกิดความสะใจ 
    นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีทุจริตเงินทอนวัดที่เกิดขึ้น โดยส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนสามารถแยกแยะได้ เพราะการทุจริตที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางคณะสงฆ์ และมีความคืบหน้าทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการทั้งหมด เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมคุณธรรม
ต้องรอทางเยอรมนี
    ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์กรณีที่พระพรหมเมธียื่นขอลี้ภัยหนีคดีทุจริตเงินทอนวัดที่ประเทศเยอรมนีว่า ต้องดูว่าทางประเทศเยอรมนีพิจารณาอย่างไร แต่ตามที่ตำรวจไทยทราบข่าวและเดินทางไปถึงเยอรมนีนั้น ประเทศไทยน่าจะมีความร่วมมือที่ดี การขอลี้ภัยเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายของประเทศเยอรมนีเอง ทางเราคงต้องรอกระบวนการทางนั้น 
    พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงความคืบหน้าอาการป่วยอดีตพระพุทธะอิสระ ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่ ซ่องโจร และปลอมพระปรมาภิไธยว่า ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า อาการป่วยหลังจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ให้อดีตพระพุทธะอิสะ ทำกายภาพบำบัดมาแล้ว 5 ครั้ง ซึ่งอาการปวดหลังดีขึ้น ส่วนอาการเลือดออกในระบบทางเดินกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาอาการโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โดยแพทย์ได้เปลี่ยนเป็นการฉีดยาเข้าเส้นเลือดทุก 12 ชม. และได้นัดตรวจอาการอย่างละเอียดด้วยวิธีการส่องกล้องในวันที่ 7 มิ.ย. นี้ ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อหาสาเหตุและรักษาอาการ ซึ่งระหว่างนี้ก็นำตัวมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่ได้พักที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แต่อย่างใด
    อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวว่า สำหรับพระรูปอื่นที่เป็นผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัด ตอนนี้สามารถปรับตัวเหมือนกับผู้ต้องขังรายอื่นแล้ว ส่วนสภาพร่างกายยังไม่พบว่ามีอาการป่วยแต่อย่างใด นอกจากนี้ที่มีอดีตพระที่ไม่ได้รับประทานอาหารเย็น และยังคงนั่งสมาธิ ทางเรือนจำก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด
    นายมหัศจักร โสดี ผู้ประสานงานกลุ่มศิษย์วัดอ้อน้อย ซึ่งนำคณะศิษย์เดินทางเข้าเยี่ยมอดีตพระพุทธะอิสระเผยว่า รู้สึกโล่งใจที่ถึงเห็นอดีตพระพุทธะอิสระมีหน้าตาที่สดชื่นขึ้น แม้จะป่วยด้วยอาการปวดหลังและเลือดออกในกระเพาะอาหาร ที่อยู่ระหว่างการรักษาอาการ โดยอดีตพระพุทธะอิสระยังต้องใช้เครื่องช่วพยุงตัวเดินออกมายังห้องเยี่ยมญาติ แต่อาการโดยรวมดูดีขึ้น และกำลังใจยังดีอยู่ ซึ่งลูกศิษย์ก็ดีใจที่ได้มาเห็นอาการด้วยตาของตัวเอง ทั้งนี้ อดีตพระพุทธะอิสระไม่ได้กล่าวถึงอาการป่วย บอกกับกลุ่มศิษย์เพียงว่าไม่ต้องเป็นห่วง สามารถใช้ชีวิตในเรือนจำได้ตามปกติ ตื่นตีหนึ่งตีสอง มานั่งทำสมาธิเหมือนกับอยู่ที่วัด และยังนุ่งขาวห่มขาวเหมือนเดิม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"