ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ถึงเวลางัดยาแรงชุดใหญ่! ก่อนตัวเลขจะพุ่งหลักหมื่น ต้องยอมรับว่าระลอก 4 ของจริง เร็วแรง ทุบสถิติอีกแล้วทั้งยอดติดเชื้อและเสียชีวิต มีแต่ตัวเลขขาขึ้น นิวไฮรายวัน โควิดไทยรายใหม่ไต่ระดับจาก 6 พัน ทะลุ 7 พันคนแล้ว คร่าเพิ่มอีก 75 ราย กทม.ยังครองแชมป์พื้นที่ระบาดสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง ถ้านับระลอกใหม่ตั้งแต่ 1 เม.ย.-8 ก.ค.64 จากยอดรวม 279,367 ราย เฉพาะของ กทม.ปาไป 87,497 ราย ปริมลฑล 5 จังหวัด (สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร) 61,047 ราย รวมพื้นที่โซนแดงเข้ม 6 จังหวัด สูงถึง 148,544 ราย "ผมได้ติดตามสถานการณ์การระบาดอย่างต่อเนื่องด้วยความไม่สบายใจ และรับรายงานจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์และความจำเป็นในการใช้แผนเผชิญเหตุ เพื่อกำหนดมาตรการการควบคุมโรคที่จะต้องเกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก แต่หากไม่ดำเนินการ อาจจะส่งผลกระทบให้เกิดความรุนแรงมากกว่านี้ ซึ่งเราอาจมีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเข้มงวดมากยิ่งขึ้นในการจำกัดการเคลื่อนย้าย การป้องกันมิให้มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรม การปิดสถานที่เพิ่มเติม และมาตรการอื่นๆ ที่จำเป็น" ชัดเจนแล้วว่าวันศุกร์นี้ ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค.เป็นประธาน ไฟเขียวยกระดับมาตรการปราบโควิดแน่ ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าล็อกดาวน์และประกาศเคอร์ฟิว แต่ความเข้มข้นน่าจะไม่น้อยไปกว่ากันนัก เพียงแต่ไม่ได้ล็อกทั้งประเทศ โดยใช้เฉพาะ กทม.และปริมณฑล รวม 6 จังหวัด ตามที่่กระทรวงสาธารณสุขเสนอมาในเรื่องมาตรการคุมเข้มทางสังคมอย่างน้อย 14 วัน โดยจำกัดห้ามเดินทางข้ามจังหวัด ปิดสถานที่เสี่ยงสถานที่รวมกลุ่มโดยไม่จำเป็น ยกเว้นตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น
๐ หัวหอกคนสำคัญ "ไทยไม่ทน" สิ้นอิสรภาพอีกครั้ง หลังศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2561 ขอให้ยกเลิกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด ซึ่งออกโดยศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2561 ในคดีที่นายอภิสิทธิ์เป็นโจทก์ ในคดีหมายเลขดำ อ.4176/2552 (คดีหมายเลขแดง อ.240/2558) ยื่นฟ้อง "จตุพร พรหมพันธุ์" ประธาน นปช. ในความผิดหมิ่นประมาท กรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ประวิงเวลาในการทำความเห็นเสนอต่อสำนักราชเลขาธิการ เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2560 ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ให้จำคุกนายจตุพร 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้นับโทษคดีจำคุกนายจตุพรต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดง อ.4907/2555 (หมายเลขดำ อ.1962/2552) กรณีกล่าวหาเป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือดฆ่าประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้นายจตุพรเคยถูกจำคุกคดีนี้แล้ว 14 วัน จึงต้องนำมาหักจากโทษจำคุก 12 เดือน รวมต้องจำคุกอีก 11 เดือน 16 วัน เท่ากับความหวังของจตุพรไม่เป็นจริง จากที่ประกาศบนเวทีปราศรัยข้างทำเนียบรัฐบาลวันเสาร์ที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยหวังว่าจะได้มาปรากฏตัวปราศรัยไล่บิ๊กตู่อีกครั้งในวันเสาร์นี้ พร้อมกับพูดเป็นลางไว้ว่า "ไม่ว่าผมจะอยู่หรือไม่ พี่น้องต้องสัญญากับผมว่า ภารกิจไล่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นภารกิจที่ต้องปฏิบัติการต่อไป" เลยต้องจับตาดูว่าเสาร์นี้รูปแบบไล่บิ๊กตู่ของไทยไม่ทนจะเปลี่ยนไปยังไง เพราะมีการส่งไม้ต่อให้กับแกนนำคนใหม่อย่าง บ.ก.ลายจุด "สมบัติ บุญงามอนงค์" ในนามกลุ่มคาร์ม็อบ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า จตุพรฝากฝังภารกิจนี้ไว้ก่อนเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ “พี่จำเป็นต้องเข้าคุกอีกรอบ ฝากภารกิจ (ไล่ประยุทธ์) ให้น้องดำเนินการต่อ ขอให้ประสบความสำเร็จ”
๐ ช่วงนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ขยันออกมติคดีสำคัญๆ ในส่วนของนักการเมือง ทั้ง ส.ส. อดีตรัฐมนตรี หลายคดี ล่าสุดเพิ่งมีมติชี้มูลความผิด ส.ส.เชียงใหม่ ในคดีทุจริตโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลจังหวัดเชียงใหม่ คล้ายกับคดีทุจริตที่จังหวัดนครราชสีมา และยังแว่วมาเดือนนี้ไปจนถึงเดือนหน้า จะมีคดีสำคัญๆ ตามมาอีกเพียบ วันก่อน "นิวัติไชย เกษมมงคล" รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เล่าให้ฟังถึงมติคดี ส.ส.เสียบบัตรแทนกันในที่ประชุมสภา 2 กรณี คือ การลงมติร่าง พ.ร.บ.เหรียญราชรุจิฯ ซึ่งเป็น ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา และฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีที่สอง การลงมติในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ซึ่งเป็นส.ส.พรรคภูมิใจไทย 3 ราย ในมูลความผิดทางอาญาและฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงเช่นเดียวกัน ซึ่งจะส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อฟ้องคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาวินิจฉัยกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง "เราพิสูจน์ได้ว่าตอนที่สภาลงมติ ตัวเขาไม่ได้อยู่ในที่ประชุมสภาในช่วงเวลานั้น เขาไปงาน เพราะได้รับมอบหมายให้เป็นประธานจัดงานแห่งหนึ่ง แถวๆ รัฐสภา เราเช็กแล้ว งานนี้กลับมาไม่ทันแน่นอนตอนลงมติ กับ ส.ส.อีกกลุ่มหนึ่ง ตอนสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ที่ไม่อยู่ในที่ประชุมสภา เช่นเดินทางกลับไปต่างจังหวัด เดินทางไปต่างประเทศ เราก็เช็กไทม์ไลน์เขา ก็พบว่าไม่อยู่จริงๆ แต่มีชื่อเขาลงมติ เราถือว่าแบบนี้ชัดเจน ถือว่าเขาไม่ได้อยู่ในที่ประชุมสภา แต่มีการฝากบัตรให้ลงคะแนนกัน โดยเขามีเจตนาเอาบัตรของเขาไปฝากไว้" งานแบบนี้ ป.ป.ช.ถนัดอยู่แล้วเรื่อง "จับให้มั่นคั้นให้ตาย".
ลี้คิมฮวง
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |