ว่าด้วย...การออกจากวัตถุนิยม (4)


เพิ่มเพื่อน    

                                                    (1)

        สุดสัปดาห์วันอาทิตย์...ก็ได้เวลากลับมา เทศน์ กันต่อ เริ่มด้วยการลองไปสำรวจ ตรวจสอบ ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน อันเป็นทฤษฎีที่เจ้าพ่อคอมมิวนิสต์อย่าง คาร์ล มาร์กซ์ อดอุทานขึ้นมาไม่ได้ว่า นี่คือการปล่อยหมัดตายล้มคว่ำความเชื่อดั้งเดิมของชาวยุโรป อย่างไม่มีวันฟื้นกลับคืนมาได้อีก ว่ามันมีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพมาก-น้อยขนาดไหน ถึงได้สามารถเปลี่ยนความเชื่อของชาวยุโรป และชาวโลกทั้งโลกในแบบ พลิกฟ้า-คว่ำดิน ชนิดแทบไม่มีวันฟื้นคืนกลับขึ้นมาได้เลย...

                                                      (2)

        คือถ้าว่ากันแบบแก่นๆ เนื้อๆ แล้ว...ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน ก็แทบไม่ได้มีอะไรใหม่ เป็นทฤษฎีที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อแบบพวก จารวาก ในอินเดียยุคโบร่ำโบราณดังที่กล่าวไปแล้ว หรือแทบไม่ต่างอะไรไปจาก ทฤษฎีธาตุ 4 ของ เอ็มเพโดเคลส นักคิดชาวกรีกเมื่อไม่รู้กี่ต่อกี่พันปีที่ผ่านมา คือตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าโลกใบนี้และสรรพสิ่งต่างๆ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าวัตถุ สสาร ที่มาผสมรวมตัวกัน โดยไม่ได้มีภูต ผี ปีศาจ เทพเจ้า พระเจ้า หรือแม้แต่จิตวิญญาณ เจตจำนงใดๆ เข้ามามีส่วนในการ เนรมิตสร้าง เอาเลยแม้แต่น้อย อาศัยเพียงแค่ ความบังเอิญ ล้วนๆ ที่ทำให้ ความไม่มีชีวิต ของวัตถุ สสาร ต่างๆ ค่อยๆ กลายเป็น ความมีชีวิต ตามขั้นตอนและกระบวนการแห่งการวิวัฒนาการ ที่ผิดแผก แตกต่าง กันไปตามสภาพ...

                                                     (3)

        แต่ภายใต้ความเชื่อพื้นฐานทำนองนี้ ที่มันน่าจะตายไปนานแล้ว หรือหมดสภาพไปนานแล้ว หลังจากถูก ศาสนา ต่างๆ อาศัย ความรู้ทางจิต กวาดลงไปซะเกลี้ยง แต่ก็ด้วยสิ่งที่เรียกว่า วิทยาศาสตร์ นั่นเอง ที่ถูกนำมาต่อเติม เสริมแต่ง จนทำให้ความเชื่อที่ว่า มันสามารถฟื้นคืนกลับ แถมยังกลายเป็นตัวกวาดล้างความเชื่อทางศาสนา ให้พังพินาศไปเป็นแถบๆ ด้วยเหตุเพราะบรรดา นักวิทยาศาสตร์ ที่ต้องแอบหลบ แอบซ่อน จากอำนาจของ คริสตจักร จนถึงกับต้องก่อตั้ง สมาคมลับ นานาชนิดขึ้นมาในยุโรปช่วงนั้น อาจผิดแผก แตกต่าง ไปจากนักวิทยาศาสตร์ยุคนี้อยู่ตามสมควร คือออกจะคับแค้น แน่นอก กับ อำนาจทางจิตวิญญาณ ของพวกพระชาวคริสต์ ชนิดหนักซะยิ่งกว่า นักประชาธิปไตย บ้านเรา แค้นตาแม้น เผด็จการบิ๊กตู่ ไม่รู้กี่หมื่น กี่แสนเท่า วิทยาศาสตร์ที่ถูกนำมาต่อเติม เสริมแต่ง หรือถูกนำมารองรับความเชื่อทำนองนี้ มันเลยไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์ที่ บริสุทธิ์ ซักเท่าไหร่ แต่เป็นวิทยาศาสตร์ที่หนักไปทางมุ่งโค่นล้ม ทำลาย ความรู้ทางจิต หรือ อำนาจทางจิตวิญญาณ อย่างเป็นการเฉพาะ...

                                                       (4)

        ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน...จึงเป็นทฤษฎีที่ต้องคอยต่อเติม เสริมแต่ง ปะผุ ยกเครื่อง กันไปเป็นระยะๆ ไล่มาตั้งยุค ปู่ ของ ชาร์ลส์ ดาร์วิน โน่นเลย ผู้มีนามกรว่า อีราสมุส ดาร์วิน (Erasmus Darwin) แพทย์ประจำพระองค์ของพระเจ้าจอร์จ ที่ 3 แห่งอังกฤษ นักฟิสิกส์ เคมี นักพฤษศาสตร์ นักชีววิทยา ฯลฯ ที่ได้ขึ้นโครงร่างความเชื่อทำนองนี้เอาไว้ในข้อเขียนเรื่อง Generation ในหนังสือชื่อว่า Zoonomia จากนั้นก็ส่งมอบมรดกทางความคิดให้หลานปู่ อย่าง ชาร์ลส์ ดาร์วิน ลงเรือสำรวจ บีเกิล (HMS Beagle) ของราชนาวีอังกฤษ ไปเก็บหลักฐานสิ่งละอันพันละน้อย จากทวีปอเมริกาใต้ หมู่เกาะแปซิฟิก ออสเตรเลีย แทสมาเนีย นิวซีแลนด์ เป็นเวลายาวนานถึง 5 ปี เอามาปะนั่น โปะนี่ จนความเชื่อที่ว่า...กลายเป็น ความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ ไปจนได้ แม้ถูกโต้ ถูกแย้ง มาโดยตลอดว่าทฤษฎีที่ว่านี้ ไม่ได้ถือเป็น ความจริงทางวิทยาศาสตร์ เสมอไป...

                                                   (5)

        แต่ก็นั่นแหละ...แม้จะต้องคอยต่อเติม เสริมแต่ง ปะผุ ยกเครื่องไปเป็นระยะๆ จนหน้าตาของทฤษฎีที่ว่า เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ชนิดถ้า ชาร์ลส์ ดาร์วิน เกิดใหม่ อาจจำทฤษฎีของตัวเองไม่ได้เอาเลยก็ไม่แน่ หรือถึงขั้นต้องเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ให้กลายเป็น ทฤษฎีวิวัฒนาการแบบสังเคราะห์ (Synthetic Theory Of Evolution) อยู่จนทุกวันนี้ แต่ด้วย พื้นฐานความเชื่อ ที่มันมีฤทธิ์ มีเดช มีผลทำให้ ความเชื่อดั้งเดิมของชาวยุโรป หรือแม้แต่ ชาวโลก ถูกเปลี่ยนแปลงไปแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังตีน หรือแทบไม่อาจฟื้นคืนกลับมาได้อีก มันเลยกลายเป็นความเชื่อที่ทำให้ผู้ที่ไม่ชอบขี้หน้า พระ ผู้ที่หมั่นไส้ เทพเจ้า ผู้ที่ไม่ศรัทธาใน พระเจ้า ผู้ที่เห็นว่า ศาสนา นั้นคือเรื่องหลอกเด็ก หรือยาพิษ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น จึงหันมาคว้าเอาไปใช้เป็น เครื่องมือ หรือเป็นรากฐานในการผลิต ความเชื่อ ให้กับทฤษฎีต่างๆ ที่ตัวเองประดิษฐ์ คิดค้น ขึ้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีคอมมิวนิสต์ อนาคิสต์ ฟาสซิสต์ นาซี ไปจนถึงแคปปิตอลลิสต์ หรือทุนนิยม ฯลฯ นั่นเอง ที่ต่างไม่อยากให้ พระ หรือให้ศีลธรรมทางศาสนาใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ในการแสวงหาอำนาจ หาเงิน หาทอง ตามแนวคิดทฤษฎีของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น...

                                                      (6)

        แม้ว่าบรรดาผู้ประดิษฐ์ คิดค้น ปวงทฤษฎีดังที่กล่าวไปแล้ว...ล้วนแต่เป็นพวก ฝรั่ง ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ได้มีแขก เจ๊ก จีน จาม หรือไทยๆ แบบเราๆ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเลย แต่ในเมื่อพวกฝรั่งแต่ละกลุ่ม แต่ละราย ไม่ได้มีเพียงแค่ ทฤษฎี อย่างเดียว แต่ดันมี ปืนใหญ่ มี เรือรบ มีอาวุธทันสมัยเพียบไปด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ฝรั่งเศส ฮอลันดา โปรตุเกส สเปน ฯลฯ หรือบรรดา นักล่าอาณานิคม ทั้งหลาย ปืนในมือฝรั่ง หรือ เรือปืน ของฝรั่ง มันจึงทำให้บรรดาทฤษฎีที่มีพื้นฐานมาจากความเชื่อที่ว่า เลยแพร่กระจาย แผ่ซ่านไปทั่วทั้งโลกได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ และทำให้แนวคิด วัตถุนิยม สามารถครอบงำโลกทั้งโลก จนหาทางออก ทางไป แทบไม่เจอ จนตราบเท่าทุกวันนี้...นั่นแล...


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"