วัคซีน‘จีนผสมฝรั่ง’พุ่ง


เพิ่มเพื่อน    

  "หมอยง" เปิดผลวิจัย การให้วัคซีนลูกผสม "จีนผสมฝรั่ง" ฉีดเชื้อตาย 2 เข็ม ตามด้วยวัคซีน virus Vector พบว่าภูมิต้านทานเฉลี่ยสูงเป็น 10,000 หน่วย เหนือ mRNA  2 เข็ม ภูมิขึ้น 1,700 หน่วย แอสตร้าเซนเนก้าออกแถลงการณ์ส่งวัคซีนให้ไทยอีก 2.3 ล้านโดสในสัปดาห์หน้า เตรียมนำเข้าเพิ่มเติมให้หลังผลิตไม่ทัน

    เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ว่า โควิด 19 วัคซีน การให้วัคซีนลูกผสม จีนผสมฝรั่ง
    การศึกษาวิจัยที่ศูนย์ทำอยู่ ปรับรูปแบบเพื่อให้เหมาะกับทรัพยากรที่เรามีอยู่ และวัคซีนที่เรามีจะเห็นว่าการติดเชื้อโดยธรรมชาติจะมีภูมิต้านทานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60 หน่วย การให้วัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม ภูมิต้านทานจะขึ้นมาอยู่ระดับเฉลี่ย 100 หน่วย ถ้าให้วัคซีนไวรัส Vector AZ  2 เข็มห่างกัน 10 สัปดาห์ ภูมิต้านทานจะขึ้นมาอยู่ที่ 900 หน่วย แต่ถ้าให้วัคซีนสลับกัน โดยให้วัคซีนเชื้อตาย แล้วตามด้วยไวรัสเวกเตอร์ที่ 3-4 สัปดาห์ ภูมิต้านทานจะสูงที่ 700 หน่วย ในขณะที่ให้วัคซีน mRNA 2 ครั้ง ห่างกัน 3 สัปดาห์ ภูมิต้านทานจะขึ้นมาสูงถึง 1,700 หน่วย แต่การให้วัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม ตามด้วยวัคซีน virus Vector อย่างที่ขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าทำอยู่ พบว่าภูมิต้านทานเฉลี่ยสูงขึ้นมา เฉลี่ยเป็น 10,000 หน่วย
    การวัดนี้เป็นระดับภูมิต้านทาน ขณะนี้กำลังทำการวิจัยแนวลึกถึงความสามารถในการขัดขวางไวรัสในแต่ละสายพันธุ์ รวมทั้งสายพันธุ์เดลตาด้วย จากข้อมูลที่ผ่านมา สายพันธุ์เดลตาหลบหลีกระบบภูมิต้านทาน จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ระดับภูมิต้านทานที่สูงเพิ่มขึ้น จนกว่าจะมีวัคซีนที่ตรงกับสายพันธุ์ที่ระบาด หรือวัคซีนใน Generation ที่ 2
    ทางศูนย์มุ่งมั่นในการทำการศึกษาวิจัย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับคนไทย เป็นงานวิชาการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองและนโยบายใดๆ ทั้งสิ้น
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หน่วยงานสาธารณสุขอิสราเอลเปิดเผยรายงานข้อมูลว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค มีประสิทธิภาพเพียง 39% ต่อโควิดสายพันธุ์เดลตา   อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถป้องกันการรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมถึงอาการป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อได้
     นายเจมส์ ทีก ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ส่ง จดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนพี่น้องชาวไทยความว่า เรียน เพื่อนพี่น้องชาวไทย ขณะที่ทั่วประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผมในฐานะตัวแทนของแอสตร้าเซนเนก้าในประเทศไทย ขอใช้โอกาสนี้เรียนให้ทุกท่านทราบถึงสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เพื่อช่วยเหลือทุกท่านและยับยั้งการแพร่ระบาดนี้
    พวกเราทุกคนที่แอสตร้าเซนเนก้า มีความกังวลและเป็นห่วงกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาเพิ่มสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเราได้มีการหารือกับกรมควบคุมโรคมาโดยตลอดเกี่ยวกับผลกระทบจากการกลายพันธุ์ของไวรัส และแนวทางที่แอสตร้าเซนเนก้าจะสามารถช่วยสนับสนุนโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้
    ผมขอยืนยันกับทุกคนว่า สิ่งที่แอสตร้าเซนเนก้าให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในขณะนี้คือ การเร่งผลิตและส่งมอบวัคซีนที่มีคุณภาพเพื่อปกป้องคุณและคนที่คุณรักให้ได้โดยเร็วที่สุด เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถ
    วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า เป็น “ชีววัตถุ” ที่เริ่มต้นด้วยการเพาะเลี้ยงเซลล์ที่เป็นส่วนประกอบในกระบวนการผลิต จึงมีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน จำนวนเซลล์ ‘ที่สามารถนำไปใช้’ เพื่อการผลิตวัคซีนในแต่ละรอบการผลิตจึงมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิตระยะแรกจากศูนย์การผลิตวัคซีนแห่งใหม่ ถึงแม้จะมีข้อจำกัดมากมาย แต่เราคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดสรรวัคซีนให้กับประเทศไทยได้โดยเฉลี่ย 5-6 ล้านโดสต่อเดือน
    จนถึงขณะนี้ แอสตร้าเซนเนก้าได้ส่งมอบวัคซีนให้กับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว 9 ล้านโดส และมีกำหนดส่งมอบอีก 2.3 ล้านโดสในสัปดาห์หน้า รวมเป็นยอดส่งมอบ 11.3 ล้านโดส ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากแผนการจัดหาวัคซีนจำนวน 61 ล้านโดสให้กับประเทศไทย
นำเข้าแอสตร้าเซนเนก้า
    ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์เดลตา เราพยายามอย่างสุดความสามารถและเสาะหาทุกวิถีทางที่จะเร่งการผลิตและส่งมอบวัคซีนให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรผู้ผลิตอย่างสยามไบโอไซเอนซ์ เราได้พยายามเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และเรามั่นใจว่า จะสามารถส่งมอบวัคซีนได้มากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
    นอกจากนี้ เรายังได้พยายามจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมจากศูนย์การผลิตของแอสตร้าเซนเนก้าทั่วโลกกว่า  20 แห่ง เพื่อส่งมอบวัคซีนเพิ่มเติมให้กับประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกกำลังประสบกับภาวะขาดแคลนวัคซีนป้องกันโควิด-19 การขาดแคลนวัตถุดิบและส่วนประกอบที่จำเป็นในการผลิตวัคซีน ส่งผลให้เราไม่สามารถคาดการณ์จำนวนการผลิตที่แน่นอนได้ แต่เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถนำเข้าวัคซีนเพิ่มเติมมาให้กับคนไทยได้ในเดือนต่อๆ ไป
    การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับเป็นวิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุดของยุค พวกเราทุกคนที่แอสตร้าเซนเนก้าตระหนักถึงหน้าที่สำคัญในการช่วยคลี่คลายวิกฤตินี้ พนักงานของเรา รวมไปถึงพนักงานของพันธมิตรด้านการผลิตหลายพันชีวิตต่างอุทิศกำลังและเวลาช่วงปีที่ผ่านมาอย่างเต็มความสามารถในการผลิตและส่งมอบวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้ามีภารกิจสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดนี้ โดยไม่หวังผลกำไร เพราะเราเชื่อว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าการจัดหาวัคซีนในช่วงที่มีความต้องการเร่งด่วนนี้จะหนักเกินกว่าที่จะรับมือโดยลำพัง แต่เราจะไม่หยุดพักจนกว่าทุกคนจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19  
    เราต้องร่วมสู้วิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คนไทยทั้งประเทศได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่แข็งแกร่ง และความมีน้ำใจ พร้อมที่จะยื่นมือช่วยเหลือกันในยามยาก จากผลสำรวจที่ระบุว่า กว่า 1 ใน 3 ของคนไทย รวมถึงพนักงานของเราในประเทศไทย ได้ร่วมบริจาคเงิน อาหาร หรือสิ่งของเพื่อช่วยเหลือคนไทยด้วยกันในช่วงการระบาด ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยทั้งในชุมชนและในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ การจะผ่านพ้นมหาวิกฤติโควิด-19 ได้นั้น เราทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจฝ่าวิกฤติครั้งไปด้วยกัน ไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทย แต่รวมถึงทุกประเทศทั่วโลกด้วย
    ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ประเทศบ้านพี่เมืองน้องของเราทั่วอาเซียนก็มีการประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง   พร้อมกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ข้อมูลจากการใช้วัคซีนล่าสุดจากประเทศแคนาดาแสดงให้เห็นว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อรุนแรงในระดับที่ต้องเข้านอนรับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้มากถึง 87%  ดังนั้น วัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งกับประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
    พวกเราทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ได้ ซึ่งจะสำเร็จได้
ก็ต่อเมื่อเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในทุกที่ เชื้อไวรัสแพร่ระบาดไปอย่างไร้พรมแดน ดังนั้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านยังคงทวีความรุนแรง ก็ถือเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทยด้วยเช่นกัน หนทางเดียวที่จะยุติการแพร่ระบาดนี้ได้คือ ความร่วมมือร่วมใจกันของพวกเราทุกคน
    ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูล ณ วันที่ 24 ก.ค. มีผู้ได้รับวัคซีนรวมทั้งสิ้น  15,741,818 โดส.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"