'ไทยสร้างไทย'ชงพิมพ์เขียวสยบโควิดในสิ้นปี! ของขวัญปีใหม่ให้คนไทย


เพิ่มเพื่อน    

25 ก.ค. 64 - คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าวผ่านระบบซูมว่า ขอนำเสนอ พิมพ์เขียวสยบโควิดให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อคืนชีวิตปกติสุข เปิดเมือง เปิดประเทศ ให้ประชาชนได้กลับมาทำมาหากิน เป็นของขวัญปีใหม่ ให้พี่น้องชาวไทย บนหลักการโครงการ 30 บาท รักษาโควิดถ้วนหน้า เพื่อคุ้มครองการตรวจ รักษา ฉีดวัคซีนประสิทธิผลสูง ให้คนไทยทุกคนได้อย่างแท้จริง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยคนไทยทุกคนที่ต้องการตรวจเชื้อต้องได้ตรวจ ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษา ต้องได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพ ต้องไม่มีประชาชนตายคาบ้าน หรือตายกลางถนนอีกต่อไป 

บันได 3 ขั้น สยบโควิด ขั้นที่ 1 ด้านการควบคุมการแพร่ระบาด ต้องเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อ และนำผู้ติดเชื้อเข้าระบบให้เร็วที่สุด การสั่งLock Down  โดยไม่เร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อ จะไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ในเวลาที่รวดเร็ว แต่จะกลับจะซ้ำเติมปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนคือ เจ็บแล้วไม่จบ และต้องเลิกการผูกขาด การนำเข้า ชุดตรวจ ยา วัคซีน ของหน่วยงานรัฐทั้งหมด เลิกกฎระเบียบที่ขวางกั้นการตรวจ และการรักษาของประชาชนทันที โดยเฉพาะระเบียบการเบิกจ่ายเงินของสปสช. ขณะเดียวกัน ให้นำ Rapid Antigen Test ตรวจประชาชนกลุ่มเสี่ยงทุกคนในพื้นที่สีแดง แดงเข้ม  เพื่อเร่งนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบ ตัดวงจรการระบาด พร้อมทำระบบแอพลิเคชันให้ผู้ที่ตรวจแล้วมีผลเป็นบวก ได้เข้าระบบการดูแลรักษาทันที 

ขั้นที่ 2 ด้านการรักษาผู้ติดเชื้อ เพื่อลดอัตราการป่วยหนัก การตาย และแก้ปัญหาเตียงไม่พอ โดยนำผู้ติดเชื้อเข้าระบบให้เร็วที่สุด ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรืออาการน้อยให้เข้า Program Home Isolation และเร่งทำ Community Isolation ให้เพียงพอกับผู้ติดเชื้อ โดยใช้โรงเรียน,วัด,หรือหอประชุมที่อยู่ใกล้ชุมชน ผู้ที่มีอาการไม่มากเข้าโรงพยาบาลสนาม(เตียงเขียว) โดยต้องให้ยาฟาวิพิราเวียร์ ทันที เพื่อลดอาการป่วยหนัก และการเสียชีวิตของประชาชน ต้องตั้งเป้าให้คนหายป่วยกลับบ้านได้ตั้งแต่เตียงเขียว 

ขั้นที่ 3 ด้านการป้องกัน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ที่จะทำให้คนไทยสามารถมีชีวิตอยู่กับโรคโควิดได้อย่างปลอดภัย โดย 1) ต้องเร่งจัดหาวัคซีน mRNA ที่สามารถต่อสู้กับเชื้อกลายพันธุ์ Delta ที่กำลังระบาด มาเป็นวัคซีนหลักคู่กับ AZ ให้คนไทยมีสิทธิเลือกวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ 2) ปรับแผนบริหารวัคซีน โดยต้องจัดหาวัคซีนให้ได้เฉลี่ยเดือนละ 15 ล้านโดส หรือฉีดให้ได้วันละ 500,000 โดส ให้คนไทยอย่างน้อย 70% หรือ 50ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่  และเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย ได้เปิดเมือง เปิดประเทศ ได้กลับมาทำมาหากินอีกครั้ง 

“ตามแผนที่พรรคไทยสร้างไทยเสนอ ประชาชน 50 ล้านคน จะได้ฉีดวัคซีนหนึ่งเข็มทุกคนภายในเดือนธันวาคม และครบสองเข็มภายในเดือนมกราคม แต่ถ้ายังใช้แผนเดิมในอัตราการฉีดเฉลี่ยในปัจจุบันประชาชนจะได้รับวัคซีนครบสองเข็มในเดือนกรกฎาคมปีหน้า ซึ่งนานเกินไปเสี่ยงต่อการไม่เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และจะทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิต และทำลายเศรษฐกิจอีกยาวนาน ข้อเสนอที่พรรคไทยสร้างไทยได้จัดทำนี้ เป็นความห่วงใยอย่างที่สุดต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เดินมาถึงจุดที่เป็นอันตรายอย่างที่สุดต่อชีวิตของพี่น้องชาวไทยและต่อเศรษฐกิจไทย จึงถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกันนำพาประชาชนให้ออกจากมหาวิกฤตินี้ให้ได้ พรรคไทยสร้างไทย จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลจะได้รับแผนงานนี้ไปดำเนินการ เพื่อแก้มหาวิกฤตของประเทศในครั้งนี้ให้ได้เร็วที่สุด” คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"