'ทรัมป์' มั่นใจมีสัมพันธ์ยอดเยี่ยมกับ 'คิม จองอึน'


เพิ่มเพื่อน    

ชื่นมื่นดี "โดนัลด์ ทรัมป์" และ "คิม จองอึน" จับมือและทักทายกันอย่างอบอุ่น เมื่อทั้งคู่สร้างประวัติศาสตร์ให้โลกจารึกในฐานะผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือคนปัจจุบันที่พบปะกัน เพื่อหาหนทางจัดการกับการคุมเชิงด้านนิวเคลียร์มายาวนานหลายทศวรรษ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จับมือทักทายกันอย่างอบอุ่น ก่อนพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวผ่านล่าม นานประมาณ 48 นาที จากนั้นทั้งคู่จึงออกมานั่งประชุมครั้งที่ 2 พร้อมกับคณะเจ้าหน้าที่คนสำคัญ

การประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ที่เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างผู้นำคนปัจจุบันของทั้งสองประเทศนี้ ได้รับการจับตามองทั่วโลกว่าจะลุล่วงด้วยดีหรือไม่ ซึ่งหากประสบความสำเร็จ จะถือเป็นพัฒนาการทางการทูตครั้งสำคัญที่อาจทำให้ภูมิทัศน์ด้านความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน เหมือนกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ของสหรัฐ เดินทางเยือนจีนเมื่อปี พ.ศ. 2515 ที่นำไปสู่การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงในจีน

บรรยากาศช่วงที่ผู้นำทั้งสองเดินทางออกจากโรงแรมที่พักมายังโรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซาของสิงคโปร์ แห่งนี้ ทั้งคู่มีสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อลงจากรถลีมูซีน แต่เมื่อเจอหน้ากันต่างก็เปลี่ยนเป็นสีหน้ายิ้มแย้มจับมือ ก่อนที่ทรัมป์จะเชิญคิมไปพบหารือที่ห้องสมุด ที่พวกเขานั่งสนทนากันโดยมีเพียงล่ามของทั้งสองฝ่ายทำหน้าที่แปลภาษา

"ยินดีที่ได้พบกัน ท่านประธานาธิบดี" คิมกล่าวแย้มยิ้มเมื่อทั้งคู่นั่งเคียงข้างกัน ขณะที่ผู้นำสหรัฐยกนิ้วโป้งให้แล้วกล่าวว่า เขามั่นใจว่าทั้งคู่จะมีสัมพันธภาพที่ยอดเยี่ยม

ทรัมป์กล่าวว่า เขาเชื่อว่าการหารือครั้งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างมาก  "ผมคิดว่าจะเป็นการหารือที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง และผมคิดว่าเราจะมีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย" ส่วนคิมกล่าวตอบว่า หนทางกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านอุปสรรคขวางทางมากมาย แต่พวกเราก็เอาชนะได้ และมาอยู่ที่นี่ในวันนี้

ผู้นำสหรัฐกล่าวไว้เมื่อวันเสาร์ว่า เขาจะดูออกในทันทีที่พบกับคิมว่า ผู้นำเกาหลีเหนือรายนี้พร้อมจะทำความตกลงหรือไม่ การหารือกันเป็นการส่วนตัวของทั้งคู่เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ใช้เวลาประมาณ 48 นาที จากนั้นทรัมป์และคิมจึงปรากฏตัวแล้วเดินเคียงคู่กันผ่านระเบียงของโรงแรม ไปยังห้องประชุม ที่ทั้งสองฝ่ายมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงรออยู่

โดนัลด์ ทรัมป์ (ที่ 3 จากขวา) และคิม จองอึน (ที่ 3 จากซ้าย) นั่งประชุมร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ภายหลังการหารือแบบตัวต่อตัว

รายงานของรอยเตอร์กล่าวว่า ระหว่างที่ผู้นำทั้งสองพบกันนั้น ทางการสิงคโปร์ส่งเรือของกองทัพเรือ และเฮลิคอปเตอร์อาปาเชของกองทัพอากาศ ลาดตระเวนทางน้ำและทางอากาศ นอกจากนี้ยังมีเครื่องบินรบหลายลำ และเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้า กัลฟ์สตรีม 550 บินวนด้วย

เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีใครกล้าคาดคิดเมื่อหลายเดือนก่อน หากพิจารณาว่าเมื่อปีที่แล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างใช้วาจารุนแรงตอบโต้กัน ภายหลังเกาหลีเหนือทดลองระเบิดนิวเคลียร์และมิสไซล์หลายลูก รวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่คิมคุยว่าสามารถโจมตีได้ทั่วทุกตารางนิ้วของสหรัฐอเมริกา


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"