'ส.ส.ก้าวไกล'ขอตัดงบฯตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมทั้งโครงการ ซัดจ้องปิดปากประชาชน


เพิ่มเพื่อน    

 

20 ส.ค.64-การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจาณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ.2565  ช่วงค่ำวันที่19ส.ค.ที่ผ่านมา มีการพิจาณา มาตรา15 กระทรวงคมนาคม วงเงิน 57,154 ล้านบาท โดยนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายขอปรับลดงบ 4.18ล้านบาทของกระทรวงคมนาคมในโครงการซื้อโดรนถ่ายภาพทางอากาศ ที่มีราคาแพงเกินจริง ตั้งงบมา 1.1แสนบาทต่อตัว ทั้งที่ราคาในตลาด รุ่นเดียวกับที่กระทรวงคมนาคมจะซื้อ ตัวท็อปอยู่ที่ 67,400บาทต่อตัว ดูแล้วแพงเกินจริง การจัดซื้อโดรนดังกล่าวบางจังหวัดได้ บางจังหวัดไม่ได้ ใช้เกณฑ์อะไร และไม่รู้ว่า ซื้อมาแล้วใช้กันเป็นหรือยัง ในวิกฤติขณะนี้ไม่ควรซื้อโดรน ขอให้ลดการผลาญ สงสารประชาชนบ้าง

จากนั้นที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบมาตรา 15ด้วยคะแนน222ต่อ87 งดออกเสียง2 ไม่ลงคะแนน7  

ต่อมามีการพิจรณา มาตรา16 งบประมาณกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมวงเงิน 3,821ล้านบาท โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  อภิปรายว่า ขอตัดงบประมาณศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมทิ้งทั้งโครงการจำนวน 79 ล้านบาท โครงการนี้บอกว่า มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่เกี่ยวกับการดำเนินคดีข่าวปลอม แต่ปรากฏว่า ศูนย์ฯเลือกตรวจสอบเฉพาะข่าวเป็นผลลบต่อรัฐบาล แต่ข่าวปลอมที่เป็นผลบวกต่อรัฐบาลไม่มีการตรวจสอบ ตอกย้ำตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องรัฐบาล ศูนย์ฯเคยบอกมีภารกิจตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น ไม่มีหน้าที่ดำเนินคดีผู้กระทำผิด แต่กลับขอให้ปิดการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมาก ขู่ประชาชนอาจถูกดำเนินคดีถ้าแชร์ข่าวเท็จ ทั้งที่บางครั้งเป็นการเล่นแอพริฟูลเดย์ ตั้งคณะอนุกรรมการมาดำเนินคดีกับประชาชน

"เรามีกระทรวงดีอีเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีหรือเพื่อปิดปากประชาชน การไล่ฟ้องดำเนินคดีกับประชาชนไม่สามารถแก้ปัญหาข่าวปลอมได้ การเอาอำนาจชี้ว่าอะไรคือความจริงหรือเท็จไปอยู่กับหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับฝ่ายการเมืองไม่มีทางสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้ ถ้าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมเป็นผู้เผยแพร่ข่าวปลอมเอง ใครจะดำเนินคดี ควรให้ศูนย์นี้เป็นหน้าที่องค์กรภาคประชาสังคม สื่อมวลชน ให้เป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง ตราบใดที่หน่วยงานตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ภายใต้ภาครัฐ เอาภาษีประชาชนไปใช้ผูกขาดความจริงอยู่กับฝ่ายตัวเอง ใช้อำนาจกฎหมายปิดปากประชาชน ไม่สมควรได้งบแม้แต่บาทเดียว" นายปกรณ์วุฒิ  กล่าว

ที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบมาตรา16 เห็นด้วย228 ไม่เห็นด้วย68 งดออกเสียง2  

มาตรา17 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วงเงิน  11,235,713,600 บาท นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การจัดงบประมาณกระทรวงทรัพย์ฯ ขัดประสิทธิภาพ ไม่เหมาะกับสถานการณ์ในประเทศ จึงขอตัดงบลง 7 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของกรมป่าไม้ แม้จะแจกไม้มีค่าให้ประชาชนทุกปี แต่ขอให้แจกกล้าไม้อายุ2ปี ขึ้นไป เพราะมีโอกาสกล้าจะรอดตาย นำไปปลูกจะได้ผลดีมีมาก ส่วนกระทรวงทรัพยากรน้ำ ได้งบน้อยมาก ควรได้งบเพิ่มขึ้น เพื่อสนองต่อความต้องการของประชาชน เรื่องกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ที่เป็นอนาคตของประเทศไทย หากมีการขุดน้ำที่ลึกลงไปอีก เชื่อว่าจะแก้ปัญหาภัยแล้งได้ ในปี2565 ควรจัดงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพในเรื่องน้ำด้วย  

เวลา20.15น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้สอบถามมติ ผลปรากฏว่า ที่ประชุมเห็นด้วย 221 ไม่เห็นด้วย 59 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 2 จากนั้นนายชวน ได้สั่งปิดประชุม และนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 20ส.ค. เวลา 9.30น.  

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"