
21 ส.ค.64 - เมื่อเวลา 15.30 น. ที่แผนกนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นหรือ มข. นายประสิทธิ์ สมผล อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 ม.9 ต.หัวดร อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี บิดาของ นายวรพล สมผล อายุ 25 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในห้องพักภายในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง พื้นที่บ้านโนนม่วง ม.27 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีคนมาพบศพเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ( 20 ส.ค )
นายประสิทธิ์ สมผล อายุ 50 ปี บิดาผู้ตาย กล่าวว่า ทราบเรื่องลูกชายตายจากตำรวจ จึงรีบเดินทางมารับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านแต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงไม่สามารถนำศพลูกชายกลับบ้านเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานีได้ จำเป็นต้องหาวัดในพื้นที่ใกล้เคียงกับ รพ.ศรีนครินทร์ จัดการฌาปนกิจศพให้ลูกชายที่ขอนแก่น ส่วนกรณีการฆ่าตัวตายของลูกชายนั้น ทราบจากเพื่อนๆของลูกชายว่า เกิดจากปัญหาหนี้สินที่ลูกชายไปกู้เงินมาให้เพื่อนซึ่งเป็นสาวประเภทสองที่ใช้ชื่อว่า "มาดามมาย" แล้วเพื่อนรายดังกล่าวไม่ยอมใช้หนี้ จนเกิดปัญหาที่ลูกชายต้องมารับผิดชอบแทน
"ลูกชายกู้ยืมเงินมาจำนวน 97,800 บาท ให้มาดามมาย แต่มาดามมายไม่รับผิดชอบ พร้อมกับหนีหายไป ลูกชายจึงต้องจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยแทนอาทิตย์ละ 12,000 บาท แต่ลูกชายมีรายได้ไม่เพียงพอ เพราะกำลังศึกษาระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เงินที่ใช้จ่ายก็ได้มาจากบิดาและป้าส่งมาให้เท่านั้น เมื่อแก้ไขปัญหาไม่ได้ลูกชายจึงคิดสั้นฆ่าตัวตายดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่พ่อยังติดใจ เพราะลูกชายเป็นคนจิตใจดี อ่อนโยน มีน้ำใจ ไม่น่าจะคิดสั้น เพราะถ้าลูกขอเงินหรือปรึกษาพ่อ พ่อก็จะช่วยเหลือ แต่ลูกชายไม่เคยเล่าปัญหาต่างๆให้ฟัง พ่อจึงไม่รู้เรื่อง และจะไม่ปล่อยให้ลูกชายตายฟรี คนที่เกี่ยวข้องกับเงินที่ลูกชายยืมมา ต้องมารับผิดชอบ"
ขณะที่ พ.ต.ท.ปุณณริศร์ ธรานันทเศรษฐ์ สว.สอบสวน สภ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งมีคนพบศพคนฆ่าตัวตายในห้องพัก ภายในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ม.27 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงประสานแพทย์เวร รพ.ศรีนครินทร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ร่วมกันไปตรวจที่เกิดเหตุเมื่อไปถึงห้องพักดังกล่าวก็พบศพนายวรพล สมผล อายุ 25 ปี เจ้าของห้องพักนอนเสียชีวิตอยู่ข้างเตียงนอน สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ ไม่สวมกางเกง น้ำลายฟูมปาก ที่ข้อมือทั้งสองข้างมีรอยกรีด เลือดยังไหลไม่หยุด ที่ลำคอถูกเชือดด้วยของมีคม เลือดยังไหลไม่หยุดเช่นกัน ภายในห้องยังมีน้ำท่วมขังจนเอ่อล้นออกนอกห้อง ในห้องน้ำพบสายไฟยาวประมาณ 2 เมตร จำนวน 1 เส้น และพบน้ำยาล้างห้องน้ำที่เพิ่งเปิดใช้ สภาพห้องสิ่งของกระจายเกลื่อน และพบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของผู้ตายเสียบปลั๊กชาร์ตไฟและเปิดใช้งานอยู่
"เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดดูคอมพิวเตอร์คนตาย พบการใช้เฟซบุ๊กครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 15.43 น.วันที่ 19 สิงหาคม 2564 โดยมีการโพสข้อความว่า “เพราะเคยรัก เคยไว้ใจสุดท้ายก็โดน การที่น้องทำแบบนี้ทำให้คนที่เคยช่วยเหลือ ต้องลำบากไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ เพราะน้องเคยยืนในจุดที่ทุกคนเคยให้โอกาสและชื่นชมในความสามารถของน้องมาพอสมควร แต่การเป็นหนี้ก็ต้องคืนต้องจ่ายไม่ใช่เงียบหายแบบนี้ เก่งต้องเก่งทุกเรื่อง ไม่ใช่เก่งเงียบหนีหาย ทุกคนพร้อมรับฟัง แต่สิ่งที่เธอทำตอนนี้คำว่าโอกาสนะตอนนี้ยังไม่มีให้ เพราะให้นึกถึงวันลำบากที่มีคนยื่นมือไปหาด้วยนะ ใช่ที่ทุกคนล้มและลุกได้ไม่อยากซ้ำเติมแต่อยากให้รู้จักความรับผิดชอบในสิ่งที่สร้างไว้ สิ่งดีๆที่เคยทำด้วยกันมันก็คือสิ่งดีๆและทรงจำดีๆ แต่สิ่งไม่ดีที่สร้างให้ก็ต้องตักต้องเตือน 97.8k ไม่มีใครสามารถมาหาใช้แทนเธอได้จริงๆนะ
หากเธอเกลียดคนที่ตักเตือนต่อว่าคุณ หลงระเริงในคำชม จุดจบก็เป็นแบบนี้ ถ้ายังมีคำว่าจิตใจก็ควรกลับมารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น คำว่าอำลาควรอำลาด้วยความคิดถึงไม่ใช่อำลาด้วยความผิดใจ 97.8k ต้องได้คืน ถ้ารักคนที่ชมที่ไม่เคยเตือนน้องรักไปและขอความช่วยเหลือดูตอนนี้เขาเป็นอย่างที่น้องคิดไหม” และในวันที่ 20 สิงหาคม 2564 ผู้เสียชีวิตได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์พร้อมโพสต์ข้อความว่าบทเรียนของชีวิต และวิบากบาป ศักดิ์สิทธิ์
พ.ต.ท.ปุณณริศร์ กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบถามคนที่มาดูห้องพักและพบศพคนตาย ทราบว่า คนที่พักอยู่ในอพาร์ทเม้นท์เดียวกับคนตาย พบน้ำไหลออกจากห้องคนตาย จึงเรียก รปภ.มาดูและเคาะประตูเรียกแต่ไม่มีคนเปิด จึงเปิดประตูเข้าไปภายในห้องและพบศพเจ้าของห้องตาย จึงรีบแจ้งตำรวจและพบว่าน้ำในห้องน้ำเปิดทิ้งไว้จนน้ำเอ่อล้นออกมานอกห้อง ในส่วนของการฆ่าตัวตายในครั้งนี้นั้น จากการตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว เชื่อว่า ผู้ตายได้พยายามฆ่าตัวเองจำนวน 4 ครั้ง ครั้งแรกนำสายไฟมาผูกคอตัวเองในห้องน้ำแต่ยังไม่ตาย จึงกินยาล้างห้องน้ำเข้าไป ก็ยังไม่ตาย จึงกรีดข้อมือตัวเองทั้งสองข้าง แต่ก็ไม่ตาย ครั้งสุดท้ายจึงใช้มีดปลายแหลมเชือดคอตัวเอง และเสียเลือดมากและเสียชีวิตดังกล่าว
"ในส่วนของมาดามมายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่ามีตัวตนอยู่จริง แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เข้าไปอยู่กับเพื่อนๆในกรุงเทพฯมานานนับเดือนแล้ว คล้ายๆกับหนีหนี้ เพราะเท่าที่ทราบจากเพื่อนๆว่า มาดามมายเป็นหนี้จำนวนมาก จนอยู่ในพื้นที่ไม่ได้ ต้องหลบหนีไปที่อื่น จนเป็นสาเหตุให้นายวรพลฆ่าตัวตาย ซึ่งในจุดนี้ หากมีคนแจ้งความเอาผิดมาดามมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจะเรียกตัวมาสอบสวนได้"
จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กชื่อ มาดาม มาย พบว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มม็อบราษฎร โดยมีการโพสต์ข้อความโจมตีรัฐบาลและจาบจ้วงสถาบัน โดยมีการแชร์เฟซบุ๊กของนายอานนท์ นำภา และนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์




|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |