รัฐบาลเวียดนามวางกำลังทหารกลางเมืองโฮจิมินห์เมื่อวันจันทร์ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศแห่งนี้ ซึ่งกำลังเผชิญการระบาดของโควิด-19 รุนแรงที่สุดในเวียดนาม

    ข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เวียดนามเคยควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้เป็นส่วนใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ทว่าเริ่มแต่ปลายเดือนเมษายนเป็นต้นมา การแพร่เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมียอดสะสมมากกว่า 358,000 คนถึงวันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม และเสียชีวิตแล้ว 8,666 คน ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่พบในนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของเวียดนามที่มีประชากร 9 ล้านคน และจังหวัดอุตสาหกรรมที่อยู่รายรอบ

    ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามระบุว่า นครโฮจิมินห์มีผู้ติดเชื้อสะสม 176,000 ราย คิดเป็นครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 6,670 คน หรือ 80% ของผู้เสียชีวิตทั้งประเทศ

    เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ทางการเวียดนามบังคับใช้มาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายในนครโฮจิมินห์ และสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังได้ประกาศใช้มาตรการคุมเข้มยิ่งขึ้น เนื่องจากยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่กล่าวกันว่า การบังคับใช้มาตรการที่มีอยู่ยังไม่เข้มงวดเพียงพอ และประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะเริ่มใช้การล็อกดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ โดยห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน แม้แต่เพื่อซื้ออาหาร โดยทหารจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือ

    คำประกาศนี้ ซึ่งต่อมาแก้ไขให้ผู้คนในบางพื้นที่ออกมาซื้อหาอาหารได้ แต่สุดท้ายก็กลับมาสั่งห้ามโดยสิ้นเชิงอีก ยิ่งสร้างความสับสนและทำให้ประชาชนแตกตื่นเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อของกักตุนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ทหารออกแจกจ่ายอาหารแก่ผู้คนในเมืองนี้เมื่อวันจันทร์ ส่วนภาพที่รายงานทางสื่อของทางการเผยให้เห็นทหารติดอาวุธควบคุมตามจุดตรวจและตรวจสอบเอกสารของผู้ผ่านทาง

    ในคำประกาศเมื่อวันศุกร์ รัฐบาลเวียดนามประกาศไว้ด้วยว่า จะส่งข้าวสาร 130,000 ตันจากคลังข้าวมายังนครโฮจิมินห์ และอีก 23 เมืองและจังหวัด.