บช.น.เรียกสอบ ผู้ปกครองม็อบ ลูกนัทบุกชนสิระ


เพิ่มเพื่อน    

ไม่รู้ใครแหกตาใคร! "สิระ" ปัดยังไม่จ่าย 1 ล้าน แต่ขอพิสูจน์อีกรอบ วางเดิมพัน 1:10 ล้าน เอาหมอ 3 คนตรวจสอบ อ้าง "ลูกนัท" มองเห็น 15% ขณะที่ไฮโซสามนิ้วบุกถึงสภา งัดใบรับรองแพทย์ยันบอดจริงๆ รับคำท้าจ่ายเป็นคริปโตเคอเรนซี เพราะเงินในบัญชีมีแค่หลักหมื่น ผู้ปกครองม็อบละทุแก๊สกว่า 20 รายโดนด้วย บช.น.เรียกสอบ
    เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ   แถลงถึงการท้าพิสูจน์ความพิการทางสายตาของ "ไฮโซลูกนัท-นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย" ว่าไม่ขอเรียกว่าไฮโซลูกนัท เนื่องจากทราบว่าพ่อและแม่ของลูกนัทไม่ได้แฮปปี้กับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวชุมนุม ส่วนเรื่องดวงตาขอย้ำว่าที่เคยพูดว่าถ้าบอดสนิทให้หาหมอมายืนยันพร้อมใบรับรองแพทย์จะให้เงิน 1 ล้านบาท เท่าที่ตนทราบมาจากแหล่งข่าว มีข่าวดีว่าตาของนายธนัตถ์สามารถมองเห็นได้ 15% ตนขอดีใจด้วย หากเป็นเรื่องจริงก็ถือว่าเป็นข่าวดี  
    เขากล่าวว่า ที่นายธนัตถ์ไปออกรายการโทรทัศน์ จับผิดได้หลายอย่าง ไปแหกตาตัวเอง แหกได้คนเดียวแต่แหกคนอื่นไม่ได้ เพราะเห็นว่าจังหวะที่นิ้วเข้าใกล้ดวงตาที่บอด ถ้าบอดจจริงทำไมตากะพริบ และหมอก็ไม่มา พิธีกรก็ใจร้ายไปไหม ให้คนตาบอดมาแหกตาตัวเองเพื่ออะไร เพราะเรื่องนี้ต้องให้หมอแหก จะแหกคนทั้งประเทศหรืออย่างไร ซึ่งถ้าตาบอดจริง ต้องถามแพทย์ว่าจะต้องควักลูกตาออกแล้วนำดวงตาเทียมมาใส่หรือไม่ ทั้งนี้ หากพบว่าตาบอดจริง ก็ขอแสดงความเสียใจ และจะพาไปที่สภากาชาดไทยเพื่อขอรับบริจาคดวงตาจากผู้มีจิตศรัทธา
    "ถ้าแน่จริงวันจันทร์หน้าผมขอวางเงิน 1 ล้านบาท ให้นายธนัตถ์เอามาเพิ่มอีก 10 ล้านบาท นัดที่บ้านได้ แต่ไม่ขอหน้าที่รัฐสภาไปหา ไปหาหมอคนกลางจากโรงพยาบาลรัฐบาล ตรวจสอบพิสูจน์ดวงตา 3 คน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ทราบว่าจะมีเงินจำนวนถึง 10 ล้านบาทหรือไม่ เนื่องจากที่บ้านก็ไม่เอาด้วย และถ้าเป็นข่าวดีไม่บอดสนิท ให้นำเงิน 10 ล้านบาทไปซื้อข้าวหอมมะลิไปเพื่อแจกแก่คนหลักสี่-จตุจักร" นายสิระกล่าว
    ที่ประตูรัฐสภา ฝั่งวัดแก้วฟ้าจุฬามณี ไฮโซลูกนัทเดินทางเข้ายื่นใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่าดวงตาข้างขวาบอดให้กับนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ผ่านนายพีรวัส สมวงศ์ ผู้ช่วยดำเนินงาน คนที่ 3 ของนายสิระ โดยกล่าวว่า ในส่วนที่นายสิระเดิมพัน 1 ล้านบาท และท้าให้ตนวางเพิ่มอีก 10 ล้านบาท หากตาไม่บอดจริง เรื่องนี้มองว่าถึงอย่างไรประชาชนคนไร้บ้านก็วินและได้ประโยชน์ เพราะประชาชนจะได้มีเงินเข้ากระเป๋า ส่วนที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าตาขวาของตนยังกะพริบได้ปกติ กะพริบได้แต่ไม่ดีมาก และไม่มีความรู้สึก แต่ยืนยันว่ามองไม่เห็น และเทคโนโลยีที่มีตอนนี้ยังไม่สามารถรักษาได้  
    "ที่นายสิระออกมาระบุว่ามีแหล่งข่าวยืนยันว่าดวงตาของผมยังมองเห็น 15 เปอร์เซ็นต์นั้น ถ้าผมอยากตอแหลแล้วกลับมามองเห็นเป็นปกติเหมือนเดิม ไม่ว่าจะ 10, 20 หรือ 100 ล้าน ผมก็ยอมถ้ากลับมามองเห็นได้"
    เมื่อถามถึงกรณีที่ระบุว่าจะเปลี่ยนนามสกุลนั้น นายธนัตถ์กล่าวว่า การเปลี่ยนนามสกุลเพื่อที่ตนจะได้เป็นตัวเอง ไม่ถูกเหมารวมกับใครคนอื่นเลยดีกว่า แต่ตนยังรักแม่และน้องสาวเหมือนเดิม วันนี้สิ่งสำคัญคือสิทธิ์และเกียรติ การลิดรอนสิทธิ์กัน โดยเฉพาะเรื่องการเรียกร้องประชาธิปไตย การออกกลอุบายเพื่อลิดรอนสิทธิ์ตนรับไม่ได้ ไม่ใช่แค่ดวงตา แต่ตนมอบให้ทั้งชีวิต เอาชีวิตเป็นเดิมพันว่าการเมืองจะต้องดีขึ้น 
    ถามถึงกรณีการแต่งกายไปร่วมม็อบที่สังคมไม่สบายใจนั้น นายธนัตถ์ตอบว่า อะไรที่กระทบจิตใจเกินไปก็ต้องขอโทษ ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่น หรือเจตนาให้ประชาชนที่มีความรู้สึกเฉยๆ กับกลุ่มรอยัลลิสต์ ต้องโกรธเคือง เดือดร้อน เพราะความโกรธเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจ ตนเข้าใจดี เพราะเป็นโรคซึมเศร้า ถ้าทำให้โกรธก็ต้องขอโทษด้วย ไม่อยากให้รู้สึกแบบนั้น และไม่อยากเป็นศัตรูกับใคร ไม่ว่าจะเป็นนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนางทยา ทีปสุวรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ก็ไม่อยากเป็นศัตรู ตอนคาร์ม็อบมีช่วงที่ผ่านบ้านเขาย่านสุขุมวิท ตนยังได้บอกมวลชนว่าไม่ต้องเข้าไป ตนไม่โกรธใครทั้งนั้น
    ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสิระบอกให้ไปตรวจดวงตาที่โรงพยาบาลรัฐบาลโดยแพทย์ 3 คน นายธนัตถ์กล่าวว่า ตนไปได้ จะเอาหมอมา 300 คนก็ได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของหมอที่ออกใบรับรองแพทย์ให้ตน หากไม่เป็นความจริง เขาก็เสียหายและมีความผิดตามจรรยาบรรณแพทย์ และคงไม่มีใครกล้าทำ
    ด้านนายพีรวัสกล่าวว่า ช่วงนี้นายสิระกำลังยุ่งอยู่กับงานของสภา ทั้งการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญและการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 30 ส.ค. เวลา 13.00 น. จะนัดหมายกันที่บ้านทรงไทย ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อต่างคนต่างวางเงินในวันดังกล่าว ในส่วนของนายสิระจะวางเงินสด
    ขณะที่นายธนัตถ์กล่าวว่า ในส่วนของตนขอวางเป็นเช็ค เนื่องจากไม่ได้ถือเป็นเงินบาทไทย แต่เป็นคริปโตเคอเรนซี และคงไม่ถอนออกมาตอนนี้ เพราะค่าเงินกำลังขึ้น หากถอนออกมาขาดทุนแน่นอน ซึ่งตอนนี้ตนมีเงินแค่หลักหมื่นในบัญชี อย่างไรก็ตาม หากผลตรวจออกมาตนเป็นฝ่ายผิด ตนจะถอนเงินออกมาจ่ายแน่นอน คนอย่างตนไม่เชิดเงิน หรือจะให้ถอดนาฬิกาหรือสำเนาทะเบียนรถวางไว้ก็ได้ เพราะราคาใกล้เคียง 10 ล้าน 
    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน (สภาผู้แทนราษฎร)  ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท กรณีแต่งกายเลียนแบบเหมือนการแต่งกายของพระมหากษัตริย์หรือไม่ และกรณีชุมนุมครั้งที่ผ่านมา ไม่มีการขออนุญาตชุมนุม เป็นไปตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และคำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉิน ในสถานการณ์โรคติดต่ออันตราย
    "ผมมองว่านายธนัตถ์กระทำการห้อยกล้องที่คอ มันใช่วิสัยของคนปกติทั่วไปหรือไม่ พร้อมทั้งขอท้าไฮโซลูกนัทว่า หากไม่ได้มีเจตนาจริง ขอให้ไปสาบานกับผมที่วัดชนะสงคราม แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไฮโซลูกนัทมีวาระแอบแฝงแน่นอน แต่ถ้าสิ่งที่ผมคิดไม่ถูกต้อง ก็ขอให้ผมและครอบครัวมีอันเป็นไปภายใน 7 วัน" นายสนธิญากล่าว
    ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาครั้งแรก นายสราวุฒิ จันทร์ชมภู อายุ 23 ปี สัญชาติไทย ชาว กทม. ผู้ต้องหาคดีมั่วสุมก่อความวุ่นวาย โดยเป็นการฝากขังทางไกลผ่านระบบจอภาพ ขณะที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
    พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการดำเนินคดีของกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จนถึงปัจจุบันรวม 111 คดี มีผู้ต้องหาที่เข้าข่ายความผิด 591 สามารถจับกุมได้แล้ว 284 คน มีการออกหมายเรียกผู้ที่เข้าข่ายความผิดทั้งสิ้น 127 หมาย แบ่งเป็นแกนนำ 16 หมาย และแนวร่วม 111 หมาย
    "ขณะเดียวกันได้มีการออกหมายเรียกผู้ปกครองของผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน เบื้องต้นกว่า 20 คน ในตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ส่งเสริม หรือปล่อยปละละเลยให้เด็กออกมาก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง" รอง ผบช.น.กล่าว
    นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มารดาของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน จะขอพาตัวเพนกวินไปรักษาโควิด-19 ที่โรงพยาบาลศูนย์ธรรมศาสตร์ ว่าผู้บริหารกระทรวงจะเป็นผู้พิจารณา ถ้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่สามารถรักษาได้ ก็ต้องช่วย แต่ส่วนตัวเชื่อว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีมาตรฐานในการรักษาผู้ป่วยอยู่แล้ว และเรื่องนี้อยากให้ส่วนราชการไปบริหารจัดการ ฝ่ายการเมืองไม่ควรยุ่งเกี่ยว เพราะเกรงจะเป็นประเด็นที่ยาวไปอีก ซึ่งเชื่อข้าราชการจะพิจารณาได้อย่างรอบคอบ
       “หากอนุญาตให้ไปรักษาตัวภายนอก เกรงว่าจะทำให้นักโทษคนอื่นเอาอย่างได้ ขอย้ำว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีมาตรฐานในการรักษาที่ดีเหมือนโรงพยาบาลทั่วไปอยู่แล้ว” นายสมศักดิ์ กล่าว
    ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และรองประธานกรรมาธิการการตำรวจฯ กล่าวว่า เหตุทั้งหมดจะไม่เกิดหาก พล.อ.ประยุทธ์ลาออก แต่เมื่อยังไม่ลาออก กลุ่มผู้ชุมนุมจะไปพบ ท่านก็ไม่ให้พบ ดังนั้นท่านควรย้ายบ้านพักจากค่ายทหารใน กทม.ไปอยู่ในค่ายทหารจังหวัดลพบุรีหรือกาญจนบุรีก็ได้ จะได้เป็นการช่วยเหลือชาวแฟลตดินแดง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"