ติดเชื้อลดเหลือ1.5หมื่น 14วันประเมินคลายล็อก


เพิ่มเพื่อน    

ไทยติดเชื้อลดเหลือ 1.5 หมื่นราย ดับยังสูง 256 คน หายป่วยสะสมเกินล้าน ศบค.แจงปรับมาตรการคลายล็อกให้อยู่กับโควิดได้ ชี้ ก.ย.เดือนแห่งการทดลองระบบใหม่ ครบ 14 วันประเมินผลอีกครั้ง “มนัญญา” ติงกลางครม.ทำผม 1 ชั่วโมงไม่พอ "บิ๊กตู่" สั่งเพิ่มเป็น 2 ชม. ครม.เทงบ 105 ล้านพีอาร์สู้เฟกนิวส์ ทำเนียบฯ ผ่อนปรนสื่อเข้าทำงานได้ สธ.ห่วงเด็กเล็กป่วยพุ่ง 3.1 หมื่นคน สั่งศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยยกระดับสกัดแพร่เชื้อ 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม เวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,972 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 15,681 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 14,137 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,544 ราย และมาจากเรือนจำ 280 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 11 ราย​ ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,190,063 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 17,281 ราย​ ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,002,527 ราย อยู่ระหว่างรักษา 176,137 ราย อาการหนัก 5,058 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,062 ราย​ เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 256 ราย เป็นชาย 137 ราย หญิง 119 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 179 ราย มีโรคเรื้อรัง 55 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย อยู่ที่ จ.สิงห์บุรี เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย อยู่ที่ กทม. เสียชีวิตระหว่างการนำส่ง 1 ราย อยู่ที่ กทม. โดยจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ 79 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 11,399 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อใหม่ 217,207,453 ราย เสียชีวิตสะสม 4,514,945 ราย  
    สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ได้แก่ กทม. 3,771 ราย, สมุทรปราการ 1,055 ราย, สมุทรสาคร 966 ราย, ราชบุรี 779 ราย, ชลบุรี 747 ราย, ระยอง 518 ราย, นครราชสีมา 406 ราย, พระนครศรีอยุธยา 405 ราย, บุรีรัมย์ 389 ราย, นนทบุรี 365 ราย ทั้งนี้ มีการเปรียบเทียบยอดผู้ติดเชื้อระหว่างสัปดาห์ที่สามกับสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ส.ค. พบว่า จ.สมุทรปราการมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นที่สุด จำนวน 2,390 ราย เนื่องจากมีการปรับปรุงระบบการรายงานผู้ติดเชื้อที่มีความหลากหลายทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มเข้ามา ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อลดลงมากที่สุดคือ จ.สมุทรสาคร ที่ผู้ติดเชื้อสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ส.ค. ลดลงจากสัปดาห์ที่สามของเดือน ส.ค. 4,258 ราย จึงต้องขอชื่นชมชาวสมุทรสาครที่ดูแลกันอย่างดี 
    อย่างไรก็ตาม กรมอนามัยมีการรายงานจำนวนหญิงตั้งครรภ์ที่มีการติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-28 ส.ค. จำนวน 2,542 ราย ทารกติดเชื้อ 134 ราย ในจำนวนนี้มีมารดาเสียชีวิต 68 ราย ทารกเสียชีวิต 24 ราย ทำให้เราปรับแผนการฉีดวัคซีนมาเร่งฉีดให้คนกลุ่มนี้มากยิ่งขึ้นด้วย 
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่มีคนตั้งคำถามว่าขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังหลักหมื่นทำไมจึงรีบปลดล็อกดาวน์หรือผ่อนคลายมาตรการนั้น ที่ประชุม ศบค.ไม่ใช้คำนี้ แต่ใช้คำว่าปรับมาตรการ วันนี้ทั่วโลกมีการปรับมาตรการทางสังคมเพื่อรับมือโควิด-19 ทั้งสิ้น มีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่เข้มข้นมาตรการและยังรักษาตัวเลขผู้ติดเชื้อให้มีจำนวนน้อยได้อยู่ การที่เราปรับมาตรการเป็นการใช้ชีวิตวิถีใหม่โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. สิ่งสำคัญต้องขอความร่วมมือประชาชน เพราะการล็อกดาวน์บางพื้นที่ที่ผ่านมาทำให้เกิดตัวเลขที่เห็นในปัจจุบัน เราต้องปรับตัวให้อยู่กับเชื้อโรคดังกล่าวได้ ให้เหมือนกับไข้หวัดใหญ่ หรือวัณโรค 
    "เดือน ก.ย.นี้จะเป็นเดือนแห่งการทดสอบระบบว่ามาตรการที่ออกมาได้ผลหรือไม่ ซึ่งรัฐเป็นผู้ออกข้อกำหนด แต่ปัจจัยความสำเร็จคือความร่วมมือของผู้ประกอบการและประชาชน และจะมีการทบทวนมาตรการอีกครั้งใน 14 วันข้างหน้าว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร" โฆษก ศบค.กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ในข้อกำหนดที่ 32 นี้ มีเรื่องของการให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมมาตรการภาครัฐ และแผนจัดหาวัคซีน ยา เครื่องมือแพทย์ เร่งประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนรับทราบแนวปฏิบัติเพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาลด้วย  
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. ได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบกรณีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนด ศบค. ฉบับที่ 32 เกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิดที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นไป ซึ่งเมื่อรายงานถึงมาตรการผ่อนคลายให้ร้านเสริมสวย สถานเสริมความงาม เปิดให้บริการได้โดยกำหนดเงื่อนให้บริการ 1 คนไม่เกิน 1 ชั่วโมง และต้องนัดคิวไว้ล่วงหน้า และดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการอย่างเคร่งครัดนั้น น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวทักท้วงและให้ข้อเสนอแนะว่า “การทำผมเพียงชั่วโมงเดียวไม่เพียงพอ แค่สระผมก็ครึ่งชั่วโมงแล้ว จะแก้ไขได้หรือไม่ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องนัดคิวล่วงหน้าอยู่แล้ว” ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมไม่ทราบว่าสุภาพสตรีใช้เวลาทำผมนานเพียงใด หากเป็นเช่นนั้น 2 ชั่วโมงพอหรือไม่” ซึ่งที่สุดแล้ว พล.อ.ณัฐพลได้รับที่จะไปดำเนินการแก้ไข
    น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุข ติดตามกำกับดูแลระบบขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้มที่เริ่มกลับมาให้บริการได้ ทั้งในส่วนของรถโดยสารสาธารณะ รถตู้ รวมถึงอากาศยาน ให้ดำเนินตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคที่ยังต้องเข้มงวด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับทั้งประชาชนและพนักงานผู้ให้บริการ หากดำเนินการไปได้ราบรื่นจะนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นในระยะต่อไปได้ ในส่วนของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงเวลานี้ ขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด ตามแนวทางการป้องกันโรคในทุกกรณีทุกโอกาส 
    รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 105.59 ล้านบาท ให้กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการรณรงค์เอาชนะโควิดตามมาตรการเร่งด่วน เฉพาะกิจกรรมที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการในระยะเร่งด่วน หรือภายในเดือน ธ.ค.2564 ทั้งนี้ กรมประชาสัมพันธ์ระบุว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งเกิดการเผยแพร่ข่าวปลอม การบิดเบือนข้อมูลข่าวสารเป็นจำนวนมาก
    น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.รับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการนำร่องการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน (Factory Sandbox) ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ภายใต้แนวคิด “เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข” โดยมุ่งเน้นให้สถานประกอบการ กิจการ โรงงานภาคการผลิตส่งออกขนาดใหญ่ (แรงงาน 500 คนขึ้นไป) ที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19 โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร และชลบุรี, ระยะที่ 2 พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ซึ่งจะมุ่งเป้าไปยังกลุ่มสถานประกอบการ 4 ประเภทอุตสาหกรรม ได้แก่ 1.ยานยนต์ 2.ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 3.อาหาร และ 4.อุปกรณ์การแพทย์ เบื้องต้น มีสถานประกอบการทำข้อตกลงแล้ว 46 แห่ง และมีสถานพยาบาลเข้าร่วมโครงการ 4 แห่ง สามารถดูแลผู้ประกันได้จำนวน 9.2 หมื่นคน 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีให้สื่อมวลชนงดการปฏิบัติหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาล จนถึงวันที่ 31 ส.ค.64 นั้น ล่าสุดนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ลงนามประกาศสำนักเลขาธิการนายกฯ อนุญาตให้สื่อมวลชนกลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาล โดยยังคงจำกัดจำนวนสื่อมวลชนสังกัดละ 2 คน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.64 เป็นต้นไป 
    ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หลังจากพบคลัสเตอร์ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลขึ่ง อ.เวียงสา จ.น่านนั้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะมีแนวโน้มระบาดในกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งพบเด็กปฐมวัย (0-5 ปี) ติดเชื้อตั้งแต่ 1 เม.ย.-21 ส.ค.2564 จำนวน 31,811 คน เป็นคนไทย 27,755 คน ต่างชาติ 4,056 คน เสียชีวิตรวม 9 คน สาเหตุที่ติดเชื้อมากที่สุดคือสัมผัสกับคนใกล้ชิดที่เป็นผู้ป่วยยืนยันมากที่สุด 18,807 คน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ หากผู้ป่วยเด็กคนนั้นมีภาวะอ้วน เป็นโรคพันธุกรรมเมตาบอลิก เบาหวาน หอบหืด หัวใจพิการแต่กำเนิด หรือภาวะผิดปกติทางระบบประสาทในบางรายส่งผลให้อันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นขอให้ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยที่ยังเปิดให้บริการอยู่เข้าประเมินตนเองผ่าน Thai Stop COVID Plus พร้อมยกระดับการคุมเข้มขั้นสูงสุด รวมทั้งคัดกรองครูผู้ดูแลเด็กด้วยการตรวจ Antigen Test Kit (ATK)​
    ที่ จ.กระบี่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประกาศปิดพื้นที่หมู่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านพรุใหญ่ ต.คลองพน อ.คลองท่อม เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่  30 ส.ค.-5 ก.ย.64 หลังพบมีการติดเชื้อจากคลัสเตอร์ร้านของชำในหมู่บ้าน วันเดียว 13 ราย ขณะที่สำนักงานสาธารสุขอำเภอคลองท่อมเร่งติดตามค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในพื้นที่ ซึ่งมีผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันทั้งหมด 67 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 58 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 9 ราย  
    ที่ จ.นครพนม มีผู้ป่วยรายใหม่ 29 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 5 ราย เป็นชาว อ.ปลาปากและ อ.เมืองฯ ซึ่งพบเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์คนงานศูนย์กระจายสินค้าเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทำให้มีผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์นี้แล้ว 67 ราย.
        


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"