ศบค.คงแดงเข้มเคอร์ฟิวถึงสิ้นก.ย.


เพิ่มเพื่อน    

ศบค.ตรึงทุกมาตรการถึง 30 ก.ย. ยังคง 29 จังหวัดสีแดงเข้ม นายกฯ สั่งคลังลดหย่อนภาษี-เติมเงิน "เป๋าตัง" หนุน ปชช.เข้าถึง ATK ขณะที่ติดเชื้อใหม่ทรงตัว 1.4 หมื่นราย ดับต่ำกว่า 200  ราย "บิ๊กตู่" ปลุกคนไทยต้องอยู่กับโควิดให้ได้ ชี้แนวโน้มดีขึ้น ลุยตรวจเยี่ยมโรงงานต้นแบบ “Factory Sandbox” ชื่นชมภาคเอกชนร่วมมือช่วยดันเศรษฐกิจฟื้น สธ.พึ่ง อสม.แนะนำชาวบ้านวิธีใช้ชุดตรวจ  สตช.นำร่องส่งรถเคลื่อนที่เช็กโควิดโรงพัก 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน  โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,403 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 14,045 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ  12,770 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,275 ราย และมาจากเรือนจำ 341 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,352,953 ราย  หายป่วยเพิ่มขึ้น 15,610 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี  2563 จำนวน 1,197,391 ราย อยู่ระหว่างรักษา 141,642  ราย อาการหนัก 4,330 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 915 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 189 ราย เป็นชาย 92 ราย หญิง 97 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 127 ราย มีโรคเรื้อรัง 39 ราย เสียชีวิตที่บ้าน 1  รายที่ จ.นครสวรรค์ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 13,920 ราย 
    สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 3,495 ราย  สมุทรปราการ 1,037 ราย ชลบุรี 801 ราย สมุทรสาคร 678 ราย  ราชบุรี 615 ราย นนทบุรี 496 ราย นราธิวาส 402 ราย ปราจีนบุรี 399 ราย ระยอง 393 ราย สระบุรี 321 ราย ทั้งนี้มีการรายงานตัวเลขผู้รักษาตัวที่บ้านในพื้นที่ กทม. โดยมียอดสะสม  110,513 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 680 ราย โดยจำนวนนี้หายป่วยไปแล้ว 86,573 ราย ต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาล 12,481  ราย ซึ่งแนวโน้มผู้เข้ารับการรักษาที่บ้านลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการติดเชื้อของทั้งประเทศสัปดาห์นี้ยังไม่ดีขึ้นมาก สถานการณ์ถือว่าทรงๆ อยู่ 
    ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ผ่านระบบการประชุมทางไกล หลังจากนั้นเวลา 15.30 น. นพ.ทวีศิลป์แถลงผลการประชุม ศบค.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้คงระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ยังคงไว้ที่ 29 จังหวัดตามเดิม นอกจากนี้ให้คงมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามข้อกำหนด ฉบับที่ 32 ถึง  30 ก.ย.64  
    โฆษก ศบค.กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการและโรงงานอุตสาหกรรมได้รายงานข้อมูลว่า มีโรงงานที่พบผู้ติดเชื้อโควิด 65,887 คนในโรงงาน  952 แห่ง รักษาหายแล้ว 25,983 คน คิดเป็น 39% โดยจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรก คือ เพชรบุรี, สมุทรปราการ,  ฉะเชิงเทรา, สระบุรี และสมุทรสาคร ตามลำดับ ส่วนการสำรวจความพร้อมการดำเนินมาตรการป้องกันโรคตามโครงการ Thai Stop  Covid-19 ของโรงงาน 64,038 แห่ง พบว่ามีการประเมินตัวเองเพียง 21,130 แห่ง ผ่านเกณฑ์ 13,836 แห่ง ไม่ผ่านเกณฑ์  7,294 แห่ง และในการสัมมนาร่วมกับผู้ประกอบการต่างๆ  ของกระทรวงอุตสาหกรรม พบว่า 48% ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินการบับเบิลแอนด์ซีล เพื่อขอความช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่าย 32%  ขอรับสนับสนุนชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) 20%  
    นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวถึงแนวทางที่รัฐสนับสนุนให้คนไทยเข้าถึงชุดตรวจ ATK ว่า นายกรัฐมนตรีให้โจทย์ไปกับ รมว.การคลัง และได้รับทราบว่าเพื่อให้เป็นตามนโยบาย ศบค.ที่จะเพิ่มการตรวจ ATK ในประชากรโดยเฉพาะกลุ่มแรงงาน โดยมี  2 มาตรการ คือ 1.ผู้ประกอบการที่จัดซื้อ ATK มีค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่าของที่จ่ายไป  2.เพิ่มเงินในแอปพลิเคชันเป๋าตังสนับสนุนให้ประชาชนหาซื้อชุดตรวจด้วยตัวเอง ซึ่งจะต้องติดตามรายละเอียดจากกระทรวงการคลังต่อไป 
    "การยังคงมาตรการไปจนถึงเดือน 30 ก.ย.นี้ เป็นเรื่องที่เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจกันในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งโรคนี้ยังไม่จบง่ายๆ เราต้องอยู่กับโควิดนี้ต่อไปและขอความร่วมมือกันต่อไป" โฆษก ศบค.กล่าวทิ้งท้าย 
    ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า นายกฯ ยังได้สั่งให้ติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ MU (มิว) ที่ขณะนี้ยังไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศไทย  รวมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อสังเกต ข้อเสนอแนะ หรือข้อท้วงติงที่เป็นประโยชน์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาปรับใช้ในการทำงาน  เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น 
    ในช่วงเช้าวันเดียวกัน เวลา 08.30 น. นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงงานตามโครงการ “Factory Sandbox”  ที่บริษัท เอส.บี.อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมกล่าวว่าขอบคุณทุกคน อาจเหนื่อยหน่อย แต่เราทำเพื่อทุกคน เราคนไทย ทำเพื่อคนไทย ถือว่าทุกคนทำงานร่วมกัน วันนี้เราต้องอยู่ร่วมกับโควิดให้ได้ เพราะคงไม่หมดไปตอนนี้ แต่แนวโน้มดีขึ้น ดูจากยอดผู้ติดเชื้อและยอดที่รักษาหายใกล้เคียงกันแล้ว ขณะที่ผู้ป่วยหนักอาการสีแดงรุนแรงก็ลดลง โอกาสคนเสียชีวิตก็ลดลงด้วยเพราะกราฟเริ่มลงแล้ว เราคาดการณ์ไว้เช่นนั้น และขอให้ทุกคนช่วยกันพยุงเศรษฐกิจของประเทศให้ได้ เพราะถือเป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญ วันนี้เหนื่อยก็ต้องทนได้ต้องช่วยกัน
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า ขอชื่นชมบริษัทแห่งนี้ที่ถือว่าเป็นสถานประกอบการรายใหญ่ ในบรรดาหลายหมื่นโรงงานทั่วประเทศ โดยได้คุยกับผู้บริหารและชื่นชมที่เป็นคนรุ่นใหม่ การดำเนินงานต่างๆ ตรงกับมาตรการที่รัฐบาลออกไป ผลสัมฤทธิ์หลายๆ อย่างเกิดจากมาตรการของรัฐบาล ที่ทางสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการมา โรงงานนี้จะเป็นแม่แบบของโรงงานขนาดใหญ่แห่งอื่นด้วย 
    เมื่อถามว่า มาตรการท่องเที่ยวยังเดินหน้าต่อและขยายเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องเดินต่อ เราต้องอยู่ร่วมกับโควิดให้ได้  คุณโควิดเนี่ย ใช่หรือไม่ มันหนีไม่พ้น ทั้งโลกก็หนีไม่พ้น ต้องใช้ทุกมาตรการที่ทำได้ ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน
    "ผมจะไปอยากปิดทำไม ผมรู้ว่าทุกคนมีค่าใช้จ่าย ส่วนไหนที่รัฐบาลดูแลได้ก็ดูแลให้ไปพลางๆ ก่อน แต่ทุกอย่างจะกลับมาระดับเดิมคงลำบาก แต่แนวโน้มน่าจะดีขึ้น จากสถานการณ์ที่เราประเมินในต่างประเทศ เราทำอะไรได้บ้าง ทำมากกว่าหลายประเทศ ไม่ว่าจะเงินช่วยเหลือ การเข้าถึงประชาชนโดยตรง ต่างประเทศเขาชมเราทั้งนั้นว่าทำได้  องค์กรระหว่างประเทศ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็บอกว่ารัฐบาลใช้เงินจำนวนมาก ถ้าเทียบกับตัวเลขจีดีพีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหาโควิด" นายกฯ ระบุ
    ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า วันที่ 16 ก.ย.นี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะกระจายชุดตรวจ 8.5 ล้านชุดให้ประชาชนทั่วประเทศ ภารกิจเพิ่มเติมที่มอบหมายให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ดำเนินการในช่วงนี้คือ แนะนำวิธีการใช้ชุดตรวจแก่ประชาชน และเมื่อมีผลตรวจออกมาแล้วต้องดำเนินการต่ออย่างไร เช่นผลลบก็ต้องติดตามอาการจนครบ 14 วัน ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 5 วัน หากผลบวกก็ช่วยประสานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือโรงพยาบาล เพื่อพิจารณาแยกรักษากักตัวที่บ้านหรือชุมชน  เป็นต้น โดย สบส.จะประสานศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพทุกเขตให้ความรู้เบื้องต้นแก่ อสม. ซึ่งชมรม อสม.แห่งประเทศไทยเริ่มอบรม อสม.บางพื้นที่แล้ว 
    ที่กรมการแพทย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผู้บริหาร รับมอบเครื่องผลิตออกซิเจนจากรัฐบาลอินเดียจำนวน 300 เครื่อง เพื่อสนับสนุนการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 
    พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรพล อยู่นุช ที่ปรึกษาพิเศษ สํานักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจความพร้อมรถเคลื่อนที่ตรวจโควิด-19  เชิงรุกคันแรก เพื่อเป็นการนำร่องโครงการตรวจเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ที่ สน.พลับพลาไชย 1-2 สำหรับรถตรวจเคลื่อนที่นี้มีทั้งหมด 10 คัน  โดยในแต่ละคันจะมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 4 นาย แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจหาเชื้อ 2 นาย เจ้าหน้าที่ลงทะเบียน 1 นาย และพลขับอีก 1  นาย ซึ่งจะนำมาใช้ในการตรวจเชิงรุกตามสถานีตำรวจในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อข้าราชการตำรวจและครอบครัว รวมถึงประชาชนที่อยู่ในชุมชนได้เข้าถึงการตรวจแบบทั่วถึง 
    ที่ จ.สงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ประธานกรรมการโรคติดต่อ  จ.สงขลา เปิดเผยว่า จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชนพบว่าหมู่บ้านหาดทราย ม.6 ต.ธารคีรี อ.สะบ้าย้อย หมู่บ้านเดียวมีผู้ป่วยโควิดเกือบทั้งหมู่บ้านคือกว่า 90 คน และยังมีกลุ่มเสี่ยงอีกเกือบ 50 คน  จึงจำเป็นต้องปิดหมู่บ้าน ห้ามไม่ให้ใครเข้าออกโดยไม่จำเป็นเวลา 14  วัน เพื่อจะดำเนินการตรวจหาเชื้ออย่างละเอียด 
    ที่ จ.นครพนม ได้สั่งปิดหมู่บ้านกุดข้าวปุ้น ม.3 ต.ขามเฒ่า เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-16 ก.ย. หลังพบผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์งานศพเพิ่มอีก 2 ราย รวมแล้ว 10 ราย ทั้งนี้หมู่บ้านนี้เคยเกิดการระบาดของคลัสเตอร์รถบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ และคลัสเตอร์คนงานขนถ่ายสินค้ามาแล้ว กระทั่งมาเกิดคลัสเตอร์ครั้งที่ 3 ขึ้นอีก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"