ผู้ไม่ฉีดวัคซีนตาย1.1หมื่นราย


เพิ่มเพื่อน    

โควิดไทยขาลง! ติดเชื้อ 1.2 หมื่นราย ดับ 132 ราย ยกเว้น 4 จว.ใต้-นนทบุรี-ปทุมฯ ยังพุ่ง เปิดตัวเลขผู้ไม่ได้ฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิตมากถึง 11,563 ราย ผวางานศพคลัสเตอร์ระบาด "วิษณุ" ชี้ พ.ร.บ.โรคติดใหม่ฉบับใหม่ยังไม่เสร็จ ไม่ทันสิ้นเดือนต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ สธ.คิกออฟฉีดวัคซีนหญิงตั้งครรภ์ 1 เดือน 1 แสนราย สภาวุ่น! ส.ว.ติดโควิด 1 ราย หลังประชุมร่วมโหวตแก้ รธน. ฝั่ง ส.ส.พบ ขรก.-จนท.ป่วย 12 ราย 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 กันยายน เวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12,583 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 12,409 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 11,232 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,177 ราย และมาจากเรือนจำ 163 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 11 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,394,756 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 16,304 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,248,158 ราย อยู่ระหว่างรักษา 132,113 ราย อาการหนัก 4,096 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 835 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 132 ราย เป็นชาย 63 ราย หญิง 69 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 100 ราย มีโรคเรื้อรัง 26 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย ที่ จ.กำแพงเพชร เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย ที่ จ.ตาก เป็นชาวเมียนมา พบผู้เสียชีวิตมากที่สุดใน กทม. 23 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 14,485 ราย  
    สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 3,329 ราย ชลบุรี 650 ระยอง 647 ราย นนทบุรี 468 ราย สมุทรปราการ 443 ราย สมุทรสาคร 402 ราย นราธิวาส 401 ราย ยะลา 366 ราย สงขลา 301 ราย ราชบุรี 299 ราย อย่างไรก็ตาม อัตราติดเชื้อขณะนี้ถือว่าเป็นขาลง เราผ่านภูเขาสูงมาแล้ว มีทิศทางและปลายทางที่ดี กราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งประเทศเป็นสีเขียว เช่นเดียวกับในเรือนจำ แต่ในส่วนของ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงนนทบุรีและปทุมธานี กราฟยังเป็นสีแดงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่  
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศปก.สธ.) ผอ.สำนักกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้นำข้อมูลการเสียชีวิตระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-9 ก.ย. จำนวนทั้งสิ้น 13,637 ราย เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ค่าอายุกลางอยู่ที่ 67 ปี อายุน้อยสุด 12 วัน อายุมากสุด 109 ปี เป็นผู้มีโรคประจำตัว 12,239 ราย ไม่มีโรคประจำตัว 1,127 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 21 ราย และหากจำแนกสถานที่เสียชีวิตจากผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ จำนวน 13,637 ราย พบว่าเป็นการเสียชีวิตในสถานพยาบาล 13,067 ราย เสียชีวิตนอกสถานพยาบาล 361 ราย และไม่ระบุ 209 ราย 
    มีข้อมูลอัตราการเสียชีวิตเทียบกับประวัติการได้รับวัคซีน พบว่ามีผู้เสียชีวิตที่ได้วัคซีนครบ 2 เข็มก่อนวันเริ่มป่วยมากกว่า 2 สัปดาห์ จำนวน 67 ราย ได้รับวัคซีน 2 เข็มก่อนวันเริ่มป่วยน้อยกว่า 2 สัปดาห์ จำนวน 40 ราย ได้รับวัคซีน 1 เข็มก่อนวันเริ่มป่วยมากกว่า 2 สัปดาห์ จำนวน 980 ราย ได้รับวัคซีน 1 เข็มก่อนวันเริ่มป่วยน้อยกว่า 2 สัปดาห์ จำนวน 987 ราย ไม่มีประวัติได้รับวัคซีน จำนวน 11,563 ราย หรือ 84.8% ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการได้รับวัคซีนไม่ใช่ป้องกันการติดโรค แต่เพื่อให้การป่วยหนักและเสียชีวิตลดน้อยลง  
    โฆษก ศบค.กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อที่ยังเป็นหมื่นอยู่ในปัจจุบัน มีคำถามว่าคนเหล่านั้นไปติดเชื้อจากไหน มีข้อมูลว่าหลายจังหวัดเป็นการติดเชื้อจากงานศพ ที่มีการรับประทานอาหารร่วมกัน พูดคุยกัน ค้างคืนอยู่เฝ้าศพ อยู่ใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน ตรงนี้จึงกลายเป็นกิจกรรมเสี่ยง นอกจากนี้ยังพบมีการจัดอีเวนต์ส่งเสริมการขายในพื้นที่ที่ให้จัดได้ แต่ก็ไม่ควร ขณะเดียวกันยังพบบางพื้นที่ละเมิดจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ร้านอาหาร สถานีขนส่ง โรงเรียน ตลาด บางทีมีการหย่อนยาน เราจึงต้องช่วยกันลดตรงนี้ให้ได้จนถึงสิ้นเดือน ก.ย.นี้ และต้องดูว่าเมื่อเดือน ต.ค.แล้วจะมีมาตรการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมอย่างไร   
    เมื่อถามถึงกรณีที่อาจารย์แพทย์ออกมาเตือน ศบค.ปรับมาตรการในบางกิจการกิจกรรมให้ผ่อนคลายมากขึ้น จะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นหรือไม่ และ ศบค.มีมาตรการรับมืออย่างไร นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ขอใช้คำเดิมว่าคือการปรับมาตรการ ไม่อยากให้ใช้คำว่าผ่อนคลาย แต่ปรับมาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจเดินไปได้พร้อมกับมาตรการควบคุมโรค โดยผู้ประกอบการ ร้านค้า มาพูดคุยกับ ศปก.ศบค.กับ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งยินดีให้ความร่วมมือ ก่อนที่จะประกาศมาตรการออกไป ทั้งนี้ เมื่อประกาศไปแล้ว สิ่งที่เป็นภาพสะท้อนก็เป็นข้อห่วงใยที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าในห้างสรรพสินค้าคนแน่น บนถนนรถติด ไปตลาดเห็นคนที่มีชุดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นมา ขอบอกตามตรงว่ารู้สึกไม่สบายใจ คงต้องขอความร่วมมือจากประชาชนมากกว่าที่จะโทษใคร เมื่อเราตกลงร่วมกันแล้วจึงขอความร่วมมือกัน มี 3 ประเด็น คือ บุคคลเสี่ยง สถานที่เสี่ยง กิจการกิจกรรมเสี่ยง หากเห็นภาพเหล่านั้นว่าเสี่ยง ขอว่าอย่าไปร่วมเสริมเติมเข้าไป ขอให้คิดเสมอว่าทุกคนมีโอกาสติดโรคโควิด-19 ได้ ขอความร่วมมือจากทุกคน การ์ดอย่าตก 
    ทางด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อฉบับใหม่ที่จะมาแทน ศบค.ว่า ขณะนี้ยังไม่เสร็จ ซึ่งการขยายเวลาการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ต่อไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. และหากสมมติถึงตอนนั้นยังใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับใหม่ไม่ได้ก็ต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป และเมื่อ พ.ร.บ.โรคติดต่อเสร็จเมื่อไหร่ค่อยยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เว้นแต่ว่าไม่มีสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ไม่ว่าจะมี พ.ร.บ.โรคติดต่อหรือไม่ก็ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ศบค.จะรายงานขึ้นมา ซึ่งจะไม่มีช่วงใดที่จะเกิดช่องว่างขึ้น 
    ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานเดือนแห่งการรณรงค์หญิงตั้งครรภ์เข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 “1 เดือน 1 แสนราย” ว่า จากการสำรวจการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด 6 สัปดาห์ และทารกแรกเกิด ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-9 ก.ย.2564 พบว่ามีหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ จำนวน 3,223 ราย เสียชีวิต จำนวน 73 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.26 และทารกแรกเกิดติดเชื้อ จำนวน 154 ราย คิดเป็นร้อยละ 8.89 ดังนั้นกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ต้องเร่งให้ได้รับวัคซีนโดยเร็ว ทาง สธ.ได้อาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนขับเคลื่อนเพื่อให้หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง ภายใต้กิจกรรมเดือนแห่งการรณรงค์หญิงตั้งครรภ์เข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยมีเป้าหมายคือ “1 เดือน 1 แสนราย” เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.-13 ต.ค.นี้
    ​ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูลเมื่อวันที่ 29 ส.ค.-9 ก.ย.2564 มีหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนแล้วทั้งหมด 68,435 ราย เข็มที่ 1 จำนวน 53,697 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 14,559 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 179 ราย ซึ่งถือว่ายังน้อยมาก ทั้งนี้ หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ หรือ 3 เดือน สามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
    ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภารายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา วุฒิสภาได้รับแจ้งว่า นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ส.ว. ติดเชื้อโควิด-19 โดยขณะนี้ยังไม่ทราบว่าติดเชื้อจากสถานที่ใด ทั้งนี้ นายอภิชาติได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าครบ 2 เข็มแล้ว อย่างไรก็ดี นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการเพื่อรองรับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จะดำเนินการติดตามไทม์ไลน์อย่างละเอียดจากนายอภิชาติอีกครั้ง เบื้องต้นพบว่านายอภิชาติได้ร่วมประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 6-8 ก.ย. และเข้าประชุมร่วมกันของรัฐสภา วันที่ 10 ก.ย. ตั้งแต่ลงมติร่างรัฐธรรมนูญจนการประชุมล่ม ทั้งนี้ ในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่วุฒิสภาได้ประสานไปยังบุคคลที่ใกล้ชิดนายอภิชาติให้เข้าตรวจ ATK ที่รัฐสภาด้วย
    นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กรณีที่มี ส.ว. 1 คน ติดเชื้อโควิดและได้เข้าประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยในช่วงกลางวันยังไม่มีอาการ แต่หลังจากกลับไปในตอนเย็นเริ่มมีอาการและตรวจพบเชื้อนั้น ในห้องประชุมส่วนมาก ส.ว.จะนั่งอยู่ในฝั่ง ส.ว. ฉะนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงส่วนใหญ่จะอยู่ในฝั่ง ส.ว. สำหรับฝั่ง ส.ส.ได้มีการแจ้งไปยังสมาชิกให้ทราบ โดยในวันประชุมสภา วันที่ 15 ก.ย. จะมีการตรวจ ATK ให้กับ ส.ส.ตามความสมัครใจ ส่วนการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 17 ก.ย. จะมีการตรวจ ATK ให้กับสมาชิกรัฐสภาที่บริเวณชั้น 1 ด้านหน้าทางเข้าอาคารรัฐสภา
    นพ.สุกิจกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1-11 ก.ย. ฝั่ง ส.ส.มีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ต่างๆ และ ส.ส. ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนทั้งหมด 12 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็น ส.ส. 1 คนคือ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ได้เกิดคลัสเตอร์ขึ้นในสำนักรักษาความปลอดภัยของสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จึงได้รายงานไปยังกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ซึ่งได้ร่วมกับสำนักรักษาความปลอดภัย และสำนักบริการทางการแพทย์ของสำนักเลขาธิการสภาฯ ลงพื้นที่สอบสวนโรคระหว่างวันที่ 10-11 ก.ย. โดยสรุปผลเบื้องต้น คลัสเตอร์ดังกล่าวไม่พบปัจจัยเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุมในรัฐสภา สาเหตุใหญ่คือระบบระบายอากาศในห้องพนักงานไม่ดีพอ มีการถอดหน้ากากอนามัยเวลารับประทานอาหาร มีการพูดคุย และสัมผัสเสี่ยงร่วมกัน คือแฟลตของสภา 
    ทั้งนี้ จากการตรวจเชิงรุกที่แฟลตสภาในวันที่ 10-11 ก.ย.ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อ 7 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในหน่วยงาน 18 ราย โดยในผู้ติดเชื้อ 7 รายเป็นฝั่ง ส.ว.จำนวนหนึ่ง และเป็นบุคคลภายนอก ซึ่งขณะนี้ได้มีการกักตัวเจ้าหน้าที่ของสำนักรักษาความปลอดภัย 21 คน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"