รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนทางใต้ของจีนเร่งใช้มาตรการตรวจหาเชื้อและล็อกดาวน์ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มเป็นมากกว่า 100 คนในเวลา 4 วัน เชื่อต้นตอโยงถึงผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาที่เพิ่งเดินทางกลับจากสิงคโปร์แล้วลูกชายวัยประถมแพร่เชื้อต่อในโรงเรียน ทำให้มีนักเรียนติดเชื้อเกือบ 40 คนแล้ว

ชาวจีนในเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน มารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จุดบริการเก็บตัวอย่างในชุมชนหนึ่งเมื่อวันอังคาร (Feature China/Barcroft Media via Getty Images)

    การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในหมู่เด็กนักเรียน ซึ่งไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กำลังสร้างความวิตกกังวล และทำให้รัฐบาลฝูเจี้ยนมีคำสั่งให้ตรวจหาเชื้อไวรัสกับครูและนักเรียนทุกคนในมณฑลนี้ภายใน 1 สัปดาห์

    รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์อ้างแถลงของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนเมื่อวันอังคารที่ 14 กันยายนด้วยว่า จีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันจันทร์ 59 ราย อยู่ในมณฑลฝูเจี้ยนทั้งหมด ซึ่งเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นจากยอดติดเชื้อ 22 รายของวันก่อนหน้านั้น และทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันภายใน 3 เมืองของฝูเจี้ยนเพิ่มเป็น 102 คนแล้ว

    คลัสเตอร์ใหม่ที่ฝูเจี้ยนเป็นการติดเชื้อภายในชุมชนจำนวนมากที่สุดของจีนในรอบหลายสัปดาห์ และเกิดขึ้นหลังจีนประกาศว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ที่เมืองหนานจิงซึ่งเป็นการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุดนับจากอู่ฮั่น

    เจ้าหน้าที่กล่าวกันว่า ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกที่นำไวรัสเข้ามาแพร่ในฝูเจี้ยนเป็นชายชาวเมืองผู่เถียน ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากสิงคโปร์ และถึงขณะนี้พบการแพร่เชื้อไปถึงเมืองเซี่ยเหมินและเมืองเฉวียนโจวที่อยู่ติดกันด้วย

    บีบีซีอ้างข่าวของหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ว่า ชายคนนี้ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาเมื่อวันที่ 10 กันยายน หรือ 38 วันนับแต่เดินทางกลับมาจากสิงคโปร์เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม และเป็นการตรวจพบหลังจากเขากักตัวครบ 21 วันและผ่านการตรวจแล้ว 9 ครั้งแต่ไม่พบเชื้อ จึงยังไม่ชัดเจนว่าเขาติดเชื้อไวรัสเดลตามาจากต่างประเทศหรือไม่

    ลูกชายอายุ 12 ปีของชายผู้นี้และเพื่อนนักเรียนอีกคนอยู่กลุ่มผู้ป่วยรายแรกๆ ของคลัสเตอร์ใหม่ที่พบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่โรงเรียนเพิ่งเปิดภาคเรียนใหม่ เจ้าหน้าที่เผยเมื่อวันอังคารว่า ถึงขณะนี้ไวรัสได้แพร่เชื้อไปยังชั้นเรียนอื่นๆ ด้วย โดยมีนักเรียนติดเชื้อแล้วมากกว่า 36 คน รวมถึงเด็กอนุบาล 8 คน เป็นการแพร่ระบาดที่เกี่ยวโยงกับโรงเรียนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งแรกของจีน

    ข้อมูลจากสำนักข่าวซินหัวกล่าวว่า นับถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จีนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วมากกว่า 2,000 ล้านโดส หรือราวร้อยละ 70 ของประชากร แต่เด็กส่วนใหญ่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

    รัฐบาลท้องถิ่นเมืองผู่เถียน ซึ่งมีประชากร 3.2 ล้านคน สั่งให้โรงเรียนหยุดการเรียนการสอนในชั้นเรียนเมื่อวันจันทร์ และในวันอังคาร รัฐบาลเมืองเซี่ยเหมินก็สั่งหยุดการสอนในชั้นเรียนเช่นกัน ทั้งสองเมืองนี้เริ่มการตรวจเชื้อไวรัสประชากรทุกคนในวันอังคาร

    เมืองเซี่ยเหมินพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 32 คนในวันจันทร์ เพิ่มจาก 1 คนในวันก่อนหน้านั้น ทางการเซี่ยเหมินสั่งล็อกดาวน์บางพื้นที่เช่นเดียวกับที่ผู่เถียน และสั่งระงับบริการรถโดยสารทางไกลและปิดสถานที่สาธารณะ เช่น โรงภาพยนตร์, โรงยิม และบาร์ รวมถึงขอร้องประชาชนอย่าออกนอกเมืองถ้าไม่จำเป็น.